
โกลบิชชี้ไวรัสโควิด19 และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะช่วยทำให้ธุรกิจการเรียนออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นและส่งผลดีต่อธุรกิจ ตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 120% พร้อมพัฒนาคอร์สเรียนให้เหมาะกับการใช้งานและขยายลูกค้าไปสู่อาชีพเฉพาะทางมากขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยี 5G จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ก้าวหน้า
นายธกานต์ อานันโทไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด สตาร์ทอัพ EdTech ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียน Live English Classroom กล่าวว่า โกลบิชตั้งเป้าการเติบโต 120% ในปีนี้ โดยมีแผนที่จะพัฒนาคอร์สเรียนใหม่ที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายขึ้น มุ่งเน้นพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษในกลุ่มอาชีพที่นอกเหนือจากกลุ่มสายธุรกิจอย่างกลุ่มอาชีพเฉพาะทางมากขึ้น ประกอบกับการระบาดของไวรัสโคโรน่าจะช่วยทำให้ผู้ปกครองส่งเสริมให้ลูกเรียนที่บ้านมากขึ้น เช่นเดียวกับภาวะซบเซาของเศรษฐกิจจะทำให้คนอยากพัฒนาตนเองมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดจะมีส่วนผลักดันการเติบโตให้กับธุรกิจ
ทั้งนี้ในปี 2020 เทคโนโลยี 5G จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ก้าวหน้าในระดับสากล ด้วยความเร็วของเครือข่าย 5G สามารถพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันสมัย และเข้าถึงผู้เรียนแบบไร้ขีดจำกัด ดังนั้นเราจึงถือโอกาสตอกย้ำนโยบายมุ่งยกระดับการศึกษาไทย ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน Globish ให้สามารถเข้าถึงรูปแบบการเรียนได้ในทุกเทคโนโลยี ทุกเครื่องมือสื่อสาร เพื่อตอบรับพฤติกรรมการใช้งานของผู้เรียนให้ได้มากที่สุด
“การเติบโตเกิดจากเทคโนโลยีของไทยดีขึ้นตั้งแต่มี 4G ในปี 2016 มีคู่แข่งเยอะ แต่ปัจจุบันล้มหายตายจากไปมากพอสมควร และในปี 2019 มี 4G ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การเรียนออนไลน์ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่สะดุด นอกจากนี้ด้วยการปรับฟีเจอร์ตามความต้องการของลูกค้า และมีครูหลายชาติ เรียนตอนไหนก็ได้ 24 ชั่วโมง และมีคอร์สให้เลือกหลากหลายถึง 16 หลักสูตรแบ่งเป็น ผู้ใหญ่ 12 หลักสูตร เด็ก 4 หลักสูตร ทำให้เราตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 300 คลาสเรียน”
นายธกานต์ กล่าวว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมาโกลบิชมีสถิติการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 190% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นเด็ก 10% กลุ่มคนวัยทำงาน 90% และคาดว่าในปี 2563 นี้จะมีอัตราการเติบโต 120% หรือมีรายได้ 220 ล้านบาท และคลาสเรียนเพิ่มเป็น 250,000 คลาสภายในปีนี้ โดยในปัจจุบันผู้เรียน Live English Classroom นิยมเรียนบนสมาร์ทโฟน (Smartphone) เป็นอันดับแรกกว่า 50 % ตามด้วยเดสก์ทอป (Desktop) 45% และแท็บเล็ต (Tablet) อยู่ที่ 5%