เกือบจำไม่ได้แล้วว่าสมัยที่ขับรถแต่งเครื่องนั้น อารมณ์ประมาณไหน แต่หลังจากที่ได้ขับ นิสสันอัลเมร่าใหม่ คันนี้ ความรู้สึกแบบเดิมๆ ก็ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง ความสนุกในการขับขี่ การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่เรียกได้ว่าได้ดั่งใจ อาจจะไม่ได้แรงเหมือนรถแต่งคันที่เคยขับ อาจจะไม่ได้เกาะถนนจนเทียบเท่ากับรถยุโรป แต่นี่คือรถที่ตอบโจทย์ได้ครบที่สุดแล้วในการใช้งานกับงบประมาณ 639,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตรที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที เติมน้ำมันได้สูงสุดที่ Gasohol E20 เป็นเครื่องยนต์ที่สร้างความประหลาดใจได้มาก เพราะแม้ใครๆ จะบอกว่ามันมีตัวเลขแรงม้าและแรงบิดในระดับเดียวกับเครื่องยนต์ 1500 ซีซี ถ้าไม่ได้ลองขับเองก็คงจะเชื่อจากตัวเลข แต่เมื่อได้ทดสอบแบบจริงจังแล้วพบว่า มันเป็นเครื่องยนต์ที่ให้ความสนุกในการขับขี่แบบที่เรียกได้ว่าเครื่องยนต์ 1500 ซีซีธรรมดานั้นให้ไม่ได้ เพราะแรงม้าและแรงบิดเท่ากันก็จริง แต่มีตัวช่วยอย่างเทอร์โบเลยทำให้อัลเมร่าคันนี้เหนือกว่า
การออกตัวของ นิสสันอัลเมร่าใหม่ เพียงเหยียบคันเร่งเบาๆ รถก็พร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับในช่วงระหว่างการขับขี่ที่พละกำลังมีพร้อมมาให้ใช้อยู่ตลอดเวลา เหยียบคันเร่งเมื่อไรแรงบิดก็พร้อมมาเมื่อนั้น ไม่มีเอื่อย ไม่มีรอรอบหรือแรงตก ยกเว้นแต่วิ่งไปจนถึงระดับ 160 กิโลเมตรขึ้นไปแล้วนั่นล่ะ ถึงจะเอื่อยลงนิดนึง
ประสิทธิภาพของช่วงล่างที่เซ็ตมาในแนวหนึบนุ่ม อาจจะรู้สึกแข็งบ้างถ้าเทียบกับพวกรถช่วงล่างที่เน้นความนุ่มและย้วย ในการใช้งานจริงในเมืองเราจะพบความคล่องแคล่วของพวงมาลัยที่เซ็ตมาอย่างดี ให้ความต่อเนื่องในการใช้งาน ทำให้การลัดเลาะบนถนนเป็นไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนในด้านความเร็วสูงก็พบว่าน้ำหนักพวงมาลัยช่วยสร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหนืดกว่านี้อีกนิดจะดีงามมาก เช่นเดียวกับระบบเบรคที่ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไป
“การขับขี่ทางไกลให้ความมั่นใจได้มากในทุกช่วงความเร็ว รวมถึงการเข้าโค้ง และการใช้ความเร็วสูงๆ และด้วยช่วงล่างกระชับคล่องแคล่ว ทำให้สามารถมุดซ้ายขวาบนทางยาวๆ ที่ไม่ต้องมีไฟแดงอย่างในมอเตอร์เวย์ได้อย่างสนุนสนาน อารมณ์สมัยขับรถแต่งซิ่งกลับมาอีกครั้ง และแม้จะกำหนดความเร็วไว้ที่ 120 แต่เราก็สามารถสนุกได้ในแบบที่ต้องการ เพราะเป็นช่วงที่แรงม้าและแรงบิดกำลังสร้างความมัน โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการโดนจับความเร็ว”
