เปิดแนวคิด กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วย การท่องเที่ยว สายมู

เปิดแนวคิด กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วย การท่องเที่ยว สายมู

การท่องเที่ยว

“แรงศรัทธา” จริง ๆ แล้วไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ต่อเมื่อ การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการพลิกฟื้นระบบเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุดของแต่ละประเทศ สามารถหลอมรวมเข้ากับแรงศรัทธา จนกลายเป็นกลยุทธ์ “การท่องเที่ยวสายมู” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งสามารถต่อยอดไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน นับเป็นอีกโมเดลของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่สามารถนำไปพัฒนาในหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศไทยได้อย่างไม่ยากนัก ด้วยเม็ดเงินลงทุนของการส่งเสริมที่ไม่มากอย่างที่คิด แต่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากมายหลายเท่าตัว

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้ง officemate  กูรูด้าน SME และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกลยุทธ์ “โมเดลการท่องเที่ยวสายมู” ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยว่า อย่ามองสายมูว่าเป็นเรื่องของความงมงาย แต่ให้มองว่าเป็นเรื่องที่อยู่คู่คนไทยมานานแล้ว คนไทยชอบบนบานสานกล่าว ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเกิดปัญหาก็จะไปบนบานสานกล่าว แล้วเมื่อสำเร็จก็จะกลับไปบนบานสานกล่าวอีกครั้ง เป็นแบบนี้วนเวียนกันไปไม่มีสิ้นสุด วันนี้เราจะต้องพัฒนาความเชื่อและศรัทธาให้กลายเป็น “โมเดลการท่องเที่ยวสายมู” เพื่อสร้างพื้นที่การท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น และต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวในส่วนอื่น ๆ ต่อไป แต่ใช้สายมูเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการ

โดยโมเดลการท่องเที่ยวสายมูที่ดี จะต้องประกอบด้วย 4 สูตรที่สำคัญ นั่นคือ 1.การเริ่มต้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามศรัทธาของแต่ละความเชื่อที่แตกต่างกัน2.ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้ท่องเที่ยวและพักผ่อนในสถานที่ใกล้เคียง เพื่อให้ใช้เวลานานขึ้นในพื้นที่ 3. ดึงดูดด้วยอาหารเลิศรสของแต่ละพื้นที่ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์อาหารถิ่นที่หาที่ไหนไม่ได้ และ 4. ได้ซื้อสินค้าท้องถิ่นหรือช้อปปิ้งตามที่ใจปรารถนา ซึ่งเมื่อทำลูปครบทั้ง 4 ส่วนได้ครบสมบูรณ์จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

พระพรหมเอราวัณกระตุ้นเศรษฐกิจหลายพันล้านบาทต่อปี

พระพรหมเอราวัณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ย่านราชประสงค์ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเชื่อสายจีน อย่างฮ่องกง ที่แทบจะต้องสลับหมุนเวียนเดินทางกันเข้ามาเพื่อสักการะบูชากันครบทั้งเกาะฮ่องกง และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนเฉพาะส่วนของแรงศรัทธาได้ปีละหลายพันล้านบาท และยังไม่นับรวมย่านโรงแรมที่พักที่เปิดรองรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ย่านราชประสงค์ที่มองเห็นโรงแรมมากมาย อีกทั้งยังมีศูนย์การค้ามากมายที่เปิดรอรับนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้ากันอย่างเนืองแน่น รวมทั้งย่านอาหารอร่อย ที่เกิดขึ้นโดยรอบ

โมเดลของ “พระพรหมเอราวัณ” เป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่าความเชื่อไม่มีวันหมด ทั้งนักท่องเที่ยวหน้าใหม่และหน้าเก่าต่างวลับหมุเวียน กลับมาท่องเที่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ขาดสาย กระตุ้นให้พื้นที่ราชประสงค์ กลายเป็นหมุดหมายสำคัญอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากจะมาเที่ยวที่ประเทศไทย และเป็นเช่นนี้มานานหลายสิบปี นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 หลังจากที่ได้มีการอัญเชิญองค์ท้าวมหาพรหม ซึ่งปั้นด้วย‪ปูนปลาสเตอร์ปิดทอง จากการออกแบบและปั้นโดยนาย‪จิตร พิมพ์โกวิท ช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร มาประดิษฐานที่หน้าโรงแรมเอราวัณ และจึงได้ถือเอาวันที่ 9 พฤศจิกายน ของทุกปีทำพิธีบวงสรวงเทวสถานแห่งนี้เป็นประจำตลอดมา

การท่องเที่ยว
วรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้ง officemate กูรูด้าน SME และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน)

เริ่มต้นจากวัดหลวงพ่อโสธร สู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ฉะเชิงเทราหลายพันล้าน

