
แอดไวซ์ เผยยอดรายได้รวมโตสวนกระแส ขณะที่ตลาดยังสวิงเปลี่ยนข้างจากพฤติกรรมการใช้งาน ตั้งเป้าเติบโต 1.3 หมื่นล้านบาท ราว 5%จากปีที่ผ่านมา แนะร้านไอทีท้องถิ่นขยับเข้าสู่บริการเพื่อมัดใจลูกค้ามากขึ้น พร้อมเตรียมกลยุทธ์เชิงรุกออนไลน์มากขึ้น
นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเน้นสร้างคอนเนอร์ DIY จับมือพาวเวอร์บาย สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ขยับเข้าไปสู่กลุ่มคอนซูเมอร์มากขึ้น โดยเซ็นทรัลจะมีกลุ่มเดอะวันการ์ดราว 10 ล้านคน
ซึ่งปีหน้าจะขยับเข้าไปในพาวเวอร์บายของ 15 สาขา ในกลุ่มไอทีมากกว่าโมบาย และปีหน้าจะขยับเข้าสู่บนมาเก็ตเพรสของพาร์ทเนอร์มากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะไม่ได้มุ่งเข้าสู่ออนไลน์ แต่ในกลุ่มของพาร์ทเนอร์มีการขยับเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้นทำให้เราต้องขยับเข้าออนไลน์เช่นกัน
ปีที่ผ่านมาสินค้าไอทียังไม่เห็นว่ามีส่วนไหนที่เติบโต (ตัวเลขราวกันยายนจากจีเอฟเคจำนวนขายออก) แต่ในส่วนของโน้ตบุ๊ค ยอดรายได้ขายปลีกติดลบ 8% ขณะที่ในส่วนของจำนวนติดลบ 7% (จำนวนเครื่อง)
จากปัจจัยเครื่องเกมมื่งที่มีราคาเฉลี่ยลดลง และกลุ่มคอนซูเมอร์ที่ลดลง ขณะที่กลุ่มเกมมิ่งซีรี่ย์ยังคงเติบโต อีกทั้งยอดขายเครื่องเดสก์ท็อปติดลบ 19% และอาจจะส่งผลให้ยอดรายได้ติดลบ 22%
ภาพรวมกลุ่มสินค้า DIY ไอที และโน้ตบุ๊คมูลค่าลดลง 16% จำนวนลดลง 13% โดยในกลุ่มของสตรอเรจส่วนของจำนวนคงที่ แต่ยอดขายติดลบรายได้ 12%
ในปีหน้าถ้ากลุ่มสินค้าไอทีจะเติบโตขึ้น จะเปิดการแบ่งเค้กรายได้ เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อยอดขายและพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งการแข่งขันจะต้องมุ่งเน้นที่กลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น ทั้งในส่วนของช่องทางออนไลน์ ขยายการทำออนไลน์ นอกเหนือจากการทำเพียงเว็บไซต์และเฟซบุ๊กเป็นหลัก
นอกจากนี้ปีหน้าจะยังขยับเข้าใกล้การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น และยังมีการทำรีแบรนด์ที่ยังอยู่ในช่วงของการกำหนดรายละเอียดอีกครั้ง
ดีเลอร์รายย่อยต่างจังหวัดจะสร้างยอดรายได้เหนื่อยมากขึ้น พฤติกรรมการซื้อจะเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น ซึ่งรายย่อยต่างจังหวัดจะต้องขยับเข้าสู่การเป็นผู้สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จะทำให้ผู้บริโภคติดพฤติกรรมหน้าร้าน มากกว่าการซื้อออนไลน์ โดนแอดไวท์เอวก็จะต้องสร้าง End User Experience เพื่อดึงให้ลูกค้าอยู่กับแอดไวท์ม่กขึ้น ทั้งระยะเวลาในการเปลี่ยนสินค้าหลังการซื้อ และการยริการเป็นต้น
ปีหน้าเราตั้งเป้า 1.3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 14 สาขา (เฉลี่ย 2-3ล้านบาท/สาขา) ในกรุงเทพและปริมณฑล และยังมีส่วนของการขยายและพัฒนาร้านเดิมให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีแคมเปญใหญ่ๆอยู่อีกราว 2-3 แคมเปญ และในส่วนของโปรโมชั่นตามเทศกาล ซึ่งไม่นับรวมการจัดแคมเปญเองของหน้าร้านค้า
ทั้งนี้แอดไวซ์วางยุทธศาสตร์แนวทางการดำเนินธุรกิจ มุ่งสร้างการเติบโตด้วยโมเดลธุรกิจแบบไฮบริด ซึ่งมีทั้งส่วนของการขายปลีกและขายส่ง (ดีลเลอร์) และออนไลน์ ที่ผ่านมาสัดส่วนขายส่ง 65 เปอร์เซ็นต์ ค้าปลีก 35 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้แอดไวซ์ได้มีการปรับเพิ่มและโฟกัสในส่วนขายปลีกมากขึ้น โดยมีการปรับปรุงหน้าร้านให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทันสมัยมากขึ้น ปัจจุบันมีแบรนด์ช็อปทั้งหมด 112 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 11 สาขา ต่างจังหวัด 100 สาขา และที่ร่วมลงทุนกับเอซุสอีก 2 สาขา ซึ่งเมื่อรวมกับส่วนของ เฟรนไชส์จะมีกว่า 355 สาขา
สำหรับยอดขายในปีนี้ตั้งเป้าไว้ 1.3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 5 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมาแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างจังหวัด 85 เปอร์เซ็นต์ กรุงเทพฯ 15 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันบริษัทครองตำแหน่งผู้นำ ดีเลอร์ไอทีในประเทศไทย
“กลุ่มสินค้าของแอดไวซ์มีรวมกว่า 10,000 รายการ แบ่งเป็น ดีไอวายคอมโพเนนท์ 30 เปอร์เซ็นต์ โน้ตบุ๊ค 24 เปอร์เซ็นต์ เดสก์ทอป 8-9 เปอร์เซ็นต์ เครื่องพิมพ์ 17 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสมาร์ทโฟนประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์”
ทางด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในปีนี้ ประกอบด้วย การจัดแข่งขัน Advice E-Sports 2019 Episode 2 ใน 18 มหาวิทยาลัยชั้นทั่วประเทศจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 สนับสนุนให้เด็กเยาวชน นักเรียน นักศึกษาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และยังเป็นการสร้างอาชีพรายได้สำหรับกลุ่มนักพากย์มืออาชีพอีกด้วย
พร้อมด้วยการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรเปิด Asus Store by Advice สาขาระยองและเซ็นทรัลเวิร์ล นอกจากนี้ยังเปิดแอดไวซ์ สาขามหาชัย และนครสวรรค์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมืองที่สร้างความแข็งแกร่งและความสำเร็จให้กับแอดไวซ์