Ericsson ยื่นฟ้อง Samsung ในสหรัฐฯโดยอ้างว่า บริษัท เกาหลีใต้ละเมิดข้อผูกพันตามสัญญาเกี่ยวกับการจ่ายค่าลิขสิทธิ์และใบอนุญาตสิทธิบัตร
ในแถลงการณ์ Ericsson กล่าวว่า ได้เริ่มดำเนินการทางกฎหมายเนื่องจากสิ่งที่เชื่อว่าเป็นการละเมิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ที่เป็นธรรม สมเหตุสมผลและไม่เลือกปฏิบัติ (FRAND) ซึ่งเป็นระบบที่อนุญาตให้เข้าถึง IP ภายใต้มาตรฐานมือถือระดับโลก จากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาที่สำคัญ
Ericsson กล่าวว่า“ การเจรจาต่ออายุใบอนุญาตหลายครั้ง” อาจทำให้การจ่ายค่าลิขสิทธิ์ IP ล่าช้าออกไป หากพวกเขาขยายเวลาออกไปเกินกว่าที่ใบอนุญาตที่มีอยู่จะหมดอายุลง
“ เมื่อต่ออายุแล้วค่าลิขสิทธิ์ที่ยังไม่ได้ชำระจะถูกเรียกคืน และรับรู้เป็นรายได้เมื่อต่ออายุอีกครั้ง” ผู้จำหน่ายชาวสวีเดนกล่าวเสริม
นอกจากนี้ยังกล่าวว่าสภาพการแข่งขันส่งผลกระทบต่อปริมาณการขายโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนจากรุ่น 4G เป็น 5G เมื่อรวมกับการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ล่าช้าและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี Ericsson กล่าวว่ารายได้จากการดำเนินงาน อาจจะได้รับผลกระทบราว 1 พันล้านโครน (ราว 117.8 ล้านดอลลาร์) ถึง 1.5 พันล้านโครน ในแต่ละไตรมาสจากไตรมาสที่ 1 ปี 2564
“ ผลกระทบทางการเงินที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและข้อกำหนด ตลอดจนเงื่อนไขของข้อตกลงใหม่” Ericsson กล่าวเสริม
ทั้งนี้อีริคสันและซัมซุงมีส่วนร่วมในข้อพิพาทเรื่องค่าลิขสิทธิ์ครั้งล่าสุดในปี 2555 ซึ่งจบลงด้วยการที่ผู้ขายชาวเกาหลียอมจ่ายเงิน 650 ล้านดอลลาร์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ขณะที่กรณีที่เกิดขึ้นนี้มีการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐสำหรับเขตตะวันออกของเท็กซัส (มาร์แชล), Ericsson Inc. v. Samsung Electronics Co. , 20-380
