realme (เรียลมี) เปิดตัว “realme 11 5G และ realme 11x 5G” สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล Number Series ภายใต้ธีม “Double Star Double Leap” โดยใน “realme 11 5G ” พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Double Standard of the Industry” ที่มอบสเปกดีที่ดีกว่า 2 เท่าในสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นในเรทราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องระดับแฟล็กชิปความละเอียด 108 ล้านพิกเซลพร้อมการซูม 3 เท่าโดยไม่สูญเสียความละเอียด รวมถึงระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC และงานออกแบบตัวเครื่องสุดพรีเมียมในสไตล์ Glory Halo และ “realme 11x 5G” ที่คุ้มค่าไม่แพ้กันกับกล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลพร้อมการชาร์จไว 33 วัตถ์ ซึ่งเป็นสเปคที่สูงที่สุดในระดับราคาเดียวกัน
โดยเรียลมีได้พัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ ตามปรัชญา “No leap, no launch!” และล่าสุด realme ได้รับการเสนอชื่อ เป็นหนึ่งใน 67 สตาร์ทอัพจาก Fortune China Impact นิตยสารธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ในปี 2023 ที่มุ่งเน้นไปยังบริษัทต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นที่จะทำผลงานได้ดีและได้รับเสียงชื่นชมอยู่เสมอ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่มาพร้อมกับแนวคิด Dare to Leap อย่างแท้จริง
นอกจากจะมอบประสบการณ์อันก้าวกระโดดจากสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นแล้ว realme ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ก้าวกระโดดให้กับคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ จึงเปิดตัวสองพรีเซนเตอร์ “ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์” และ “ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” ผู้เป็นไอคอนของคนรุ่นใหม่ โดยสำหรับหนุ่มปอนด์ ถือเป็นผู้ชนะเลิศจากการประกวดค้นหานักแสดงหน้าใหม่ และหนุ่มภูวินทร์ ยังได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ดีเด่นและด้วยความเพอร์เฟกต์และสมบูรณ์แบบอีกทั้งยังประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วจึงเข้ากับความเป็น Double Star แบบเพอร์เฟกต์
realme 11 5G – ดีเป็นสองเท่าในเรทราคาเดียวกัน
กล้อง 108MP พร้อมซูม 3 เท่าแบบ in-sensor โดยไม่สูญเสียรายละเอียด
realme 11 5G ใช้เซ็นเซอร์กล้อง Samsung ISOCELL HM6 รองรับโหมดซูม 3 เท่าแบบไม่สูญเสียรายละเอียด ให้คุณถ่ายภาพเข้าใกล้วัตถุได้มากขึ้น ได้รายละเอียดมากขึ้น พร้อมความคมชัดขั้นสุดด้วยความละเอียดภาพสูง 108 ล้านพิกเซลซึ่งใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ (สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในเรทราคาเดียวกันจะถ่ายภาพความละเอียดได้เพียง 50MP เท่านั้น) พร้อมด้วยเซนเซอร์ขนาด 1/1.67 ซึ่งใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์เช่นเดียวกัน พร้อมชูจุดเด่นการถ่ายภาพกลางคืนที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี 9-in-1 Binning โดยรวม 9 พิกเซลเป็น 1 ซูเปอร์พิกเซล จึงทำให้ได้คุณภาพของภาพถ่ายกลางคืนที่สว่างสดใสและควมคุม noise ได้ดีขึ้น
ชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี 67W SUPERVOOC ดีเป็นสองเท่าในเรทราคาเดียวกัน
realme 11 5G ให้แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh และยังมาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จ 67W SUPERVOOC (สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในเรทราคาเดียวกันจะชาร์จได้เพียง 33W เท่านั้น) ผู้ใช้ยังมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยด้วยระบบป้องกัน 38 ระดับ ครอบคลุมทั้งในอุปกรณ์หัวชาร์จ สายดาต้า วงจรการชาร์จ ไปจนถึงแบตเตอรี่ เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการชาร์จไฟที่สมบูรณ์แบบ
