ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายบริษัท ได้ฝ่าฟันวิกฤตการณ์ต่างๆ ในปี 2565 และสะท้อนความสามารถของกิจการออกมาได้อย่างแข็งแกร่ง โดยหลายบริษัทมีรายได้และมูลค่าหุ้นพุ่งสูงขึ้นในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่มีบริษัทใดเทียบเคียงได้กับ Apple ผู้นำสูงสุดในกลุ่ม GAFAM
- – ทรู คอร์ปอเรชั่น เผยปี 2566 กำไร EBITDA ดีต่อเนื่อง 4 ไตรมาส รายได้รวมโต และ Synergy เกินเป้า
- – III โชว์กำไรนิวไฮต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ตั้งเป้าปี 67 โตต่อด้วย “Logistics and Beyond”
จากข้อมูลที่นำเสนอโดย AltIndex.com พบว่าในปี 2566 บริษัท Apple สามารถทำกำไรได้สูงถึง 3,074 ดอลลาร์ต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ อย่างมาก
Apple มีรายได้เทียบเท่าครัวเรือนเฉลี่ยในสหรัฐภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที
หลังยอดขายและผลกำไรร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้ง 5 ราย ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Meta และ Amazon ได้กลับมาทำกำไรได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการลดต้นทุนครั้งใหญ่ที่ทำให้มีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน แม้พวกเขาจะไม่สามารถจำลองการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างที่เห็นในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ได้ แต่กำไรสุทธิของบริษัทเทคโนโลยีทั้งห้าก็ยังคงอยู่ที่หลายแสนล้านดอลลาร์
จากข้อมูลของ Statista และข้อมูลอย่างเป็นทางการของแต่ละบริษัทนั้น Apple, Microsoft, Alphabet, Meta และ Amazon มีรายได้รวมกัน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีกำไรสุทธิ 290 พันล้านดอลลาร์ โดยมากกว่าหนึ่งในสามของมูลค่านี้มาจาก Apple ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม GAFAM
กำไรสุทธิของ Apple ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 96.9 พันล้านดอลลาร์ หรือลดลง 2.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวยิ่งน่าประทับใจเมื่อแบ่งย่อยเป็นช่วงเวลาที่สั้นลง โดยอิงจากผลกำไรของ Apple ในปี 2566 บริษัทแห่งนี้ทำกำไรได้ 3,074 ดอลลาร์ต่อวินาทีในปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่า Microsoft หรือ Alphabet เกือบ 1,000 ดอลลาร์ และยังหมายความว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีในการทำเงินได้เทียบเท่ารายได้ต่อปีของครัวเรือนชาวอเมริกันโดยเฉลี่ย ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 75,000 ดอลลาร์ต่อปี
ถัดจาก Apple คือ Microsoft และ Alphabet ซึ่งทำกำไรได้ 2,443 และ 2,115 ดอลลาร์ต่อวินาทีตามลำดับ ขณะที่ Meta และ Amazon อยู่ห่างไกลตามหลังด้วยกำไร 942 และ 636 ดอลลาร์ต่อวินาทีตามลำดับ
มูลค่าหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้น 390 พันล้านดอลลาร์ในหนึ่งปี
นอกจากจะมีกำไรสุทธิสูงสุดในบรรดาบริษัททั้งหมดในกลุ่ม GAFAM แล้ว Apple ยังเพิ่มมูลค่าหุ้นได้ถึง 390 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มูลค่าตลาดของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอยู่ที่ 2.41 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่นั้น ตัวเลขนี้ก็เพิ่มขึ้น 16% และแตะ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว Microsoft เพิ่มมูลค่าหุ้นได้ถึงหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ Meta และ Amazon ตามมาด้วยการเพิ่มมูลค่าหุ้นประมาณ 750 พันล้านดอลลาร์
จากข้อมูลของแพลตฟอร์ม AltIndex พบว่าหุ้น Apple มีคะแนน AI 60 จาก 100 และมีคำแนะนำให้ “ถือครอง” นอกจากนี้ จากข้อมูลในฟอรั่มการลงทุนชั้นนำ บริษัทมีคะแนนความเชื่อมั่นอยู่ที่ 78 จาก 100 ในสัปดาห์ที่แล้ว อันหมายความว่าความรู้สึกโดยเฉลี่ยในการพูดคุยเป็นเชิงบวกเล็กน้อย
