ส่อง ความล้ำของศูนย์ NTT Client Experience Center

ส่อง ความล้ำของศูนย์ NTT Client Experience Center

Client Experience

วันนี้ TheReporterAsia ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมศูนย์ Client Experience Center ของ NTT ซึ่งนับเป็นการจัดทัพใหม่หลังการรวมโซลูชั่นทั้งหมดเข้ามาอยู่ภายใต้แบรนด์เดียว นั่นก็คือ NTT Ltd. ทำให้เกิดความสมบูรณ์พร้อมของการสร้างประสบการณ์ทางด้าน ดิจิทัลโซลูชั่น ให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก

โดยศูนย์ Client Experience Center แบ่งการจัดแสดงออกเป็นส่วน ๆ ทั้งในส่วนของการอบรมสัมนา เพื่อให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและบริการต่างของเอ็นทีที ให้กับลูกค้า ซึ่งก็จะมีทั้งในส่วนของนวัตกรรมและโซลูชั่นที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น บริการคลาวด์ และ Solution Insight สำหรับการวิเคราะห์การทำงานของระบบคราวด์เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด, ระบบคอนเทคเซ็นเตอร์บนคลาวด์

Client Experience

ถัดมาเป็นส่วนของศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของเอ็นทีที NTT SOC (NTT Security Operation Center) ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาช่วยเสริมการทำงาน เพื่อลดขั้นตอนและจำนวนบุคคลากรปฏิบัติงาน ทำงานให้เกิดการดูแลที่มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมขอบเขตการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคคลากรทางด้านไอทีซีเคียวริตี้ที่สำคัญ

Client Experience

นอกจากนี้ในส่วนของโซนอนาคต ยังมีการจัดแสดงส่วนของเทคโนโลยีสำนักงานอัจฉริยะ ที่นับตั้งแต่เปิดประตูเข้าสู่สำนักงาน จะมีการสแดนใบหน้าและตรวจสอบตัวตนก่อน ประตูจึงจะเปิดให้เข้า และเมื่อเข้าไปแล้วจะพบว่ามีระบบการประชุมและพรีเซนต์งานแบบล้ำหน้า มาให้ได้ทดลอง ทั้งในส่วนของกล้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่จะจับภาพตามเสียงพูดแบบอัตโนมัติ หรือจะเป็นสมาร์ทบอร์ดที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกทั้งการระดมสมอง แชร์ไอเดีย หรือแม้กระทั่งบันทึกสิ่งที่จดหรือรายงานการประชุมแล้วส่งต่อหลังการประชุม ให้กับผู้ร่วมการประชุมจากทั่วโลกได้อย่างสะดวก

ไม่เพียงเท่านั้นในส่วนของการทำงานด้านโซลูชั่น ยังมีระบบการช่วยแปลอัตโนมัติ COTOHA ซึ่งจะช่วยให้ความชัดเจนด้านการแปลเอกสารระหว่างประเทศที่สะดวกมากขึ้น จากเดิมที่ต้องส่งแปลซึ่งก็มีโอกาสที่ข้อมูลจะรั่วไหลได้ หรือหากแปลเองภายในก็อาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้ กระบวนการแปลอัตโนมัติจากระบบปัญญาประดิษฐ์เชิงลึก ที่มีการพัฒนาด้านการแปลมาจนเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่รองรับภาษาไทย แต่กระนั้นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์และแนวความคิดที่ดีในอนาคตของการพัฒนาภาษาไทยขึ้นเอง

ถัดไปอีกนิด เป็นเรื่องอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งมีการนำอุปกรณ์ Realware ซึ่งเป็นแว่นสวมใส่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อระบบเครือข่าย รองรับการสั่งการด้วยเสียง และไม่ต้องกลัวว่าจะพูดสั่งการไม่ถูก เพราะระบบมีตัวเลือกของการสั่งการพร้อมตัวอย่างคำให้เลือกใช้ได้เลยจากจอขนาดเล็กที่แสดงผลอยู่ที่แว่น ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จริง สามารถสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสะดวกจากทุกที่ทั่วโลก และที่สำคัญสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้แล้ว งานนี้บอกเลยว่าได้ลองใช้แล้วสามารถสั่งการได้โดยง่ายจริง เพียงแค่มองแล้วพูดสั่งการข้อมูลของโลกทั้งใบก็จะมาอยู่ในสายตาเราทันที

และในโซนนี้ยังมีการจัดแสดงในส่วนของโซลูชั่นการทำงานแบบอัตโนมัติ RPA (Robotic Process Automation) ให้ได้ดูเป็นตัวอย่าง ผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ที่จะแสดงขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติแบบซีมูเลเตอร์ เพื่อให้เราได้เห็นการทำงานภายใต้เงื่อนไขแบบต่างของระบบ แม้ว่าจะไม่ได้มีหุ่นยนต์หรือแขนกลเข้ามาโชว์อีกด้วย

Client Experience

ขณะที่ส่วนของการจัดแสดงที่สำคัญ และถือได้ว่า NTT Ltd. ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอีเวนท์ระดับโลกอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือการจัดแสดงเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ใช้ในการแข่งขันจักรยาน Tour de France ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ครบถ้วนของการเก็บข้อมูลทั้งส่วนของนักแข่ง เพื่อตรวจเช็กความพร้อม และประสิทธิภาพของผู้แข่ง เพื่อประเมินโอกาสและหาช่องทางการเอาชนะคู่แข่งตลอดการแข่งขัน และรวมทั้งการเก็บข้อมูลจักรยานที่เกิดขึ้นทั้งหมด หลายสิบจุด เพื่อประเมินความสามารถของตัวรถให้มีความพร้อมมากที่สุดระหว่างแข่ง

