
ตามที่ได้มีการประเมินการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา สายการบิน นกสกู๊ต ได้ตัดสินใจดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจการบินอย่างหนัก ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีสัญญาณอันดีเกี่ยวกับการแพร่ระบาดและมีบางประเทศที่เริ่มผ่อนปรนการเดินทางแล้ว แต่การเดินทางระหว่างประเทศยังคงถูกจำกัดและอาจมีผลกระทบไปอีก 2 ถึง 3 ปี ทำให้การเดินทางไม่สามารถฟื้นตัวกลับไปเท่าปี 2562
จากภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมการบินที่หดตัวลง สายการบินนกสกู๊ตจึงปรับลดจำนวนเครื่องบินจำนวน 3 ลำ ภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งส่งผลให้ทางบริษัทจำเป็นต้องตัดสินใจลดจำนวนพนักงานด้วยเช่นกัน นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและทางบริษัทเข้าใจดีถึงผลกระทบต่อพนักงาน โดยสายการบินนกสกู๊ตจะชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างเหมาะสม
ทางบริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของการหางานใหม่ในช่วงเวลานี้ และจะพยายามช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบให้มากที่สุดเท่าที่สายการบินนกสกู๊ตสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม สายการบินนกสกู๊ตยังคงคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานทุกคนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้สายการบินนกสกู๊ต เป็นสายการบินร่วมทุนราคาประหยัดระหว่างสายการบินนกแอร์ของคนไทย และสายการบินสกู๊ต จากประเทศสิงคโปร์ ได้มีการเพิ่มเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 ลำที่ 6 และ 7 เข้าประจำฝูงบินอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่าน
เพื่อเป็นการรองรับแผนการเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางปัจจุปันและแผนการเปิดเส้นทางบินใหม่ ช่วงไฮซีซั่นไปยังประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในอนาคต การลดเครื่องบินลง 3 ลำจะทำให้เหลือเครื่องบินสำหรับให้บริการอยู่ที่ 4 ลำเท่านั้น
โดยเครื่องบินลำใหม่ของนกสกู๊ตแบบโบอิ้ง 777-200 รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 415 ที่นั่ง แบ่งเป็นชั้นธุรกิจ (ScootPlus) 24 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 391 ที่นั่ง ซึ่งผู้โดยสารสามารถเลือกประสบการณ์การเดินทางได้ตามที่ต้องการ และจ่ายเฉพาะสิ่งที่ผู้โดยสารเลือก อาทิ ตำแหน่งที่นั่ง อาหาร การเพิ่มน้ำหนักสัมภาระ รวมไปถึงบริการอื่นๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้นกสกู๊ต ให้บริการจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยัง เมืองนานกิง ชิงเต่า เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหยาง และเทียนจิน ในจีนแผ่นดินใหญ่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน เมืองนาริตะ และเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และเมืองเดลี ประเทศอินเดีย และเตรียมพร้อมเพิ่มเส้นทางบินใหม่สู่ประเทศอินเดีย ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ในอนาคต แต่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 เสียก่อน