ฟิลิปส์ เปิดตัวไลน์อัพเครื่องฟอกอากาศใหม่ล่าสุด Philips Air Purifier 4000i Series และ Philips Air Purifier 2000i Series รับการเติบโตของตลาด ชูประสิทธิภาพดักจับไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศ และฤดูฝุ่นที่กำลังมาเยือน ควบคุมและสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นได้จากทุกที่ คาดการณ์ช่องทางออนไลน์ยังโตต่อเนื่อง หลังจากโควิดช่วยกระตุ้นยาแรงให้ตลาดโต
สิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟิลิปส์ ได้ทำการเปลี่ยนดีไซน์เครื่องฟอกอากาศใหม่ เพื่อให้วางตรงไหนก็ดูสวยงาม โดย Philips Air Purifier 4000i Series และ Philips Air Purifier 2000i Series 2 รุ่นใหม่ มาพร้อมไวไฟที่สามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นได้อย่างสะดวก
ด้วยประสิทธิภาพการกรอง Nano HEPA ที่จะช่วยกรองอนุภาคฝุ่นได้ละเอียดถึง PM 0.003 ไมครอน ช่วยป้องกันแบคทีเรียและไข้หวัดสายพันธุ์ H1N1 ได้ 99.9% ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวรับรองโดย ECARF อีกทั้งยังเป็นการกำจัดสารภูมิแพ้ไรฝุ่น และสปอร์เชื้อรา 99.9% อีกด้วย
ทั้งนี้ มาตรฐานแผ่นกรองส่วนใหญ่ของ HEPA จะมีมาตรฐานที่สามารถกรองได้ 0.3 ไมครอน ซึ่งจะกรองฝุ่นได้ราว 99.7% แต่ของฟิลิปส์ สามารถกรองได้ละเอียดถึง 0.003 ทำให้กรองได้กว่า 833 เท่าของ PM 2.5 เลยก็ว่าได้
แนวทางการทำตลาด
ทั้งนี้ ในการทำตลาดเครื่องฟอกอากาศนั้น ฟิลิปส์จะเลือกใช้ KOL ด้านเทคโนโลยีและวิชาการ เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูสุขภาพและเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศให้ถูกต้อง โดยเน้นคอนเทนต์ที่จะช่วยในการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้บริโภคในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้มีความเหมาะสม นอกจากนี้ยังเลือกใช้ KOL ที่เป็น Family หรือคุณแม่ เพื่อเป็นตัวแทนในการพูดกับคอนซูเมอร์ บการตลาดที่ตั้งเป้าไว้ราว 10% ของยอดขายอีกด้วย
โดย 2-3ปีที่ผ่านมา ตลาดเครื่องฟอกโต 17% และฟิลลิปยังเติบโตมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมตลาดจะมีมูลค่าราว 2800 ล้านบาท ซึ่งนับตั้งแต่ ปี 2018 ที่เริ่มรู้จัก PM2.5 เครื่องฟอกก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าตลาดต่ำกว่าหมื่นจะมีมูลค่าสูง แต่ตลาดที่สูงกว่าหมื่นก็เริ่มเติบโตแบบดับเบิล ซึ่งผู้บริโภคมีความเข้าใจเรื่องของการป้องกันโรคได้มากขึ้น
สินค้าเครื่องฟอกอากาศของฟิลิปส์ จะมีเครื่องที่ราคามากกว่าหมื่นราว 85% ของสินค้าเครื่องฟอกทั้งหมด และเครื่องฟอกทั้งหมดจะคิดเป็นสัดส่วน 12% ของสินค้าฟิลิปส์ ซึ่งเครื่องครัวกับเตารีด จะยังเป็นสินค้าหลักของฟิลิปส์ที่มียอดสัดส่วนการขายสูงที่สุด
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เราเน้นไปที่การทำตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ไปที่ไลฟ์สตรีมมิ่งมากขึ้น ทั้งของฟิลิปส์ที่แบรนด์ออฟฟิศเชียลเองและร่วมกับร้านค้า รวมทั้งทำอีแคตตาล็อค เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และยังทำแคมเปญกับแพลตฟอร์มต่างๆมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ Chat&Shop โดยส่งคนของฟิลิปส์เข้าไปให้คำตอบกับลูกค้าโดยตรงผ่านการแชตออนไลน์
ทั้งนี้ในภาพรวมตลาดออนไลน์โตขึ้นราว 20% แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตลาดออฟไลน์ก็ยังมีสัดส่วนที่สูงอยู่ราว 70% ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะได้เห็นตลาดออนไลน์โตขึ้นกว่า 30%
นอกจากนี้ในปี 2021 ยังเป็นความท้าทายเรื่องของเศรษฐกิจ ขณะที่คนตกงานยังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลต่อกำลังซื้อที่ลดน้อยลง ซึ่งหากสถานการณ์โควิด-19 ยังรุนแรงต่อไปจะต้องใช้กลยุทธ์ออนไลน์เป็นหลัก และเน้นกิจกรรมการตลาดด้านสุขภาพเพื่อทำความเข้าใจเรื่องสุขภาพเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้บริโภค
ขณะที่หากในปี 2021 สถานการณ์โควิด-19 เริ่มทุเลาลง แนวทางการทำตลาดก็ยังคงทำไม่ต่างจากสถานการณ์รุนแรงมากนัก โดยจะมีเพียงเป้าทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ปีนี้คาดว่าจะโตติดลบราว 5-7% โดยประมาณ ซึ่งยอดของผลิตภัณฑ์บางส่วนยังสามารถพยุงยอดขายได้
ฟีเจอร์เด่นเครื่องฟอกอากาศ 4000i series และ 2000i series
เครื่องฟอกอากาศ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้เปลี่ยนโฉมจากเครื่องฟอกรูปทรงสี่เหลี่ยมมาเป็นเครื่องฟอกรูปทรงกลม พร้อมประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้ไวกว่าเดิม โดยเครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier 4000i Series ชูจุดเด่นที่ฟอกอากาศได้ภายใน 6 นาที และมีหน้าจอแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์
สำหรับ Philips Air Purifier 2000i Series จะสามารถฟอกอากาศสะอาดได้ภายใน 9 นาที
เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมแผ่นกรอง NanoProtect HEPA และระบบการกรอง 3 ชั้น จึงสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าขนาดของไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศ** และเล็กกว่าฝุ่น PM2.5 ถึง 800 เท่า* และเล็กกว่าขนาดของไวรัส** เครื่องฟอกอากาศของฟิลิปส์สามารถกรองฝุ่นละอองและไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศ เช่น H1N1 ได้ถึง 99.9%
เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier 4000i Series และ Philips Air Purifier 2000i Series ยังถูกออกแบบมาให้รองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลด้วยการเชื่อมต่อ WIFI เพื่อที่จะติดตามสภาพอากาศในบ้านและควบคุมสั่งการผ่านทางแอพลิเคชั่น Clean Home+ แบบเรียลไทม์ได้ทุกที่ทุกเวลา
Philips Air Purifier 4000i series ราคา 24,990 บาท และ Philips Air Purifier 2000i series ราคา 17,990 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