Review : Sony WH-XB910N หูฟังไร้สาย เพื่อนรู้ใจคนดนตรี

Sony WH-XB910N

WH-XB910N

Sony WH-XB910N หูฟังไร้สายแบบครอบหู ที่ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นหูฟังที่นอกจากจะมีความสมบูรณ์เรื่องของเสียงตามแบบฉบับของโซนี่แล้ว ยังเป็นหูฟังที่มีความฉลาดอีกด้วย ใครอยากรู้ว่าหูฟังฉลาดเป็นแบบไหน ตามลงไปอ่านที่ด้านล่างกันได้เลยครับ

การออกแบบ

Sony WH-XB910N มีความพิถีพิถันในการออกแบบหูฟังแบบครอบหูได้เป็นอย่างดี โดยมีส่วนของการปรับขนาดเพื่อให้เหมาะกับลักษณะศีรษะของบุคคลที่แตกต่างกัน ด้วยส่วนของตัวหูที่สามารถปรับโยกได้เพื่อความกระชับและถอดเข้าถอดออกที่สะดวก ขณะที่ส่วนเชื่อมระหว่างหูครอบกับก้านสามารถหมุนพับได้ เพื่อช่วยให้สามารถเก็บตัวหูฟังเข้ากับกระเป๋าซอฟต์เคสที่โซนี่แถมมาให้ได้อย่างสะดวก

Sony WH-XB910N

ตัวก้านสามารถปรับระดับได้ทั้ง 2 ฝั่ง ๆ ละ 10 ระดับ ซึ่งไม่ว่าขนาดศีรษะจะเท่าไหร่ ก็สามารถครอบได้อย่างไม่ติดขัดแน่นอน ส่วนบุครอบหูมีความนุ่มของเนื้อวัสดุเป็นอย่างมาก แถมตอนที่ใส่ก็ยังไม่รู้สึกร้อนหูแต่อย่างใด ขณะที่ส่วนในของหูที่มีเยื่อบุกันแนวลำโพงไว้ ก็มีความนิ่มและยืดหยุ่นซับเสียงให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

Sony

แน่นอนว่า การใส่หูฟังแบบครอบหูนั้น น้ำหนักของหูอาจจะมีให้รู้สึกกดที่ส่วนบนของศีรษะอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งเชื่อว่า Sony WH-XB910N ก็เข้าใจจุดนี้ดี จึงได้สร้างนวมบุที่ด้านบนของหูฟังเอาไว้แบบนุ่มเลยทีเดียว เมื่อเราใส่หูฟังแล้วปรับขนาดที่พอดีกับหู ส่วนนวมด้านบนจะมีส่วนช่วยประคองให้หูฟังกระชับ ซึ่งไม่รู้สึกหนักหัวเมื่อฟังดนตรีแต่อย่างใด

Sony WH-XB910N

โทนสีของ Sony WH-XB910N ที่ผมได้รับมานั้น เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งมีความสวยงามของโทนสีที่แยกส่วนวัสดุหลักเช่นกลุ่มพลาสติก ออกมาเป็นสีน้ำเงินโทนหนึ่ง ขณะที่ส่วนบุหุ้มหนังก็ใช้เป็นสีโทนที่เข้มขึ้น ยิ่งเมื่อตัดกับส่วนของโลโก้ SONY ที่เลือกใช้สีขาวแบบตัวนูนด้านขอบนอก ช่วยเพิ่มความทันสมัยได้เยอะเลยทีเดียว

Sony

การสั่งการผ่านหูฟัง

ปุ่มควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องทั้งหมดถูกวางไว้ที่ตำแหน่งหูซ้าย เช่นเดียวกับปุ่มเปิด-ปิด NC (NOISE CANCELING) หรือปุ่มเปิด-ปิด AMB (Ambient Sound Mode) ช่องเสียบแจ็คสาย 3.5mm และสายยูเอสบี Type-C ก็จะอยู่ในส่วนของหูซ้ายค่อนไปทางด้านหลัง เมื่อใส่แล้วตำแหน่งของนิ้วจะสามารถกดปุ่มได้พอดี

WH-XB910N

ด้านหูขวาจะเป็นส่วนของการสั่งการด้วยระบบสัมผัสทั้งหมด ซึ่งจะสามารถสั่งการหูฟังไร้สายได้ทั้งการแตะ 2 ครั้ง เพื่อเล่นหรือหยุดเล่นเพลง การรูดนิ้วขึ้นหรือลงเพื่อปรับเพิ่มหรือลดเสียงตามต้องการ การรูดไปทางด้านหลังเพื่อย้อนเล่นเพลงก่อนหน้าหรือจะรูดไปด้านหน้าเพื่อข้ามเล่นเพลงถัดไปก็สามารถสั่งการได้อย่างสะดวก

