ฟินโนมีนา แพลตฟอร์มบริหารเงินแบบดิจิทัล กระโดดขึ้นสู่ซีรี่ย์บีด้วยสถานะสตาร์ทอัพสัญชาติไทยสำเร็จ อวดเงินระดมทุนกว่า 10 ล้านเหรียญจากต่างชาติ พร้อมผู้ใช้งานกว่า 1.2 แสนรายคิดเป็นสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 8,300 ล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยี ขยายบริษัทและทีมงาน สู่การเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต
เจษฏา สุขทิศ ผู้ร่วมก่อตั้ง ฟินโนมีนา กล่าวว่า วันนี้เราเป็นบริษัทแพลตฟอร์มบริหารเงินลงทุนแบบครบวงจรสัญชาติไทย รายแรกในไทยที่สามารถขึ้นสู่ซีรีย์บีได้สำเร็จ โดยได้รับการลงทุนมูลค่า 10 ล้านเหรียญจากนักลงทุนต่างขาติ ซึ่งนำโดย Openspace Ventures และ Gobi Partners
ความพยายามของเราคือการสร้างความมั่งคั่งให้กับคนไทย ด้วยแพลตฟอร์มที่คนไทยทุกระดับสามารถเข้าถึงได้อย่างไม่มีข้อจำกัด จากเดิมข้อมูลเชิงลึกทางการลงทุนจะเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่มีความมั่งคั่งแล้วเท่านั้น ด้วยเป้าหมายของการทำให้คนไทยกว่า 10 ล้านคนเข้าถึงความมั่งคั่งให้ได้
เชสสัน พาร์ทเนอร์ ผู้ก่อตั้ง Openspace Ventures ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ Go-jek สตาร์ทอัพสัญชาติอินโดนีเซียให้กลายเป็นยูนิคอร์นสำเร็จมาแล้ว กล่าวว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการลงทุนในประเทศไทย ปัจจัยสำคัญของการตัดสินใจลงทุนในครั้งนี้คือ เราเชื่อว่าฟินโนมีนา มีความพร้อมมากที่สุดในการก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในอนาคต
ทั้งในส่วนความมุ่งมั่นที่เริ่มต้นด้วยความเป็นบริษัทสัญชาติไทย จนสามารถระดมทุนด้วยสถานะของบริษัทไทย และการมีทีมงานที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจบริหารทางการเงิน เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และมีความเข้าใจนักลงทุนอย่างถ่อแท้ รวมทั้งการมีพันธมิตรที่เหนียวแน่น ทำให้ฟินโนมีนาเป็นสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่ง และเราพร้อมที่จะสนับสนุนพันธกิจของฟินโนมีนาในการช่วยให้คนไทย และอาเซียนในวงกว้างได้เข้าถึงอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง
เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการลงทุนกว่า 21 คนใน 11 สัญชาติ เพื่อทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อสนับสนุนการทำงานให้ฟินโนมีนา สามารถเข้าถึงเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยเป้าหมายของฟินโนมีนาที่ต้องการก้าวเข้าสู่การมีสินทรัพย์ ภายใต้การจัดการกว่า 3 พันล้านเหรียญในอนาคต
ทั้งนี้การระดมทุนครั้งนี้ฟินโนมีนาจะมีความพร้อมในการขยายองค์กร ทั้งการเพิ่มผู้มีความสามารถเข้าสู่องค์กรมากขึ้น เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบเทคโนโลยี พร้อมขยายฐานผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม และเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนต่อไป ด้วยเป้าหมายของการเป็นแพลตฟอร์มความรู้ด้านการลงที่มียอดเข้าชมกว่า 100 ล้านครั้งต่อเดือน และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการอย่างน้อย 100,000 ล้านบาทภายในปี 2566
