
เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป เร่งพัฒนาโซลูชั่น BIM สู่กลยุทธ์ที่สำคัญของธุรกิจ ในการเดินตามยุทธศาสตร์ธุรกิจอนาคต ภายใต้พันธกิจ EMPOWER LIVING เล็งขยาย 3 ธุรกิจใหม่ด้านดิจิทัลทั้ง SEAC CLAYMORE (เคลย์มอร์) และ VAARI (วาริ) ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับแอปพลิเคชั่นสู่โซลูชั่นที่จะเชื่อมโยงลูกค้ากับโครงการได้ทุกบริการ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป กล่าวว่า ความท้าทายของเอพีในปีนี้คือโจทย์ที่ไม่รู้ล่วงหน้าและไม่รู้ล่วงหน้า ทั้งเรื่องฝุ่น ไวรัส ที่ค่อนข้างมีผลกระทบกับพวกเรามากๆ และกระทบกันไปทั่วโลก ซึ่งเราจะต้องเข้ามาจัดการกับเหตุการณ์นี้ให้ได้ และหากมองไปที่คู่แข่งที่เริ่มเข้ามากระทบอย่าง Airbnb ซึ่งกำลังมีโครงการเริ่มเปิดตัวมาอย่างชัดเจน จากการใช้ดาต้าในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนารูปแบบการก่อสร้าง สิ่งเหล่านี้อาจจะเข้ามาดิสรัปส์เราได้ หากเราไม่สามารถปรับตัวได้ทัน
บริษัทฯ จึงได้ยกระดับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กรให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ภายใต้พันธกิจ EMPOWER LIVING คือ การดำเนินงานที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนในสังคม สามารถเติมเต็มทุกเป้าหมายชีวิตได้ตามที่ปรารถนา ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อชีวิต ทั้งยังใช้เป็นเข็มทิศในการก้าวเดินให้กับพนักงานเครือ AP THAILAND GROUP มองเห็นเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจนและเป็นภาพเดียวกันมากยิ่งขึ้น โดยขับเคลื่อนผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญที่จะเป็นโรดแมพ ที่จะตอบสนองเป้าประสงค์หรือความปรารถนาในการดำเนินชีวิตของลูกค้าให้เกิดขึ้นจริงในเร็ววัน
4 กลลยุทธ์สำคัญ EMPOWER LIVING
1.AP THAILAND VALUES มุ่งสร้างค่านิยมที่จะเป็นดีเอ็นเอสำคัญในการหล่อหลอมบุคลากรกว่า 2,000 คนภายใน 6 องค์กรเครือเอพี ให้มีพฤติกรรมที่พร้อมส่งมอบนวัตกรรมสินค้าและบริการที่ตอบสนองเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกันของลูกค้าได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์ที่สุด
2.MASTERPLAN FOR TOMORROW การเดินหน้าขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยคุณภาพให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
3.DESIGNING YOUR FUTURE การมุ่งแสวงหาความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบ หรือ Unmet Needs ของลูกค้า เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้า และนวัตกรรมบริการ หรือ Creative Solution ใหม่ๆ ที่มีคุณค่าและยกระดับชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้น
4.POWER OF ECOSYSTEM การสร้างระบบนิเวศที่จะช่วยสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีแบบครบวงจร
ทั้งนี้ สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะดำเนินงานตามโรดแมพ MASTERPLAN FOR TOMORROW ด้วยการเดินหน้าขยายขอบเขตการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนางานก่อสร้างให้มีคุณภาพ ด้วยการเปลี่ยนวิธีการทำงานทั้งระบบไปสู่กระบวนการ BIM ที่ส่งผลให้ลูกค้าได้รับอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ ลดข้อบกพร่องที่อาจส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการสำรวจของเรา เราพบว่าลูกบ้านเองก็มีความคาดหวังจากทั้งผู้ประกอบการและในทุกภาคส่วนมากขึ้น โดยผลการสำรวจระบุว่า 1.ส่วนที่เราจะมอบให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้ามองเรื่องของ Space Connect มองถึงเรื่องของการสร้างสัมพันธ์ในครอบครัว ความปลอดภัย การพักผ่อน ตามความต้องที่แตกต่างในแต่ละบุคคล ซึ่งเราจะต้องหาทางตอบโจทย์คนเหล่านี้ทั้งหมด 2.ประสบการณ์ ซึ่งลูกค้าต้องการประสบการณ์จากผู้ประกอบการที่จะเข้ามาเสริมให้การใช้ชีวิตมีประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น และสุดท้าย 3.นวัตกรรม ซึ่งบ้านเป็นสิ่งที่อยู่กันนาน ทำอย่างไรให้บ้านทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ทั้งในส่วนของเซฟตี้และซีเคียวริตี้ หรือจะเป็นทั้งการสร้างบ้านที่มอบคุณค่าของบ้านให้กับผู้อยู่อาศัยได้ นอกเหนือจากการใส่อุปกรณ์ไฮเทคเข้าไปเท่านั้น
