แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป คาดการณ์ตลาดแรงงานในไทยจะเติบโตประมาณ 0.6% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยประเทศไทยมีแนวโน้มการจ้างงานหลังโควิดเพิ่มมากขึ้น แต่กระนั้นแรงงานในไทยยังขาดแคลน คนทำงาน สายไอที โลจิสติกส์ ฝ่ายขายและการตลาดที่เหมาะสมกับตำแหน่ง แม้ว่าแต่ละปีจะมีบัณฑิตสายไอทีจบใหม่กว่า 8,000 คน แต่ได้เข้ามาทำงานสายไอทีไม่ถึง 70% พร้อมชี้4 เทรนด์แนวโน้มการจ้างงานที่มีความชัดเจนมากขึ้น คนหางานยากขึ้น เทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้น คนทำงานต้องการสมดุลใช้ชีวิต และบริษัทต้องปรับตัว แนะแรงงานไทยต้องรีสกิล อัพสกิล ยกระดับฝีมือแรงงาน โดยเฉพาะด้านไอที และภาษา เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงาน
- – นายกสมาคมคนใหม่ HBA งัดแผนสู้วิกฤตขาดแคลนแรงงาน ลุย 2 วาระเร่งด่วน ยื้อต้นทุนบ้านราคาเดิมถึงกลางปี 66
- – ทรู ดิจิทัล พาร์ค จัดนัดพบแรงงาน องค์กรและคนรุ่นใหม่สายเทค
นายโจนาส ไพรส์ซิ่ง ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป กล่าวว่าแนวโน้มการจ้างงานในตลาดโลก ท่ามกลางสภาวการณ์เปลี่ยนแปลงด้านแรงงานครั้งยิ่งใหญ่ของโลกในช่วงโควิด-19 แต่ละประเทศได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอยู่จุดไหนของโลก ซึ่งทุกประเทศต่างมีความยากลำบากในการหางาน ซึ่งจากการสำรวจแนวโน้มการจ้างงานของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ฉบับล่าสุดจากนายจ้างเกือบ 39,000 ราย มี 12 ประเทศจาก 41 ประเทศ
พบว่านายจ้างทั่วโลกยังคงคาดว่าจะจ้างคนทำงานเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยรายงานแนวโน้มการจ้างงานสุทธิทั่วโลกในแต่ละปีพบว่า แนวโน้มในการจ้างงานลดลงในทุกปี และทุกไตรมาส 14% และ 6% ตามลำดับ ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกามีอัตราการว่างงานสูงสุดรอบ 55 ปี ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการว่างงานมากขึ้นได้แก่ จำนวนประชากร อัตราการเกิด เทคโนโลยี และบริษัทจำเป็นต้องปรับตัวในด้านซัพพลายเชน
ในขณะที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านจำนวนแรงงานที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ จีน และยุโรป ที่มองว่ากลุ่มบุคลากรที่มีความสามารถของพวกเขาลดน้อยลง อย่างไรก็ตามความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับประเทศไทยคือ การยกระดับทักษะและเพิ่มทักษะของแรงงาน โดยเฉพาะในด้านไอทีและความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งองค์กรต่าง ๆ และผู้ประกอบการต้องมีการรีสกิล และอัพสกิล ภายในองค์กรด้วยเช่นกัน
และ 4 เทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดแรงงาน ได้แก่ 1) คน การหาคนทำงานเป็นไปได้ยากขึ้น และทักษะที่เกี่ยวกับการพัฒนาคนทั้งหมด 2) เทคโนโลยี ก่อนเกิดโควิด-19 มีการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเพียง 5% แต่พอเกิดโควิด-19 ส่งผลให้การทำงานที่บ้านและมีการใช้เทคโนโลยีมากถึง 40% 3) การตัดสินใจในการทำงาน รูปแบบการทำงานของคนเปลี่ยนไป สนใจการทำงานที่ได้ใช้ชีวิตร่วมด้วย และ 4) บริษัท เริ่มมีมองมุมใหม่ มองทั้งซัพพลายเชน และผลกระทบที่เกิดกับบริษัท” นายโจนาส กล่าว

ด้านนายไซม่อน แมททิวส์ ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “คาดว่าในอีก 5ปีข้างหน้าสถานการณ์แรงงานทั่วโลกจะได้รับอิทธิพลจากการผสมผสานของเศรษฐกิจ สังคม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางประชากร และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน รวมถึงประเทศไทย แนวโน้มเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดงานในรูปแบบต่างๆ
โดยในประเทศไทยแรงงานจะเติบโตประมาณ 0.6% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะมีแรงงานทั้งหมดถึง 40 ล้านคนภายในปี 2569 เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการริเริ่มต่างๆ เพื่อเพิ่มผลิตภาพและยกระดับฝีมือแรงงาน รวมถึงนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจที่มีเทคโนโลยีสูงและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
หนึ่งในแนวโน้มที่สำคัญที่สุดคือ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อหลายอุตสาหกรรม สิ่งนี้อาจทำให้เกิดการโยกย้ายงานในบางภาคส่วนโดยเฉพาะงานที่มีทักษะต่ำและซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการมอบโอกาสใหม่ ๆ ให้กับพนักงานที่มีทักษะทางเทคนิคขั้นสูงอีกด้วย และแนวโน้มอีกประการหนึ่งคือจำนวนประชากรสูงอายุในหลายประเทศในภูมิภาค
ซึ่งจะนำไปสู่การลดจำนวนแรงงานและความต้องการบริการด้านสุขภาพที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ทักษะเฉพาะด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ และปัญญาประดิษฐ์จะเป็นที่ต้องการอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้ม และจะต้องมีการติดตามผลกระทบต่อพนักงานอย่างใกล้ชิด
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แมนพาวเวอร์ ได้ทำหน้าที่สนับสนุนทักษะและอัพสกิลให้แก่คนทำงาน อีกทั้งได้บรรจุหางานให้แก่คนไทยจำนวนหลายพันคน อย่างไรก็ตาม ทักษะที่จำเป็นที่ทุกคนต้องมี คือ Learning Skill ทักษะความสามารถที่จะเรียนรู้ในทุกเรื่อง และมั่นใจว่าไทยจะไม่เจอปัญหาการจ้างงาน แต่อาจจะมีกระทบในส่วนของสินค้าส่งออกบ้าง เนื่องจากยุโรป อเมริกา เศรษฐกิจซบเซา ดังนั้น แรงงานไทย ธุรกิจไทยต้องปรับตัวดึงฐานการผลิต และเพิ่มการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น

นางสาวลิลลี่ งามตระกูลพานิช ผู้จัดการประจำประเทศไทย แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา แมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทย ได้มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้จริยธรรมที่สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป โดยเฉพาะในเรื่องของ “ความเท่าเทียม และความหลากหลายทางเพศ” จะเห็นได้ชัดจากการที่เราผลักดันในเรื่องนี้ในแมนพาวเวอร์กรุ๊ปประเทศไทย ที่ผู้หญิงก็มีสิทธิที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร
รวมถึงเรามีการผลักดันความเสมอภาคในการทำงานของ LGBTQ+ ให้หลายๆ บริษัทลูกค้าของเรามีการเปิดใจรับพนักงาน LGBTQ+ มากขึ้น นอกจากนั้น เราก็ได้มุ่งมั่นในการหางานให้กับทุกคน ในทุกตำแหน่ง และทุกระดับ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของเราดูแลผู้สมัครงานทุกคนอย่างดี และเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะสมัครงานในตำแหน่งพนักงานรับจ้างรายวัน หรือผู้บริหารระดับสูง
ในการทำงานร่วมกับลูกค้าหลายร้อยราย เราเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มลูกค้า หรือพันธมิตรของเราได้ร่วมกันทำความวิสัยทัศน์ของเรา ในการสร้างสังคมที่เท่าเทียม และโลกที่ทุกคนเคารพในความหลากหลาย สิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมของทุกคน
ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เราได้ทุ่มเทในการทำงานที่พวกเรารัก นั่นก็คือการสร้างโอกาสในการเข้าถึงงานที่ดีให้กับคนไทย ซึ่งในทุกๆ ปี มีพนักงานกว่า 1,600 คนที่ได้งานประจำผ่านบริษัทจัดหางานแมนพาวเวอร์ รวมถึงยังมีพนักงาน Associate อีกมากกว่า 15,000 ชีวิตที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา ซึ่งสิ่งที่เราภูมิใจก็คือการได้เห็นคนเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความก้าวหน้าในอาชีพการงาน รวมถึงได้เห็นบริษัทลูกค้าของเราขยายใหญ่เติบโตขึ้นด้วยทรัพยากรบุคคลที่เราจัดสรรให้
และในโอกาสที่แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยครบรอบ 25 ปีนี้ ทางองค์กรเองได้มีโครงการใหม่ชื่อว่า “Manpower Talent Academy” ซึ่งเกิดมาจากการที่เราเล็งเห็นว่าปัจจุบันตลาดแรงงานกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจาก Millennials มาสู่ Gen Z ซึ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีอายุอยู่ในช่วงประมาณ 13-26 ปี หมายความว่า Gen Z เกือบครึ่งหนึ่ง (40%) จะอยู่ในตลาดแรงงานในปีนี้ และจะคิดเป็น 1 ใน 4 ของ ตลาดงานไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นเวลาที่คนรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่โลกของธุรกิจอย่างแท้จริง
Manpower Talent Academy จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ และเตรียมความพร้อมเด็กรุ่นใหม่เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเปิดโอกาสให้ทุกคนที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ใน HR Industry ได้เรียนรู้การจัดหาคน และการสัมภาษณ์ ถ่ายทอดวิชาโดยผู้เชี่ยวชาญจากทุก Business Unit ของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย รวมถึงเรายังมุ่งเน้นเปิดตลาดอาชีพ “Recruiter” ให้เป็นที่รู้จัก และกว้างขวางในตลาดแรงงานมากขึ้น