ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เทเลนอร์ หลังมีการประกาศสนับสนุนการควบรวมกิจการจาก เครือซีพีและกลุ่มเทเลนอร์ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่ม เทลเลนอร์ ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ถึงการรวมกันดังกล่าว โดยระบุถึงความคาดหวังใหม่ที่จะเกิดขึ้น
โดย Telenor และ CP Group ตกลงสำรวจการก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ประกอบด้วย dtac และ True ในประเทศไทย ธุรกรรมดังกล่าวจะสร้างบริษัทที่มีลูกค้าประมาณ 55 ล้านรายและมีรายได้ตามรูปแบบประมาณ 6.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563
ทั้งนี้เทเลนอร์เชื่อว่าจะมีโอกาสสำคัญในเอเชียที่มาจากการทำให้เป็นดิจิทัลและความก้าวหน้าทางเทคนิคในปีต่อ ๆ ไป และธุรกรรมที่เสนอนี้จะช่วยพัฒนากลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยมูลค่าของเทเลนอร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเทเลนอร์ในเอเชีย
การทำธุรกรรมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำที่มีความสามารถในการเร่งวาระเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทยในด้านประสิทธิภาพของเครือข่าย นวัตกรรม จุดแข็งด้านการลงทุน และแบรนด์ การทำธุรกรรมดังกล่าวจะเป็นการควบรวมกิจการที่เท่าเทียมกันและจะนำสิ่งที่ดีที่สุดจากสองบริษัทมารวมกันเพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ในขั้นตอนนี้ จะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้นแบบสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (VTO) สำหรับหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของดีแทคและทรู ตามมาด้วยการควบบริษัทของทั้งสองบริษัท โดยราคาหุ้น VTO ของดีแทคจะอยู่ที่ 47.76 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 จาก VWAP และราคาหุ้น VTO ของทรู จะเท่ากับ 5.09 บาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 จาก VWAP สำหรับหุ้นทรูเช่นเดียวกัน ทั้งนี้อัตราการแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันคือ 10.221 หุ้นทรูต่อหุ้นดีแทค
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประกวดราคาใน VTO ซึ่งกลุ่มเทเลนอร์และซีพีจะตั้งเป้าสำหรับส่วนแบ่งการเป็นเจ้าของประมาณ 1ใน3 ของแต่ละเอนทิตีที่ควบรวมกิจการ โดยบริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
dtac และ True จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างอิสระจนกว่าการทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้น โดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงที่จำเป็นภายในสิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ทั้งนี้การทำธุรกรรมจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการอนุมัติตามกฎข้อบังคับตามธรรมเนียม คู่สัญญารับทราบว่าไม่มีความแน่นอนในการสรุปธุรกรรม