เป้าหมายของเราในปีนี้คือการสร้าง Empower Living เพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังที่เติมเต็มความฝันของแต่ละคนได้ ซึ่งเราจะนำโซลูชั่นทั้งหมดที่มีเข้ามาเติมเต็มความต้องการในรูปแบบต่างๆที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้ง 1. AP Thailand Value ที่เราต้องปรับปรุงค่านิยมภายในของเราก่อน ซึ่งจะให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก มีส่วนร่วมกัน สร้างและมีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อก้าวไปข้างหน้า และพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ร่วมกัน โดยทั้งหมดจะถูกสอดแทรกเข้าไปในองค์กรของเรา
ซึ่งแบ่งเป็น 1.1Put People Frist การให้ความสำคัญกับคนเป็นที่ตั้ง 1.2 Build Together ซึ่งเราได้นำคนจากทุกแผนกหรือพันธมิตรต่างๆมาทำงานร่วมกัน 1.3 Progresss with Purpose เป็นการนำเป้าหมายของโครงการไปสู่ทุกระดับขององค์กร เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรรับรู้คุณค่าของงาน ให้เกิดความมีส่วนร่วมและรักในงานที่ทำมากขึ้น 1.4 Go Beyond เป็นการขยับความสำเร็จที่สูงมากขึ้น ทั้งกับตัวเองและลูกค้า ที่จะต้องได้ความสำเร็จที่เพิ่มมากขึ้นจากอดีตที่ผ่านมาในทุกครั้ง 1.5 Be Innovative ที่เราจะต้องปรับเปลี่ยนบบุคคลากรในองค์กร ให้เกิด 1.ช่างสงสัย 2.กล้าฝัน กล้าที่จะคิดอะไรให้แตกต่าง และ 3.กล้าทดลองทำ แล้วแก้ไขให้สำเร็จ
2.พัฒนาองค์กรมีเรื่องสำคัญคือการออกแบบโครงการที่ทำให้สามารถตอบโจทย์ในลูกค้าแต่ละคนที่แตกต่างกันได้ ด้วยพอร์ตที่เรามีอยู่ครบครัน ทำให้เรานำส่วนต่างเข้ามาตอบโจทย์ในแต่ละพื้นที่และความต้องการของลูกค้า ในแต่ละโครงการมากยิ่งขึ้น 3.ชีวิตที่ง่ายขึ้นเป็นการพัฒนาบริการให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น 4.ช่วยส่งเสริมให้ลูกบ้านใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
เร่งพัฒนา BIM องค์รวมของธุรกิจอสังหาฯ
ช่วงที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการทำ BIM (Building Information Management) เพื่อมาประยุกต์ใช้กับองค์กร นับตั้งแต่การคัดเลือกที่ดินจวบจนสำเร็จออกมาเป็นโครงการและเปิดให้บริการลูกบ้าน ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่เราลงทุนกว่า 20 ล้าน ทั้งเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของคน และพัฒนาต่อยอดไปสู่การเปิดเป็นองค์ความรู้และแนวทางการงานร่วมกัน รวมทั้งลงทุนด้านซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง BIM ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อซอฟต์แวร์เข้ามาเท่านั้น แต่เป็นนวัตกรรมของการคัดเลือก ออกแบบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทำให้ข้อมูลในการทำงานทั้งหมดของเรา มีการเชื่อมต่อกันแบบเรียลไทม์ ผ่านนวัตกรรมของ BIM ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าเช็ก ดู แก้ไขและรับรองงานได้ผ่านระบบทันที อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบการทำงานได้ในทุกขั้นตอน ช่วยให้เกิดความผิดพลาดและการแก้งานที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้โครงการที่ลูกค้าได้รับมอลมีแผลจากการแก้ไขที่น้อย
ยกตัวอย่างของการซ่อนท่อในคานรับน้ำหนักขนาดใหญ่ ที่แต่ละส่วนจะต้องเร่งทำให้ทันเวลา BIM จะช่วยทำให้เห็นข้อผิดพลาดก่อนการลงมือทำจริง ทำให้เราสามารถแก้ไขจาก BIM ได้ก่อน ทำให้งานเสณ้จเร็วขึ้นและไม่ช้ำ
