DHL Express พลิกโฉมโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนด้วย AI

DHL Express

DHL Express ผู้นำด้านบริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศระดับโลก ได้ยกระดับแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI “My Global Trade Services” (MyGTS) ด้วยฟีเจอร์ใหม่ “trade lane comparison”

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดและกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศต้นทางและปลายทางได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ธุรกิจที่วางแผนขยายตลาดสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและได้เปรียบในการแข่งขัน

MyGTS: ประตูสู่ตลาดโลกสำหรับธุรกิจ

MyGTS เป็นพอร์ทัลออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรเพื่อวางแผนการจัดส่งสินค้าล่วงหน้าได้อย่างง่ายดายเมื่อเข้าสู่ตลาดใหม่หรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ฟีเจอร์ใหม่นี้ใช้ปัญญาประดิษฐ์และ machine learning เพื่อให้ภาพรวมของข้อตกลงทางการค้าและประมาณการภาษี/ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่รวมอยู่ในต้นทุน landed cost ของเส้นทางการค้าต่างๆ

landed cost คืออะไร?

Landed cost คือต้นทุนรวมทั้งหมดของการนำสินค้าจากโรงงานไปยังมือลูกค้า นอกเหนือจากค่าขนส่งและประกันภัย ยังรวมถึงค่าธรรมเนียมศุลกากรและภาษีสำหรับการขนส่งข้ามพรมแดน

ใช้งานง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส

บนแพลตฟอร์ม MyGTS ผู้ใช้เพียงแค่ระบุผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจัดส่งและประเทศต้นทางและปลายทางที่ต้องการ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มักประสบปัญหาขาดแคลนทรัพยากร ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการนำทางผ่านกฎระเบียบและขั้นตอนทางศุลกากรที่ซับซ้อน

DHL Express มุ่งมั่นช่วย SME ไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก

คุณ Yung C. Ooi รองประธานอาวุโสฝ่ายพาณิชย์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ DHL Express กล่าวว่า “บริษัทต่างๆ รวมถึง SMEs กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางธุรกิจและการขยายตัวทั่วโลก อย่างไรก็ตาม SMEs มักประสบปัญหาจากความซับซ้อนของกฎระเบียบและกระบวนการทางการค้า ซึ่งทำให้แผนการขยายธุรกิจของพวกเขาช้าลง”

“ความสามารถในการเปรียบเทียบ trade lane ใหม่นี้ช่วยให้ SMEs เข้าใจข้อกำหนดทางศุลกากรและ landed cost ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยให้ SMEs ลดอุปสรรคทางการค้าที่สำคัญและมีความมั่นใจในการทำธุรกิจข้ามพรมแดนมากขึ้น”

ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ

ด้วยข้อมูลนี้ ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และระบุเส้นทางที่มีเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออกที่ดีที่สุด นำไปสู่การประหยัดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร เมื่อจัดหาวัสดุจากโรงงานหรือผู้ขายต่างกัน ผู้นำเข้าสามารถระบุได้ว่าจำเป็นต้องมีใบอนุญาตนำเข้าหรือใบอนุญาตสำหรับการนำเข้าหรือไม่ ในทางกลับกัน ผู้ส่งออกจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อกำหนดทางศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจัดส่งไปยังประเทศหรือดินแดนปลายทาง ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่านี้ช่วยให้ธุรกิจกำหนดกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดและวางตำแหน่งตนเองในตลาดใหม่อย่างมีกลยุทธ์

ลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาสในการเติบโต

ด้วยการมุ่งเน้นที่การลดความเสี่ยงและความยืดหยุ่น บริษัทต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้เพื่อลดการพึ่งพาแหล่งผลิตเพียงแห่งเดียว นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถเข้าถึงตลาดเอเชียที่กำลังเติบโต ซึ่งนำเสนอโอกาสทางการตลาดมากมายที่ขับเคลื่อนโดยศูนย์กลางการผลิตและตลาดผู้บริโภคที่เกิดขึ้นใหม่ รายงาน DHL Global Connectedness Report ฉบับล่าสุดแสดงให้เห็นว่าโลกาภิวัตน์ขององค์กรกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างๆ ลงทุนในตลาดต่างประเทศและขยายการดำเนินงานระหว่างประเทศ

MyGTS: ส่วนหนึ่งของบริการ Global Trade Services ของ DHL

MyGTS เป็นส่วนหนึ่งของ Global Trade Services ของ DHL ซึ่งประกอบด้วยชุดความสามารถที่ช่วยให้ผู้จัดส่งนำทางผ่านกฎระเบียบและข้อกำหนดทางศุลกากรที่ซับซ้อนมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย นอกเหนือจากฟีเจอร์การเปรียบเทียบ trade lane ใหม่แล้ว MyGTS ยังมีเครื่องมือวางแผนการจัดส่งล่วงหน้าที่ช่วยให้ธุรกิจทราบข้อกำหนดด้านกฎระเบียบการนำเข้า/ส่งออกและคำนวณ landed cost ได้

#DHLExpress #AI #MyGTS #SME #ส่งออก #นำเข้า #โลจิสติกส์ #TheReporterAsia

banner Sample

Related Posts