แต่ถ้าจะทดลองขับแบบความเร็วเพิ่มขึ้น และไปจนถึงระดับ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและไปได้อีกแต่เครื่องอาจจะเหนื่อย ช่วงล่างของอัลเมร่าใหม่ก็ยังไว้ใจได้ จนแอบรู้สึกว่าทำไมเซ็ตรถเล็กมาได้ดีขนาดนี้ ดีแบบไม่ไว้หน้ารถพิกัดสูงกว่าของแบรนด์อื่นบ้างเลย แต่มีสิ่งทีต้องเตือนกันนิดคือตัวรถค่อนข้างจะเบาไปหน่อยเวลามีกระแสลมแรงปะทะเข้ามา รถจะออกอาการจนเราจะรู้สึกได้เบาๆ ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังกันบ้างในช่วงความเร็วสูงๆ
กลับมามองกันที่ตัวรถกันบ้าง ด้วยความที่เราหยิบยืมรุ่นท็อปอย่าง VL เราก็จะได้กุญแจรีโมทที่สามารถพกอยู่ในกระเป๋ากางเกง แล้วกดปุ่มสีดำบนมือจับเปิดประตูระบบก็จะปลดล็อกให้อัตโนมัติ และเมื่อต้องการล็อกรถ ก็สามารถทำได้โดยการกดปุ่มสีดำบนมือจับเปิดประตูเหมือนเดิม แต่จะเปิดปิดรถด้วยสวิตช์ที่รีโมทก็ได้เช่นกัน แต่มันจะดูไม่เท่ นอกจากนี้ฝากระโปรงหลังสามารถสั่งเปิดได้ด้วยปุ่มกดบนกุญแจรีโมทอีกด้วย
เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีดำสลับกับสีขาว เนื้อผ้าแม้จะให้ผิวสัมผัสแบบสากแต่ข้อดีคือไม่เก็บฝุ่น นั่งได้แบบนุ่มเกือบแน่นให้ความรู้สึกสบาย โอบกระชับลำตัวดีพอสมควร ส่วนความยาวเบาะก็รอบรับพอดี ไม่สร้างความเมื่อยล้า เสียอย่างเดียวที่เข็มขัดนิรภัยไม่สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ ไม่เช่นนั้นคงสร้างความสบายให้มากกว่านี้ เบานั่งด้านหลังให้ความสบายได้เป็นอย่างดี มีพนักพิงศีรษะมาให้ครบทั้ง 3 ตำแหน่ง เพียงแต่ไม่มีที่วางแขนตรงกลางและไม่สามารถพับลงเพื่อเพิ่มเนื้อที่เก็บสัมภาระได้ แต่ยังดีที่มีพื้นที่วางขาแบบเหลือเฟือก็พอจะลบล้างกันไป
การออกแบบภายในนั้นเป็นแนวทางการออกแบบภายในยุคใหม่ของนิสสันโดยเน้นให้มีเส้นสายลากจากจุดกึ่งกลางเฉียงขึ้นไปด้านข้าง ภาพรวมก็ดูทันสมัยและเก๋ไก๋ดี ส่วนปุ่มสตาร์ทรถนั้นอาจจะอยู่ในตำแหน่งที่แปลกไปสักหน่อย แต่ใช้ไปนานๆ ก็คุ้นชิน ส่วนพวงมาลัยก็สามารถปรับได้หลายระดับช่วยให้เรามีตำแหน่งการขับขี่ที่ต้องการได้เป็นอย่างดี
แต่ชุดมาตรหลังพวงมาลัยจัดว่าเจ๋ง โดยเฉพาะในด้านซ้ายที่ทำได้หรูหราหมาเห่ามาก เพราะเป็นหน้าจอสีที่ไม่ใช่เป็นเข็มพลาสติดกวาดไปมาเหมือนเดิม แถมยังสามารถเลือกการแสดงผลได้อย่างหลากหลาย เวลารถติดก็กดเล่นกันเพลินไปเลย เครื่องปรับอากาศ เป็นแบบอัตโนมัติ แสดงผลบนหน้าจอดิจิตอล ส่วนด้านล่างลงมาจะมีช่องสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาด 12 โวลต์ พร้อมฝาปิด มาให้ 1 ช่อง ช่องเสียบยูเอสบีสำหรับชาร์จไฟฟ้าและเชื่อมต่อกับระบบนิสสันคอนเน็คและช่อง AUX อีก 1 ช่อง
