ธุรกิจความงามโตสวนกระแสเศรษฐกิจขาลง สลิมคอนเซ็ป เผยว่าได้รับผลกระทบจากโวรัสแต่ไม่มาก แต่ก็ไม่ประมาทพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเตรียมแผนระยะยาว รับมือยุคดิสรัปต์ชั่น ปรับตัวจากสถาบันความงามสู่ธุรกิจ “Health Wellness & Spa” อย่างจริงจัง เตรียมตัวเข้าจดทะเบียนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนภายในปีนี้
นางสาวปุณณภา เตชะโรจน์กุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สลิมคอนเซ็ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารธุรกิจสุขภาพและความงามชั้นนำภายใต้ชื่อ สลิมคอนเซ็ป (SlimConcept) และ มาริซ่า คลีนิค (Mariza Clinic) เปิดเผยว่า จากตัวเลขประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ออกมา คาดการณ์ว่า แนวโน้มการเติบโตของจีดีพีในปี 2563 จะขยายตัวที่ 1.5-2.5% หรือเฉลี่ย 2% ต่อปี ซึ่งถือว่ายิ่งหดตัวจากจีดีพีปีก่อน ซึ่งปัจจัยลบส่วนหนึ่งมาจากเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19หรือที่เรียกกันว่าไวรัสโคโรนา แม้ว่าภาพรวมตลาดและเศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในช่วงขาลง แต่คาดว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามที่ทำอยู่ก็ยังเติบโตไปได้ตามเป้าหมาย ได้รับผลกระทบแต่ไม่มากนัก เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักไม่ใช่กลุ่มนักท่องเที่ยว แต่เป็นกลุ่มลูกค้าภายในประเทศที่นิยมดูแลสุขภาพและมีกำลังซื้อมากพอสำหรับการลงทุนด้านสุขภาพและความงามที่เป็นเทรนด์สำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ และ กลุ่มเป้าหมายหลักที่อยากจะประสบความสำเร็จในด้านอาชีพและธุรกิจมากยิ่งขึ้นโดยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ด้านสุขภาพความงาม
สำหรับการบริการลูกค้า ในช่วงที่มีการเฝ้าระวังการระบาด เราให้ความร่วมมือกับภาครัฐและทางศูนย์การค้าที่เราไปเปิดบริการอย่างเต็มที่ คือ ใช้มาตรการเดียวกับที่ทางแพทย์แนะนำ มีการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าทำงาน และ หากเลื่อนการเดินทางไปต่างประเทศได้ก็จะทำเพื่อกำจัดความเสี่ยง อย่างไรก็ดี ในด้านการทำธุรกิจ เพื่อความไม่ประมาทต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ได้วางแผนขยายตลาดระยะยาวท่ามกลางยุคดิสรัปต์ชั่น ด้วยการเปิดช่องทางจำหน่ายแบบมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ จำหน่ายสินค้าด้านสุขภาพความงามเพื่อคัดเลือก สินค้าที่มีแบรนด์ และมีคุณภาพในระดับมาตรฐาน ที่กูรูด้านสุขภาพความงามให้การรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2564 นี้เพราะเล็งเห็นว่าการทำตลาดโดยสร้างแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสขึ้นมาเองจะทำให้ขยายตลาดได้ทุกที่ทั่วประเทศและทั่วโลก รวมถึงได้เล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดต่างประเทศในตลาดตะวันออกกลาง เช่น บาห์เรน ที่ได้ไปเปิดตลาดไว้แล้ว ด้วยแผนงานที่วางไว้นี้ เราจึงต้องแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ
ล่าสุดได้ร่วมทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท WH Ireland Ltd. เป็น Nominated Advisor และ U.K. Regulator ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษ เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร ส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน เพื่อที่เราจะได้ศึกษา ปฏิบัติตามคำแนะนำ และนำพาบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ในส่วนของตลาด AIM : Alternative Investment Market (AIM) ตลาดรองสำหรับธุรกิจขนาดเล็กระดมทุนแบบมหาชนภายใต้ตลาดหลักทรัพย์ London Stock Exchange (LSE) คาดว่าจะสามารถประกาศแผนที่ชัดเจนหลังจากระดมทุนจากมาร์เก็ตแคปได้อย่างเป็นทางการภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