ขณะที่การสั่งการนอกเหนือจากการเล่นเพลง เช่นการรับสายเรียกเข้า สามารถกด 1 ครั้งเพื่อรับสายหรือวางสายเรียกได้อย่างสะดวก และสำหรับการเรียกใช้ฟังก์ชั่น Google Assistant ก็สามารถกดค้างไว้ ระบบก็จะตัดเข้าสู่โหมดการสั่งการด้วยเสียงสำหรับใช้งาน Google Assistant ทันที

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจผ่านแอปพลิเคชั่น Headphones Connect

ความพิเศษของ Sony WH-XB910N นั้น นอกจากจะแยกส่วนการสั่งการที่ตัวเครื่องได้อย่างสะดวกกับการจัดวางปุ่มทั้งหมดไว้ที่ฝั่งซ้ายและการควบคุมแบบสัมผัสท่าทางที่ฝั่งหูขวาแล้วนั้น การตั้งค่าที่จำเป็นผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อทำให้หูฟังรุ่นนี้มีความฉลาดมากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ผู้ใช้ห้ามพลาดเด็ดขาด

sony Headphones Connect

โดยเบื้องต้นหลังจากที่เราดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Headphones Connect ของโซนี่มาแล้ว สามารถทำการเชื่อมต่อตามขั้นตอนง่าย ๆ แล้วเมื่อเข้าสู่หน้าหลักของแอปพลิเคชั่น ในส่วนของ Headphones/Status ระบบจะแสดงส่วนของการควบคุมเพลง และส่วนของโหมดการควบคุมเสียง ซึ่งมีความอัจฉริยะตรงที่ระบบจะรู้ว่าเรากำลังอยู่ในอิริยาบทแบบไหน แล้วจะทำการปรับแต่งโหมดของสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับเรา โดยมีปรับทั้งโหมดท่านั่งโซฟาอยู่ที่บ้าน การฟังระหว่างเดิน หรือแม้กระทั่งการฟังระหว่างที่กำลังวิ่ง หรือเดินทางอยู่ ระบบก็จะรับรู้และเลือกโหมดที่เหมาะสมให้เราอย่างอัตโนมัติ

sony Headphones Connect

ในส่วนของ Headphones/Sound จะแสดงสถานะของการใช้งานระบบตัดเสียงรบกวน โดยเลือกได้ 3 โหมดทั้งแบบตัดเสียงรบกวน ฟังเสียงรอบข้างด้วย หรือปิดระบบนี้เลย กดเลือกได้ทั้งจากการปุ่มกดที่ตัวหูฟังและเลือกได้ผ่านแอปพลิเคชั่นนี้เลย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกผ่านแอปพลิเคชั่นได้ว่า ตัดเสียงรบกวนนั้นจะลดระดับเสียงลมให้น้อยลงด้วยหรือไม่ เพื่อช่วยให้เสียงที่ได้รับมีคุณภาพของเสียงดีที่สุด ซึ่งต้องบอกเลยว่าฟังก์ชั่นนี้ทำให้ผมหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

ด้านล่างของเมนูนี้จะมีการปรับรูปแบบของเสียงที่ชื่นชอบ โดยมีให้เลือกทั้งการตั้งค่าเองและรูปแบบ Pre Set ที่ระบบมีให้เลือกทั้งส่วนของ Bright ที่จะให้เสียงใส ๆ คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนฟังแนวป็อบ Excite ก็มีความหนักแน่นเพิ่มมากขึ้น Mellow ให้ความรู้สึกของเวทีเสียงที่ก้องอยู่พอสมควร Relaxed ก็ให้ความรู้สึกของการล่องลอย Vocal เป็นโหมดที่ผมชอบนะเพราะให้เวทีเสียงที่ครบถ้วนมาทุกเครื่องดนตรี Treble Boost ก็ให้ความรู้สึกเสียงร้องที่หนักแน่นขึ้น Bass Boost สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเบสหนัก ๆ หรือจะเลือกเป็น Speech Manual หรือจะเลือก Custom เพื่อเลือกตั้งค่าเองทั้งหมดก็ยังได้