แน่นอนว่า เรื่องของการส่งข้อมูลระหว่างแข่งเพื่อประมินความสามารถและโอกาสแบบเรียลไทม์ ผ่านโครงสร้างทางการสื่อสารเฉพาะรูปแบบที่รวดเร็วและตอบสนองได้ทันที นับเป็นอีกหนึ่งความความสำคัญ ที่ NTT Ltd. สามารถเชื่อมโยงอินฟาร์สรัคเจอร์ที่มีอยู่ทั่วโลก เข้ามาตอบโจทย์การสื่อสารแบบไร้รอยต่อเช่นนี้ได้อย่างดี โดยศูนย์ Client Experience Center จะมีพื้นที่ทั้งหมด 393 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่อาคารคอลัมน์ ชั้น 17

ทั้งนี้คุณสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว NTT Ltd ได้กล่าวว่า ในวันนี้เราได้เตรียมความพร้อมเพื่อการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรในหลากหลายมิติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้เดินหน้าอย่างมั่นคงในการแข่งขันทางธุรกิจต่อไป ซึ่ง ณ เวลานี้ จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการทรานส์ฟอร์มเมชั่นองค์กรเพื่อเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยเทคโนโลยีถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ของทุกองค์กรธุรกิจ ในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างข้อมูลเชิงลึก เพื่อผลักดันรายได้และผลกำไรที่เหนือกว่า

“เรามองว่าจากนี้ไปการใช้คลาวด์ในประเทศไทยจะเติบโตสูงขึ้น และคาดว่ามูลค่าตลาดรวมของคลาวด์ในประเทศไทยจะโตอย่างต่อเนื่อง โดยการให้บริการคลาวด์ยังคงเป็นเรือธงหลักของเรา นอกจากนี้เอ็นทีที ได้เตรียมการให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชั่น และแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มขององค์กรอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยการบริการ Managed Service เพื่อเข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านไอซีทีในองค์กร เพื่อให้เหมาะกับการดำเนินงานและช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ

Client Experience
สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว NTT Ltd

นอกจากนี้เรายังมีนวัตกรรมและบริการด้านรักษาความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับโลก ทำให้ลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมและองค์กรธุรกิจมั่นใจได้ถึงศักยภาพที่เราพร้อมสนับสนุนการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบเพื่อทรานส์ฟอร์มเมชั่นองค์กรอย่างแท้จริง”

เราได้รวบรวมนวัตกรรมพร้อมการให้บริการอย่างครบวงจรในทุกด้าน ครอบคลุมตั้งแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอซีที การเชื่อมต่อเครือข่ายจากทั่วโลก และ นำระบบ SD-WAN มาผสานการทำงานกับศูนย์ข้อมูลทั่วโลก และเชื่อมต่อบนระบบคลาวด์ของเอ็นทีทีในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยทางข้อมูลและการเชื่อมต่อที่สะดวกและรวดเร็ว

ในด้านระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ NTT Ltd สามารถช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับความปลอดภัยด้วยบริการ secure by design โดยได้รวมระบบรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรม รวมถึงได้รับข้อมูลเชิงลึกในการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีอัจฉริยะของเรา

ซึ่งเราพร้อมนำเสนอบริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบบูรณาการและช่วยลูกค้าในการป้องกัน คาดการณ์ และตรวจจับพร้อมตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์เพื่อรองรับด้านการจัดการความเสี่ยงของธุรกิจ

Client Experience

โดย NTT Ltd. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างบริการในการสนับสนุนให้ลูกค้าของเราทั้งทางด้านบริการทางเทคนิค การบริหารจัดการ และบริการสนับสนุนต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดและได้รับการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีในระดับพรีเมี่ยมโดยการจัดหาโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีเฉพาะทางเพื่อขยายธุรกิจให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ บริการของเราได้รวบรวมโซลูชั่นและการให้บริการครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การให้คำปรึกษาและบริการด้านเทคนิครวมถึงการสนับสนุนด้านการบริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบ โดย เอ็นทีที ได้แบ่งกลุ่มการให้บริการออกเป็น 6 กลุ่ม ดังนี้

  1. Intelligent Digital Transformation การเปลี่ยนเข้าสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นด้วยรูปแบบอัจฉริยะ
  2. Intelligent Customer Experience สร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าด้วยรูปแบบอัจฉริยะ
  3. Intelligent Workplace สำนักงานอัจฉริยะ
  4. Intelligent Data Center and Hybrid Cloud ศูนย์ข้อมูลและไฮบริดคลาวด์อัจฉริยะ
  5. Intelligent Networking เครือข่ายอัจฉริยะ
  6. Intelligent Cybersecurity ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ

โดยได้นำกลุ่มการให้บริการดังกล่าวมาผสมผสานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้กับลูกค้า ด้วยการนำนวัตกรรมด้านIntelligent Digital Transform เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพด้วยประสบการณ์ลูกค้าแบบอัจฉริยะ พร้อมยกระดับประสบการณ์การทำงานด้วยสำนักงานอัจฉริยะ รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพบนแอพพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐานด้วย ศูนย์ข้อมูลและไฮบริดคลาวด์อัจฉริยะ เพื่อช่วยขับเคลื่อนความคล่องตัวทางธุรกิจด้วยระบบเครือข่ายอัจฉริยะ ซึ่งทุกสิ่งที่เราพร้อมนำเสนอจะสร้างความปลอดภัยด้วยการออกแบบผ่านระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ

Related Posts