บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด มั่นใจสูตรน้ำส้ม และน้ำซอสโชยุที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของแบรนด์ สูตรลับเฉพาะตัวที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจในรสชาติ และจุดเด่นของซูชิหน้าใหญ่ ไซส์แน่น มุ่งเน้นที่ราคาที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้ เริ่มต้นที่ 10 บาท มีกว่า 70 หน้าให้เลือก
นางสาวอมรา ไทยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2563 บริษัท ที เอช เค โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และในนาม บริษัท ไข่หวานบ้านซูชิ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เจรจาซื้อแบรนด์อาหารญี่ปุ่น “ไข่หวานบ้านซูชิ” จากผู้บริหารเดิม คือ นางสาวปุณิกา ธรรมขันธ์ และนำมาพัฒนาแบรนด์ คุณภาพอาหาร การขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปทั่วประเทศ เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกัน และมีแผนจะย้ายศูนย์ในการฝึกอบรมจากเดิมที่เมืองทองธานี มาที่ใหม่ ศูนย์ใหญ่ครบวงจร ไข่หวานบ้านซูชิเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่พร้อมเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2565 และมีเผยจะขยายแฟรนไชส์ให้ได้ 200 แห่งในปีนี้
“ตอนที่ซื้อ ผู้บริหารเดิมได้ให้สิทธิ์ขาดในแบรนด์สินค้า เครื่องหมายทางการค้า ตลอดจนสูตรลับ สูตรซอส สูตรน้ำจิ้ม ตลอดจนแหล่งวัตถุดิบ ความลับทั้งหมด ซึ่งขณะนั้นมีแฟรนไชส์อยู่ประมาณ 70 กว่าแห่ง ปัจจุบันมีแฟรนไชส์กว่า 150 สาขาทั่วประเทศ และขณะนี้มีคนติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เข้ามาอีก 30-40 ราย”
ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีสถานกรณ์ โควิดระบาด แต่บริษัทพยายามให้ความช่วยเหลือแฟรนไชส์ จนสามารถผ่านพ้นวิกฤติที่ผ่านมา ขณะนี้ไข่หวานบ้านซูชิ ได้ปรับแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น วางแผนการตลาด พร้อมเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดด มองถึงช่องว่างทางการตลาดและกลุ่มผู้บริโภคที่เติบโตขึ้นในอนาคต และเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนไป โดยในปีนี้ จะมีร้านต้นแบบขนาดใหญ่ มาตรฐานรองรับผู้บริโภคที่ชอบนั่งทานในร้าน และระบบ Drive Thru สำหรับผู้ที่ซื้อกลับบ้านแบบสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งขยายแฟรนไชส์ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ได้ในราคา 6 แสนบาท ระยะเวลาสิทธิ์ 3 ปี สามารถคืนทุนภายใน 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง
“ซูชิถือเป็นอาหารที่ทานง่าย สะดวก ปัจจุบันเรามีเมนูให้เลือกมากถึง 70 เมนู และจะมีการพัฒนาสินค้าเพิ่มเติมทั้งเมนูใหม่ และเมนู DIY เฉพาะบุคคล ที่ผ่านมายอดขายต่อบิลอย่างน้อย 190 – 200 บาท ซึ่งเรามั่นใจว่าแม้พฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป แต่ซูชิสูตรลับของเราจะยังสามารถครองใจผู้บริโภคได้ จะเห็นได้จากยอดขายเมื่อปีพ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาประมาณ 83 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2565นี้ประมาณการณ์ยอดขายน่าจะสูงเกิน 100 ล้านบาท”
สำหรับแผนในระยะยาว บริษัทยังจะขยายร้านค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย นางสาวอมรา กล่าว