วัดหลวงพ่อโสธร ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้คนเข้าไปสักการะบูชาราว 6 ล้านคนต่อปี แต่ในอดีตก็จะเดินทางไปไหว้อย่างเดียวแล้วก็ตีรถกลับกรุงเทพฯเลย เป็นอย่างนี้มานานหลายปี จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงเป็นเพียงแค่ทางผ่านที่หลายๆ คนแทบไม่รู้จักส่วนอื่น ๆของตจังหวัดแต่อย่างใด สะท้อนให้เห็นการท่องเที่ยวสายมูที่ไม่ครบลูป โดยมีเพียงสูตรแรก แต่ไม่สามารถดึงดูไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ใกล้เคียง หรือสถานที่กินอาหารอร่อย และท้ายที่สุดไม่มีสถานที่ช้อปปิ้งที่น่าสนใจ

จวบจนมีการสร้างพระพิฆเนศองค์นอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและการท่องเที่ยวที่วัดสมาน จึงมีคนหมุนเวียนเข้าไปจับจ่ายใช้สอยช่วงวันหยุดหลายหมื่นคนต่อวัน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากพื้นที่วัดโสธรได้อีกปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จากการลงทุนเพียงไม่กี่ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็หลั่งไหลมากจากการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ไปไหว้หลวงพ่อโสธรนั่นเอง ส่งต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงตามสูตรที่ 2 และยังมีการสร้างตลาดชุมชน ซึ่งขายสินค้าและอาหารท้องถิ่น ตามสูตรที่ 3 และ 4 ของโมเดลการท่องเที่ยวสายมู ที่ตอบโจทย์เรื่องอาหารอร่อยและแหล่งช้อปปิ้งได้อย่างลงตัวและประสบความสำเร็จ

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการสร้างพระพิฆเนศองค์ยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนยิ่งเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งโมเดลเช่นนี้ยังสามารถทำให้เกิดขึ้นได้อีกมากมายในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

พุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวด อบต.บ้านใหม่ อยุธยา ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ

นับเป็นอีกตัวอย่างที่น่าสนใจของโมเดลการท่องเที่ยวสายมู ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อบต.บ้านใหม่ จังหวัดอยุธยา หลังจากมีการสร้างหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ และตลาดชุมชน ให้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ภายใต้ชื่อ “พุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวด” เพื่อดึงดูดผู้คนที่มีจิตศรัทธาให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ อบต.บ้านใหม่ ซึ่งแต่เดิมต้องยอมรับว่าพื้นที่ อบต.แห่งนี้เป็นพื้นที่ชายขอบของจังหวัดอยุธยาที่แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวสนใจแวะเที่ยว แม้ว่าจะเป็นพื้นที่พาดผ่านของถนนสายเอเชียที่เป็นเส้นทางหลักมุ่งสู่ภาคเหนือของประเทศไทยก็ตาม และนั่นก็ทำให้พื้นที่ อบต.แห่งนี้ มีรายได้น้อยลำดับต้น ๆ ของจังหวัดหรือก็คือ อบต.ที่ยากจนของจังหวัดอยุธยานั่นเอง

นอกจากการสร้างแลนด์มาร์คเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วตามสูตรของการท่องเที่ยวสายมูแล้ว อบต.แห่งนี้ ยังมีกลยุทธ์ส่งเสริมสินค้าชุมชนด้วยการสร้างโรงงานผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปแบบเช่าใช้ (Cloud Factory) เพื่อช่วยให้เกษตรกร สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าและความน่าสนใจที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี มีความน่าสนใจเทียบเท่าแบรนด์ดัง กลายเป็นโอทอปที่ได้มาตรฐานมากขึ้น ช่วยทำให้เกิดการท่องเที่ยวสายมู ที่ครบลูปมากขึ้น ทั้งอาหารอร่อยและแหล่งช้อปปิ้งท้องถิ่นที่น่าสนใจ

อบต.บ้านใหม่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ใช้เวลาพัฒนาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ด้วยเงินลงทุนเพียงแค่ราว 3-4 ล้านบาท แต่ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ จาก อบต.ที่จนที่สุดของจังหวัดอยุทธยา กลายเป็นพื้นที่ที่รวยที่สุดของจังหวัดไปแล้ว

นายวรวุฒิ อุ่นใจ กล่าวเสริมว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมูให้ประสบความสำเร็จ จะต้องมีความชัดเจนในกลยุทธ์ที่จะนำเสนอเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมาก อย่ามองสายมูว่าเป็นเรื่องของความงมงาย แต่มองว่าเป็นเรื่องที่อยู่คู่คนไทยมานานแล้ว คนไทยชอบบนบานสานกล่าว ไหว้เจ้า เมื่อเกิดปัญหาก็จะไปบนบานสานกล่าว วันนี้เราจะพัฒนาสายมูให้กลายเป็นการท่องเที่ยวสายมู เพื่อต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวในส่วนอื่น ๆ ต่อไป เพียงใช้สายมูเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ก่อน

นอกจากนี้ยังสามารถจัดวางเส้นทาง การท่องเที่ยว สายมู ในแต่ละจังหวัดออกมาผสานร่วมกัน โดย 4 สูตรที่สำคัญและจำเป็นต้องมีให้ครบองค์ประกอบ 1.ไหว้พระ 2.ท่องเที่ยว 3.กินของอร่อย และจบด้วย 4.ช้อปปิ้ง หากสามารถทำให้ภาพสายมูชัดขึ้นได้ เชื่อว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน 100%

Related Posts