ถัดลงมาด้านล่าง จะมีส่วนการทดสอบระบบเสียง 360 องศา สำหรับเพลงที่ถูกบันทึกมาเป็นพิเศษ โดยจะมีระบบช่วยวิเคราะห์การทำงานของตำแหน่งหูฟังที่เหมาะสมกับการฟังเพลงคุณภาพระดับ 360 องศาได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีการผูกกับแอปพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับฟังเพลงแบบ 360 องศาโดยเฉพาะ เพื่อยืนยันว่าแอปมีความเหมาะสมกันระหว่างหูฟังและเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง

ส่วนของการเชื่อมต่อบลูทูธนั้นก็ยังอยู่ถัดมาในหน้านี้เช่นกัน โดยสามารถเลือกได้ว่าให้ความสำคัญของการเชื่อมต่อเป็นการให้ความสำคัญกับคุณภาพของเสียงเป็นหลัก หรือจะให้การเชื่อมต่อนั้นให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่องเป็นหลักก็ได้เลย นอกจากนี้ยังมีระบบ DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) ระบบที่จะช่วยชดเชยรายละเอียดของเสียงให้ได้คุณภาพระดับ Hi-Res ทำให้สุนทรีย์ในการฟังมีขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งผมก็แนะนำให้เปิดระบบนี้ไว้เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นนั่นเอง

sony Headphones Connect

และในเมนู Headphones/System ยังมีสามารถเลือกได้ว่าจะให้ Sony WH-XB910N เชื่อมต่อแบบ 2 อุปกรณ์หรือไม่ การเลือกระบบช่วยเหลือด้วยเสียงก็สามารถเลือกเปิด-ปิดได้จากหน้านี้ อีกทั้งยังสามารถเลือกเปิด-ปิดระบบ การสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ด้วยสำหรับคนที่คิดว่าไม่ชอบ และถัดมาด้านล่างก็จะเป็นส่วนของการเลือกฟังก์ชั่นให้ปุ่ม NC/AMB ว่าจะให้ทำงานครบทั้ง 3 ฟังก์ชั่นหรือจะให้ใช้ได้แค่ไหนก็กดติ๊กเลือกเอาเองได้สะดวก

ในแอปพลิเคชั่นส่วนนี้ ยังสามารถสั่งการปิดเครื่องอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้ปิดตัวลงหลังไม่ได้ใช้งาน 15 นาที 30 นาที 1 ชั่วโมง หรือ 3 ชั่วโมงได้เองเลย หรือใครไม่ชอบก็สามรถเลือกปิดระบบนี้ได้เช่นกัน นอกจากนั้นก็จะเป็นส่วนของการเลือกภาษาและการอัพเดตซอฟต์แวร์ของเครื่องให้มีความใหม่อยู่เสมอตามที่โซนี่ได้พัฒนาออกมาเรื่อย ๆ

sony Headphones Connect

ทั้งนี้แอปพลิเคชั่น ยังมีการเก็บประวัติการเข้าใช้ออกมาเป็นวันเวลาและลักษณะการใช้ เพื่อให้เรารับรู้ความเหมาะสมของการใช้และปรับปรุงการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีคะแนนและโล่ห์รางวัลให้กับการผ่านการใช้งานในแต่ละขั้นให้กับเราอีกด้วย ซึ่งโดยรวมเหมือนการใช้งานแล้วได้รางวัลของกลุ่มสมาร์ทวอทช์ที่เราเห็นโดยทั่วไป

WH-XB910N

สเปก Sony WH-XB910N

น้ำหนักหูฟัง : ประมาณ 252 กรัม
เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์ระบบสัมผัสหูขวา
ไดร์เวอร์ : ไดนามิคขนาด 40 มม.
ความถี่เสียง : แบบสาย 7 Hz – 25,000 Hz แบบบลูทูธ 20Hz-20,000Hz

การเชื่อมต่อ

Bluetooth ที่รองรับ: BT 5.2 (2.4GHz)
Stereo Mini Jack : 3.5 mm.

