ดีแทค ประกาศแผนเดินหน้า 5G บนความถี่ 26GHz ผสานความถี่ 700MHz ที่ได้รับเมื่อปีที่ผ่านมา เตรียมอัปเกรดสถานีฐานสู่เทคโนโลยี TDD กว่า 20,000 สถานีฐานทั่วไทย ให้รองรับการใช้งาน 5G พร้อมเทคโนโลยี MiMo ต่อไป สัญญาว่าจะไม่หยุดพัฒนาโครงข่าย บริการ และองค์กรอย่างต่อเนื่อง
ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า เราพัฒนาโครงข่ายตลอด 2-3ปีที่ผ่านมา เพื่อตอบสนิงความต้องการของลูกค้าในแง่ของการสตรีมมิ่ง ซึ่งมีการเติบโตกว่า 35%และเชื่อว่าปีนี้จะเติบโตกว่า 50% และในปีนี้เราจะยังคงเดินตามหัวใจสำคัญคือคำสัญญาของเรา ว่าเราจะไม่หยุดเพื่อพัฒนาบริการให้ลูกค้า พัฒนาโครงข่ายและพัฒนาองค์กร
โดยในปี 2563 นี้ เราได้นำแนวคิด 3 อย่างที่เราจะต้องเอาชนะให้ได้ นั่นก็คือ 1.เตรียมความพร้อมในการพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น 2.เราจะพัฒนาโครงข่ายต่อไปเรื่อยๆ และ 3.เราจะพัฒนาบุคคลากรให้แข่งขันได้และมีความพร้อมในการให้บริการต่อไปในอนาคต
ขณะที่เรื่องของการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า ประกอบด้วย 1. เรื่องแบรนด์ จะพยายามนำเสนอให้มีตัวตนของแบ็กด์ในทุกช่องทาง 2. นำประสบการณ์ลูกค้ามาพัฒนายริการที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลมากขึ้น และ 3. มอบโซลูชั่นติบโจทย์ลูกค้าองค์กรมากขึ้น
นอกจากนี้เรายังนำแมชชีนเลิร์นนิ่งเข้ามาช่วยพัฒนาบริการและเรียนรู้ที่จะปรับปรุงตามความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงได้อย่างทันท่วงทีมากขึ้น ซึ่งช่วงปี 2019 ที่ สังเกตได้จากผ่านมาเราได้เพิ่มจำนวนนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลขึ้นกว่า 25% เพื่อปรับปรุงตัวเองขององค์กรและคาดว่าจะมีนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพิ่มขึ้นกว่า 50%ในปีนี้
ขณะที่วิธีการทำงานภายในองค์กรของเรา มีการนำระบบ Agile เข้ามาใช้ ช่วยให้ระยะเวลาการพัฒนาออกมาได้ภายในหลักชั่วโมง จากที่เคยพัฒนาเป็นวันวัน ทำให้เราพัฒนาบริการที่ตอบสนองลูกค้าออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ในส่วนของเน็ตเวิร์กเราได้รับการรับรองจาก OpenSignal ว่เป็นโครงข่ายที่เร็วที่สุดในประเทศไทย (*ข้อมูล พฤศจิกายน 2562) เราพัฒนาไฟเบอร์เข้าไปในทุกไซต์ ข่วยให้เราเปิดบริการผ่านระบบไฟเบอร์ได้ในทุกไซต์ และยังพัฒนาให้โครงข่ายมีความพร้อมในการให้บริการ 5G Ready ด้วยงบประมาณที่เราได้เตรียมไว้ราว 2-3 หมื่นล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ส่วนของโครงข่าย 2300MHz ในปี 2018 และ 700MHz ที่เราหามาเสริม และจะถูกนำมาพัฒนาโครงข่ายของเราต่อไปในอนาคต ซึ่งจากที่กล่าวมา ทำให้เห็นว่า ดีแทคมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีเสียงคอมเพนท์ลดลงกว่า 50% และวันนี้ความถี่ 26GHz ที่เราประมูลได้มา 200MHz ซึ่งเป็นคลื่นที่มีความกว้างและสามารถสร้างสปีดที่สูงได้ และยังเป็นคลื่นมาตรฐาน 5G ที่เพิ่งประกาศใช้ในยุโรปที่ผ่านมา
ในการแข่งขันกีฬาทุกทีมจะมีแนวนโยบายและเกมการเล่นที่เป็นของตัวเอง และเราก็มีแนวทางการพัฒนา 5G ในแบบของเรา โดยแนวทางการพัฒนาคลื่นความถี่ต่ำเดิมที่มีอยู่แล้ว จะเข้ามาช่วยเชื่อมต่อภายในระบบ และคลื่นกลาง จะเข้ามาช่วยเสริมการบริการที่จะเกิดขึ้น และคลื่น mmWave ซึ่งเป็นคลื่น 5G ตัวจริงจะเข้ามาเสริมบริการ 5G ซึ่งเรามีความพร้อมที่จะเกิดขึ้นแล้ว รอเพียงคบื่นลูกข่ายที่จะเข้ามารองรับการใช้งาน
โดยการใช้งานรับส่งข้อมูลจะเร็วขึ้น 3 เท่าใน 20,000 ไซต์ภายในปีนี้แบบ TDD ซึ่งจะพร้อมรับ Ultra-High-capacity Massive MiMo Thechnology ทั่วประเทศไทย ด้วย 5G บนคลื่น 26GHz และผสานกับความถี่ 700MHz ที่เราได้รับเมื่อปีที่แล้ว มาเสริมโครงข่าย 5G อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้บริการของดีแทค จะครอบคลุมการให้ยริการ กับพันธมิตรด้านคอนเทนต์ โซลูชั่นโครงข่าย 5G ภายในองค์กร นอกเหนือจากการบริการเดิมของดีแทคเอง และที่สำคัญจะเข้ามาเสริมบริการ dtac Home ที่พัฒนาโครงข่ายบริการ Fixed Wireless Access & Mobile Broadband อีกด้วย
วันนี้ดีแทค ขอประกาศเดินหน้าการพัฒนาโครงข่าย เราจะไม่หยุดการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า และไม่หยุดที่จะพัฒนาบริการโซลูชั่นใหม่ๆให้กับลูกค้าต่อไปในอนาคต และวันนี้เราจะเริ่มดำเนินการโครงข่าย 5G ในทันที และคาดว่าจะเปิดให้บริการ 5G ในย่านความถี่ 26GHz ราวไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นค้นไป
#สัญญาว่าจะไม่หยุด