ในด้านของชิปเซ็ตของ realme 11 5G realme ยังคงเป็นผู้นำในด้าน 5G โดยถือเป็นแบรนด์แรกที่มาพร้อมกับขุมพลังชิปเซ็ต Dimensity 6100+ 5G บนสถาปัตยกรรมระดับ 6nm ที่รันแอปพลิเคชันได้อย่างลื่นไหลและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม มาพร้อมจอแสดงผลระดับเรือธง 120Hz Dynamic Ultra Smooth Display ขนาด 6.72 นิ้ว เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ราบรื่นเทียบเท่ารุ่นแฟล็กชิป อีกทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยี Dynamic RAM ให้ใช้งาน RAM สูงสุดถึง 16GB รับประกันความลื่นไหล ไม่ว่าจะเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกันหรือในการสลับระหว่างแอปที่เปิดอยู่
Glory Halo Design และกระบวนการผลิตระดับพรีเมี่ยม เพิ่มต้นทุนแบบดับเบิ้ลถึง 2 เท่า
ยกระดับความหรูหราให้กับสมาร์ตโฟนในมือคุณด้วยงานออกแบบระดับมาสเตอร์ในรูปแบบ Glory Halo Design ที่ใช้ในการออกแบบนาฬิกาหรูระดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยดีไซน์โมดูลกล้องแบบกรอบหน้าปัดนาฬิกา Bazel Ring ที่หรูหราด้วยรอยหยักสุดประณีตมากกว่า 538 ช่อง รวมถึงเทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ PVD (Physical Vapour Deposition) ซึ่งต้องผลิตภายใต้สภาวะสุญญากาศขั้นสูงและถูกใช้เฉพาะในการผลิตแบรนด์นาฬิการะดับไฮเอนด์เท่านั้น เพื่อมอบผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เพิ่มความโดดเด่นด้วยการทำสีฝาหลังให้มีเอ็ฟเฟกต์แสงรูปตัว S สร้างประกายที่งดงามระดับพรีเมียมและให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเมื่ออยู่ในมือ
realme 11X 5G – อัดสเปคแน่นสมชื่อ
มอบประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยกล้อง 64 ล้านพิกเซล
ให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพด้วยกล้อง AI 64MP แบบ 2 เลนส์พร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว นับว่าดีที่สุดในเซกเมนต์พร้อมประสิทธิภาพซูม 2 เท่าแบบ in-sensor โดยไม่สูญเสียรายละเอียด มอบภาพถ่ายที่คมชัด เก็บรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมโหมด Super Nightscape ที่ผ่านการปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อการถ่ายภาพกลางคืนโดยเฉพาะ ทำงานด้วยอัลกอริธึมภาพขั้นสูงเพื่อเพิ่มการรับแสง ความชัดเจน และรายละเอียดในสภาพแสงน้อยให้สว่างชัดสูงสุด และเพิ่มความสนุกด้วยฟิลเตอร์ใหม่ 3 แบบ ทั้ง Tranquil: ฟิลเตอร์ขาวดำให้บรรยากาศเคร่งขรึมด้วยรายละเอียดที่สมบูรณ์และคอนทราสต์สวยงาม Crisp: มอบบรรยากาศแปลกตาโดยการเพิ่มโทนสีน้ำเงินเย็นในบริเวณไฮไลท์ของภาพ และ Cinematic: เน้นความคมเข้มโดดเด่นของวัตถุและบุคคลโดยเพิ่มคอนทราสต์และการตัดกันที่ชัดเจนระหว่างแสงและเงา
ชาร์จเร็ว 33W หนึ่งในฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในเซกเมนต์
ติดตั้งระบบชาร์จเร็ว 33W ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในเซกเมนต์ พร้อมกลไกความปลอดภัยในการชาร์จ 38 ระดับเช่นเดียวกับรุ่น 11 5G รวมถึงยังให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่เท่ากันที่ 5000mAh เพื่อรองรับการใช้งานตลอดวัน
realme 11x 5G ยังใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6100+ 5G เหมือน realme 11 5G เพื่อให้ประสิทธิภาพที่เร็วแรงรวมถึงการใช้พลังงานและความเร็ว 5G เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับเทคโนโลยี 5G อันเหนือขั้นในราคาที่จับต้องได้
มอบรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและพรีเมียมเช่นเดียวกับ realme 11 5G