ประสิทธิภาพ

การควบคุม : แตะสองครั้ง / แตะค้าง / รูดขึ้น-ลง/ปัดซ้าย-ขวา
ระบบตัดเสียงรบกวน : NC/AMB
เทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพเสียง : DSEE

แบตเตอรี่

ชนิดแบตเตอรี่: Lithium-ion polymer
ระยะเวลาชาร์จ: 3.5 ชั่วโมง
เล่นเพลงต่อเนื่อง: 30-50 ชั่วโมง (เมื่อเปิดและปิดระบบตัดเสียงรบกวน)

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  1. หูฟังไร้สาย x 1
  2. สายสเตอริโอ 3.5 mm. x 1
  3. สายชาร์จ USB-C x 1
  4. คู่มือการใช้งาน x 1
  5. กระเป๋าหูฟัง x 1
  6. ใบรับประกันสินค้า x 1

Sony

การทดลองใช้งานจริง

การทดลองใช้เริ่มตั้งการเชื่อมต่อ ซึ่งบอกเลยว่า การเชื่อมต่อของ Sony WH-XB910N ผ่านแอปพลิเคชั่นนั้นทำได้ง่ายมาก เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชั่นแล้วกดปุ่มเปิดที่ตัวหูฟัง แอปก็จะให้เราทำตามขั้นตอนไปเรื่อยจนจบกระบวนการ แล้วหลังจากนั้นก็ยังไม่เคยได้หลุดการเชื่อมต่ออีกเลย ง่ายและมีความสเถียรในการเชื่อมต่อเป็นอย่างมาก

และเมื่อลองฟังเสียงเพลง ซึ่งส่วนตัวใช้ Joox แบบ VIP ซึ่งจะมีคุณภาพของเพลงที่เล่นในระดับที่สูง การเล่นและถ่ายทอดเสียงของหูฟังผมได้ปรับไปที่โหมดของเสียงคุณภาพ ซึ่งก็ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์แบบและยังไม่พบการเชื่อมต่อที่กระตุกหรือติดขัดแต่อย่างใด ตลอดการฟัง ซึ่งต้องบอกก่อนนะครับว่าผมเองไม่สามารถฟังได้ตลอด 30-50 ชั่วโมงเพื่อทดสอบแบตเตอรี่ แต่ก็ฟังต่อเนื่องราว 4-5 ชั่วโมงได้หลายวันเลยครับ กว่าที่จะต้องกลับมาชาร์จไฟใหม่อีกครั้ง

Sony

ความนุ่มของหู เป็นอีกจุดที่ผมประทับใจมากกว่าเสียง เนื่องจากเป็นหูฟังแบบครอบหู และส่วนตัวเป็นคนใส่แว่นตาเมื่อครอบหูนาน ๆ ยังไม่พบอาการกดทับบริเวณหูให้ได้ลำคาญใจ อาจจะเพราะว่าน้ำหนักกดทับของหูฟังไม่ได้แรงมากและความนุ่มของหนังที่บุมาก็สามารถช่วยได้ดี ขณะที่ส่วนด้านบนก็บุมาและแบ่งน้ำหนักของแรงกดทับได้ระดับหนึ่ง ทำให้เมื่อใช้งานเป็นเวลานานไม่ได้รู้สึกเจ็บที่ใบหูแต่อย่างใด ซึ่งบอกเลยว่าหาได้ยากในหูฟังระดับไม่ถึงหมื่นอย่างแน่นอน

การออกแบบปุ่มในระหว่างที่ใช้ สามารถวางในตำแหน่งที่นิ้วสามารถกดได้พอดี แม้ว่าจะมองไม่เห็นเมื่อใส่หูฟังอยู่ อีกทั้งขนาดจำนวนปุ่มที่ต้องกดระหว่างใช้งานนั้นก็มีปุ่มเดียวนั่นก็คือปิด-เปิดระบบตัดเสียงรบกวน จึงทำให้ไม่ยุ่งยาก และการสั่งงานด้านสัมผัส ก็มีพื้นที่ให้เราวาดลวดลายการควบคุมได้อย่างสบายครับ ใครอยากหยุด ฟัง หรือเล่นเพลงไหนก็สั่งการได้เลยอย่างสะดวก แต่ส่วนตัวมองว่าระบบตัดเสียงการรบกวนนั้นทำได้ดี แต่การเปิด AMB ยังไม่ค่อยถูกใจผมเท่าไหร่

Sony

ความสะดวกอีกอย่างคือการเก็บและพกพา Sony WH-XB910N ไปไหนมาไหนด้วย เนื่องจากการพับได้ของหูฟัง ทำให้เมื่อใส่กระเป๋าซอฟต์เคสที่มีมาให้ด้วยนั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่เกะกะแต่อย่างใด นับว่ามีความสะดวกในการพกพาไปไหนมาไหนด้วยได้อย่างดีเลยครับ ส่วนตัวมองว่าเรื่องของการพกพาได้สะดวกก็เป็นเรื่องสำคัญ

banner Sample

Related Posts