คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FCC) ปฏิเสธคำอุทธรณ์ของ Huawei ที่จะให้พิจารณาการกำหนดให้หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยอีกครั้ง และยังคงดำเนินการตามโปรแกรมเพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานรายย่อยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจออกจากโครงข่ายทั้งหมด
โดยในระหว่างการประชุม คณะกรรมาธิการทั้ง 5 คนลงมติ ปฏิเสธคำร้องของ Huawei สำหรับการตรวจสอบสถานะความเป็นภัยคุกคามอีกครั้ง โดยประธาน Ajit Pai อ้าง “รายงานหลักฐานการสอบสวน” กับผู้ขาย รวมถึง “ความสัมพันธ์ใกล้ชิด” ที่หัวเว่ยถูกกล่าวหาว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพ และการประเมินอิสระของจีนที่ระบุว่าอุปกรณ์ของตน “ปลอดภัยน้อยกว่าบริษัทอื่น” ซึ่งนั่นอาจจะเป็นการจงใจให้เป็นเช่นนั้น
สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ได้ว่า “ ข้อกังวลเกี่ยวกับ Huawei ของ FCC ไม่ใช่แค่เรื่องสมมุติเท่านั้น ”
ทั้งนี้ Huawei และ ZTE จากประเทศจีน ถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยของสหรัฐ นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน เมื่อหน่วยงานกำกับดูแล ประกาศยืนยันการประเมินในปลายปี 2019 การเคลื่อนไหวดังกล่าวปิดกั้นผู้ประกอบการในสหรัฐฯจากการได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในการซื้อใช้หรือบำรุงรักษาอุปกรณ์หรือบริการจากผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง
คำร้องจาก ZTE ถูกปฏิเสธเมื่อเดือนที่แล้ว
Pai สรุปการตัดสินใจที่จะรักษาการกำหนดภัยคุกคามของ Huawei ซึ่งจะส่งผลโดยตรงในเชิงบวก ต่อความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของเครือข่ายโทรคมนาคมของสหรัฐอเมริกา
Huawei ยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัย
ในการลงมติดังกล่าวของคณะกรรมาธิการ ยังได้อนุมัติระเบียบสำหรับขั้นตอนการชำระเงินคืน ที่ครอบคลุมผู้ประกอบการรายย่อยออกมาด้วย แม้ว่าจะมีข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับการจัดสรรเงินทุนจากรัฐสภาสหรัฐฯแต่อย่างใด
โดยก่อนหน้านี้ FCC จะต้องใช้เงินประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการถอดอุปกรณ์จากผู้ผลิตรวมถึง Huawei และ ZTE ออกจากระบบโทรคมนาคมของสหรัฐทั้งหมด