วันนี้เราเรียนรู้มานานกว่า 2 ปี เราได้รวบรวมองค์ความรู้กว่า 50-60 คอร์ส และถ่ายทอดให้กับคนในองค์กรเองและสถาบันการศึกษา ภายใต้ AP BIM Academy ซึ่งเปิดให้นักศึกษาที่ผ่านการอบรม สามารถล็อกอินเข้าใช้โซลูชั่นจนเริ่มมีตัวอย่างของนักศึกษาที่ใช้ BIM ในการออกมาทำงานจริงแล้วด้วย
ที่ผ่านมาเราเห็นบริษัทอื่นๆที่ยึดติดกับการทำธุรกิจเดิมๆไปเรื่อง เราจึงต้องกลับมาคิดว่าเราจะสามารถขยับและต่อยอดไปได้อย่างไรบ้าง ทำให้เรากลับไปมองที่ลูกบ้านของเรา เพื่อทำให้เกิดความสุขมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเริ่มขยายเข้าไปสู่ธุรกิจการศึกษา ผ่าน SEAC เป็นส่วนหนึ่งที่จะเติมเต็มให้ลูกค้าได้เรียนรู้และส่งเสริมให้เกิดความท้าทายใหม่ๆให้กับลูกค้า ซึ่งจะกลับไปตอบโจทย์ความก้าวหน้าของการทำงาน และความสุขที่จะเพิ่มขึ้น ให้เอพี เข้าไปสนับสนุนเรื่องของการเรียนรู้ตลอดชีวิต
โดย SEAC (เอสอีเอซี) แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบการดำเนินธุรกิจ (Business Model) ที่พร้อมส่งเสริมและจุดประกายการเรียนรู้และการรีสกิลในทุกสเต็ปของชีวิต ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง ด้วยโมเดล Executive Learning กลุ่มคนทำงานอายุระหว่าง 20-40 ปีกับหลักสูตร YourNextU การเรียนรู้รูปแบบใหม่ ที่เลือกเรียนเองได้ และเรียนซ้ำอย่างไม่จำกัด และ YourNextU Young หลักสูตรใหม่สำหรับเยาวชนอายุตั้งแต่ 10-17 ปี เพื่อมุ่งเสริมสร้างน้องๆ ให้มีความเข้าใจในตนเอง เข้าใจคนรอบข้าง เข้าใจสภาพแวดล้อมและปรับตัวเข้ากับสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาดและมีความสุข
เราเชื่อว่าการเรียนรู้เป็น ความท้าทายที่จะต้องเรียนรู้ไปตลอด เราไปส่งเสริมให้ผู้เรียนขยายกรอบความคิดที่มีประสิทธิภาพ ผ่านหลากหลายโครงการทั้งโครงการ Your Next U ที่จะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงคอร์สออนไลน์ระดับโลกได้จากทุกที่ที่สะดวก อีกทั้งโครงการ Excutive Learning ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนแนวคิดผู้บริหารให้สามารถก้าวข้ามไปสู่การบริหารแบบดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม
เรื่องของสุขภาพที่จะช่วยให้ผุ้สูงอายุที่สามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมที่สะดวกมากยิ่งขึ้น และในส่วนของสุขภาพ เป็นการตอบโจทย์ของการออกแบบที่ทำให้ลูกบ้านมองเห็นความสำคัญและพัฒนาสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการส่งเสริมให้กลายเป็น Fitnees as a Services ซึ่งจะมีวิธีการทำที่ตอบโจทย์ลูกบ้านมากขึ้น
ขณะที่ในส่วนของ CLAYMORE (เคลย์มอร์) Innovation Lab ที่จะนําเสนอนวัตกรรมบริการใหม่ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการดํารงอยู่ของคนในสังคมวันนี้และในอนาคต เพื่อรองรับ HEALTH & AGEING ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้คนมีสุขภาพที่แข็งแรงและบริการรูปแบบใหม่เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยที่กำลังจะมาถึง
และอีกส่วนที่เราขยายไปสู่บริษัท วาริ (VAARI) คือการผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการทำความเข้าใจลูกค้าเชิงลึก จึงได้ร่วมมือกับ ‘อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส’ ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่ครอบคลุม และมีการใช้งานมากที่สุดในโลก เปิดตัว ‘SMART WORLD’ ไลฟ์ เมเนจเมนท์ แพลตฟอร์ม ที่จะเข้ามาช่วยเอ็มพาวเวอร์การใช้ชีวิตของลูกบ้าน ด้วยแผนมุ่งสร้างระบบนิเวศที่พร้อมสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในแบบที่ปรารถนา สำหรับกว่า 5.9 หมื่นครอบครัว ใน 240 กว่าโครงการ
ที่จะยกระดับสู่โซลูชั่นบริการทีครบวงจร ทั้งการติดต่อหรือใช้บริการต่างๆ จากทางนิติบุคคล สิทธิพิเศษต่างๆ จากพาร์ทเนอร์ ตลอดจนช่วยสนับสนุนการทำงานของบริษัท Property Management ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมนำบริษัท SMART SERVICE & MANAGEMENT ในเครือเอพีก้าวไปสู่การเป็น Digital Property Management อย่างเต็มรูปแบบ