“เงื่อนไขในการเข้าตลาดเอไอเอ็มนั้นไม่มีข้อกำหนดว่าเราจะต้องเป็นบริษัทหรือมีสาขาในอังกฤษ แต่ต้องมีการเติบโตตามเงื่อนไขของตลาดเอไอเอ็ม การที่เราเติบโตในธุรกิจมีกำไรมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นจุดแข็งที่ทางพันธมิตรในอังกฤษมองว่า เรามีศักยภาพในการเติบโตที่ดี ที่สำคัญเป็นบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวจากสถาบันความงามไปสู่ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพความงาม คือตลาด Health &Wellness ที่มีขนาดใหญ่กว่าจะช่วยสร้างสีสันดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาร่วมลงทุนด้วย เป็นการสร้างชื่อในต่างประเทศด้วยการวางรากฐานด้านเงินทุนอย่างมั่นคงและอย่างยั่งยืน เพราะการได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศจะช่วยสนับสนุนให้เราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ตามแผนงานที่วางไว้ ”
นางสาวปุณณภา กล่าวว่า บริษัทฯและพันธมิตรคาดหวังว่าการเข้าระดมทุนในตลาดยุโรปนี้จะทำให้มีเม็ดเงินจากมาร์เก็ตแคปขนาด 3,000 ล้านบาท เข้ามาสำหรับการลงทุนขยายธุรกิจ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถยกระดับขนาดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้น เป็นการเปลี่ยนจากสถาบันความงามไปสู่บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพความงามอย่างยั่งยืน (Sustainable Healthy & Wellness) หากเป็นไปตามแผนงานนอกจากจะมีเงินมาลงทุนขยายสาขาให้มากขึ้นตามแผนที่วางไว้แล้ว จะมีการนำเข้าสินค้าจากพันธมิตร เช่น อิตาลี ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก และ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมและกรรมวิธีแบบออร์กานิคธรรมชาติ 100 % ภายใต้แบรนด์ “วาเกจี” (Vaghegi) ซึ่งอยู่ในตลาดมากว่า 40 ปีเข้ามานำเสนอให้กับลูกค้าแบบครบไลน์มากขึ้น และ มีเม็ดเงินลงทุนขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ที่เราวางแผนร่วมกับพันธมิตรในยุโรป
“เราได้เริ่มขยายตลาดไปยังประเทศ กัมพูชา บาห์เรน แคนาดา อินเดีย ผ่านพันธมิตรของเรา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี เราจึงหาลู่ทางในการขยายธุรกิจต่อ คาดว่าหากระดมทุนจากตลาดหุ้นแล้ว จะทำให้สามารถขยายสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตด้านยอดขายต่อปีประมาณ 50% จึงทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจในทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากรายได้จากกลุ่มลูกค้า (End User) และ กลุ่มแฟรนไชซีแล้ว บริษัทฯ ยังได้แสวงหาช่องทางเพิ่มรายได้ในระยะยาว จากงานด้านการรับจ้างบริหาร และค่าบริการอบรมบุคลากร ด้วยการจัดตั้งอะคาเดมี เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ดำเนินการคัดเลือกและอบรมพร้อมส่งออกพนักงานที่มีความเป็นมืออาชีพไปยังตลาดต่างประเทศที่ได้มีการขยายตลาดร่วมกับพันธมิตร ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบุคลากรไทยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าคนไทยมีจิตใจพร้อมให้บริการ หรือ Service Mind ตามธรรมชาติเป็นพื้นฐาน บริษัทฯ จึงวางแผนที่จะเข้ามาเพิ่มด้านเทรนนิ่งให้เป็นระบบและส่งไปทำงานอย่างถูกต้องในฐานะมืออาชีพจุดนี้เรามองว่าจะสร้างความแตกต่างและได้รับการยอมรับในต่างประเทศมากขึ้น เราตั้งเป้าส่งออกบุคคลากรมืออาชีพในปีแรก ประมาณ 100 คน” นางสาวปุณณภากล่าว
กลุ่มธุรกิจของสลิมคอนเซ็ป ประกอบด้วยด้าน Slim Facial Spa ด้านสินค้า มีทั้ง Body & Face ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ “วาเกจี” ในตลาดประเทศไทย ตลาดเอเชีย และตะวันออกกลาง ปัจจุบันสลิมคอนเซ็ป มีจำนวน 11สาขา และ มาริซ่า คลินิก อีก 8 สาขา ในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เปิดดสาขาในแหล่งช้อปปิ้ง อาทิ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เดอะมอลล์ โคราช แหลมทองระยอง เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น พร้อมกับได้ไปเปิดตลาดต่างประเทศแล้ว อาทิ กัมพูชา บาห์เรน แคนาดา และ อินเดียโดยเริ่มจากกลุ่มสินค้าและบริการด้านสปาและ ลดน้ำหนักเป็นตัวชูโรง ซึ่งได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักธุรกิจในประเทศเหล่านี้ ในช่วง 3 -5 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 280-300 ล้านบาท มีอัตราโตโดยเฉลี่ย 40 – 50%