ด้านความบันเทิงเป็นหน้าจอทัชสกรีน 7 นิ้ว เชื่อมต่อกับระบบนิสสันคอนเน็ค รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Bluetooth และ Apple CarPlay สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS มีลำโพงมาให้ 6 ตัวให้สุ้มเสียงที่ดีใช้ได้ โดยหน้าจอนี้ยังแสดงผลจากกล้องมองภาพรอบทิศทางซึ่งจะทำงานในขณะเข้าเกียร์ถอยหลัง และตอนกดปุ่ม Camera ที่อยู่เหนือสุดฝั่งขวาของหน้าจอก็จะแสดงผลได้ 360 องศาให้เห็นเช่นกัน มันจะดีตรงที่ทำให้เรากะระยะด้านหน้าไม่พ้น ก็กดกล้องดูได้ แล้วก็เลี้ยวผ่านไปแบบสวยๆ โดยไม่เฉี่ยวอะไร
สำหรับตัวท็อปนี้ก็เก๋ไก๋เข้าไปอีก เพราะกระจกมองข้างทั้ง 2 ฝั่งจะมีสัญญาณไฟเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาที่เรียกกันว่า Blind Spot Warning พร้อมส่งเสียงเตือนเมื่อเปิดไฟเลี้ยวมาให้ นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ใครๆ ก็มีอย่างระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน ABS ระบบกระจายแรงเบรกตามน้ำหนักบรรทุก EBD ระบบเสริมแรงเบรกในภาวะฉุกเฉิน BA แต่จะเพิ่มมาอีกหน่อยกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้งหรือบนพื้นลื่น VDC และระบบป้องกันการไหลบนเนินหรือ HAS (Hill Start Assist) ส่วนถุงลมนิรภัยสำหรับรุุ่น VL นี้ก็มีกันถึง 6 ใบเลยทีเดียว
มาถึงไฮไลต์ของความคุ้มค่าด้านความปลอดภัยด้วยระบบไฮเทคที่มีมาให้แบบที่คนอื่นไม่มีในราคานี้ เริ่มกันตั้งแต่ ระบบ IFCW (Intelligent Forward Collision Warning) สัญญาณเสียงและขึ้นสัญลักษณ์สีแดงเตือนบนมาตรวัดเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้าขณะขับขี่ หรือขับเข้าใกล้ยานพาหนะคันข้างหน้า มากเกินไป, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน IEB (Intelligent Emergency Braking) ช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของยานพาหนะคันข้างหน้า เพื่อสั่งระบบเบรกให้ช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ
กล้องมองภาพรอบทิศทาง IAVM (Intelligent Around View Monitor) กล้อง 4 ตัว รอบคัน ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง จะจับภาพขณะรถกำลังเคลื่อนไหวช้าๆ ต่ำกว่า 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วประมวลผล เพื่อแสดงภาพพื้นที่รอบคันรถ ผ่านหน้าจอชุดเครื่องเสียง ทำงานร่วมกับระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน MOD (Moving Object Detection) ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคัน จับการเคลื่อนไหวได้
ระบบเตือนจุดอับสายตา BSW (Blind Spot Warning) เมื่อคุณเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟสีส้มกระพริบเตือนที่กระจกมองข้าง ในฝั่งที่ยานพาหนะแล่นมาทางด้านข้างรถ ให้รู้ว่า มียานพาหนะคันอื่น กำลังจะตีคู่มาอยู่ในช่องทางด้านข้าง, ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง ถ้าระบบตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา จะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา