เรเว่ ออโตโมทีฟ นำสื่อร่วมทดสอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ “บีวายดี ดอลฟิน” เวอร์ชั่นที่พร้อมจะขายในประเทศไทย ด้วยระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร (ไปกลับ กรุงเทพฯ-พัทยา) เตรียมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 6 กรกฎาคมนี้ มั่นใจการเปิดตัวรถรุ่นที่ 2 จะสร้างกระแสการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากว่ารุ่นก่อนหน้า ที่กวาดยอดจะทะเบียนไปแล้วกว่า 24,000 คันภายในระยะเวลา 5 เดือน นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
- – จับตา บีโอไอ รุกปั้นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ชูค่ายเบนซ์ผลิตอีวีเต็มรูปแบบ
- – BYD ชูความสำเร็จ เจาะตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ในไทย ต้นแบบขยายต่างประเทศ
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรมทดสอบรถยนต์สื่อในครั้งนี้เป็นทริปแรกที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ จัดขึ้นภายใต้สภาวะการขับขี่จริง เพื่อพิสูจน์ให้ผู้ร่วมกิจกรรมเห็นว่าบีวายดี ดอลฟิน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถพาไปได้ทุกจุดหมาย ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อการใช้งานในเมือง นอกจากนั้น การเดินทางในครั้งนี้ยังเป็นทริปรักษ์โลก เพราะรถยนต์ทดสอบทุกคันเป็นรถยนต์ไร้มลพิษ”
การเดินทางทดสอบรถในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นที่ โชว์รูม บีวายดี ออโตเฟีย สาขาเทพารักษ์ – ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดลงทะเบียนพร้อมกับอบรมบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ จากนั้น สื่อมวลชนได้พบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาด้วยเส้นสายแห่งอนาคต โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัยอย่างบีวายดี ดอลฟิน ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อคได้อย่างง่ายดายผ่านระบบเอ็นเอฟซี คีย์เลส (NFC) และได้พบกับห้องโดยสารที่ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจ ของโลมาและศิลปะแห่งท้องทะเลแบบ ดอลฟิน ดีไซน์ ในทั้งสองรุ่นย่อย ประกอบด้วย เอ็กซ์เทนเดน (Extended Range)และ สแตนดาร์ท (Standard Range) บ่งบอกความเป็นตัวคุณ ด้วยหลากหลายทางเลือกสีตัวถัง โดยแต่ละรุ่นย่อยจะมี 4 สีให้เลือก สำหรับสีทูโทนจะจำกัดไว้เฉพาะรุ่นเอ็กซ์เท็นด์เท่านั้น ส่วนสีภายในจะเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ ตามสีตัวถังที่เลือก
บีวายดี ดอลฟิน ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง นอกจากนั้น ผู้ร่วมเดินทางยังสามารถเลือกชมความสวยงามของท้องฟ้า ผ่านหลังคาแก้วแบบพาโนรามิกพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า และท่านสื่อมวลชนยังไม่ต้องกังวลว่าอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ส่วนตัวจะแบตเตอรี่หมดกลางทาง เพราะ บีวายดี ดอลฟิน ไม่ได้มีแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 15w เพียงตำแหน่งเดียว แต่ยังมาพร้อมกับช่องยูเอสบีพอร์ตอีก 4 ตำแหน่ง ด้านหน้า 2 จุด Type A: 7.5w / Type C: 80w และ ด้านหลัง 2 จุด Type A: 18w / Type C: 80w
โดยรุ่นเอ็กซ์เทนเดน มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ส่งผลให้บีวายดี ดอลฟิน สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.1 วินาที แหล่งพลังงานจากเทคโนโลยีเบลดแบตเตอรี่ ขนาด 60.48 กิโลวัตต์-ชั่วโมง* พร้อม อี-แพลตฟอร์ม 3.0 ทำให้ขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 490 กิโลเมตร (รุ่นเอ็กซ์เทนเดน)
ขณะที่รุ่นสแตนดาร์ด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตรแหล่งพลังงานจากเทคโนโลยีเบลดแบตเตอรี่ ขนาด 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง พร้อมช่องยูเอสบีพอร์ตอีก 4 ตำแหน่ง ด้านหน้า 2 จุด Type A: 7.5w / Type C: 60w และ ด้านหลัง 2 จุด Type A: 18w / Type C: 60w
โดยทั้ง 2 รุ่น สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจบนความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการทั้ง ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถแบบฉุกเฉิน (ELKA), ระบบเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCW) และ ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถ ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
บีวายดี ดอลฟินพร้อมให้คุณสัมผัสและทดลองขับแล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายบีวายดีทั่วประเทศ พร้อมให้บริการท่านมากกว่า 45 สาขา คุณสามารถเป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์ขุมพลังไฟฟ้าคันนี้ได้ และพบกับการเปิดตัวพร้อมเปิดราคาอย่างเป็นทางการของทั้ง 2 รุ่น ได้ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2566