realme 11X 5G ยังคงความสวยงามพรีเมียมเช่นเดียวกับ realme 11 5G ด้วย Glory Halo Design เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับต้นทุนที่ดีแบบคูณสอง เรียกได้ว่า realme 11x 5G นั้นมีความโดดเด่นและคุ้มค่าไม่แพ้กับ realme 11 5G สมกับความเป็น Double Star อย่างแท้จริง
realme Buds T300 – ดื่มด่ำกับเสียงที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยี ANC พร้อม Dynamic Bass Driver ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ภายในงาน realme ยังได้เปิดตัว realme Buds T300 หูฟังไร้สายที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Dynamic Bass Driver ขนาด 12.4mm ซึ่งไดรเวอร์ขนาดใหญ่นี้จะช่วยให้ได้รับเสียงเบสที่เต็มอิ่ม สนามเสียงที่ไพเราะและเสียงร้องที่ชัดเจน พร้อมรองรับการตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟสูงสุด 30dB ด้วยเทคโนโลยี ANC Noise Cancellation ที่จะช่วยให้ได้รับอรรถรสที่เต็มอิ่มในโลกของคุณได้ตลอดเวลาแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง และยังมอบดีไซน์ที่เพรียวบางและมีสไตล์ พร้อมการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้พอดีกับรูปทรงหูที่แตกต่างกัน ไม่เพียงเท่านั้นยังมอบประสิทธิภาพด้วยการกันน้ำระดับ IP55 ให้คุณใช้งานได้อย่างไร้ความกังวล
ราคาและการวางจำหน่าย
realme 11 5G มาพร้อมความจุ 8/256GB นำเสนอ 2 โทนสีทั้ง Glory Gold และ Glory Black ในราคา 8,999 บาท และสำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ชสามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง Lazada โดยพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 24 กันยายนและวางจำหน่ายวันที่ 25 กันยายน – 28 กันยายน พร้อมรับของแถมจำนวนจำกัด สำหรับช่องทางเครือข่าย True, dtac และ AIS มาในราคาเริ่มต้นเพียง 5,200 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน -28 กันยายน สำหรับช่องทาง BaNANA, BKK, KingKong, IT City, CSC, TG phone, Jaymart, Maxlink, Stamp รวมถึง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 28 กันยายน
ไม่เพียงเท่านั้น! หากพรีออเดอร์ในช่วงเวลาที่กำหนดในทุกช่องทางยังได้รับสิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ได้ในราคาเพียง 999 บาท (สำหรับช่องทางเครือข่าย สงวนสิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ในราคา 999 บาทเฉพาะที่ช็อป True เท่านั้น) และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป
ช่องทางการสั่งซื้อ realme 11 5G :
realme 11x 5G มาพร้อมความจุ 8/128GB นำเสนอ 2 โทนสีทั้ง Purple Dawn และ Midnight Black ในราคา 6,999 บาท และสำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ชสามารถเป็นเจ้าของได้เฉพาะช่องทาง Shopee โดยพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 24 กันยายนและวางจำหน่ายวันที่ 25 กันยายน – 28 กันยายน พร้อมรับของแถมจำนวนจำกัด
สำหรับช่องทางเครือข่าย True, dtac และ AIS มาในราคาเริ่มต้นเพียง 3,399 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน -28 กันยายน
สำหรับช่องทาง BaNANA, BKK, KingKong, IT City, CSC, TG phone, Jaymart, Maxlink, Stamp รวมทั้ง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศสามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน -28 กันยายนและสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป
ช่องทางการสั่งซื้อ realme 11x 5G :
realme Buds T300 นำเสนอ 2 โทนสีคือ Stylish Black และ Youth White ในราคา 1,199 บาท โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไปผ่านช่องทางเครือข่าย True , ช่องทางอีคอมเมิร์ชทั้งช่องทาง Lazada และ Shopee , ตัวแทนจำหน่าย BaNANA, BKK, KingKong, IT City, CSC, TG phone, Jaymart, Maxlink, Stamp รวมทั้ง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