กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – งานประชุม Global Sustainable Development Congress 2024 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ได้สร้างความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจให้กับ สถาบันอุดมศึกษาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่ามหาวิทยาลัยไทยหลายแห่งจะติดอันดับต้น ๆ ในการจัดอันดับ THE Impact Rankings ซึ่งประเมินผลงานของมหาวิทยาลัยทั่วโลกในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ
- – สกมช. ผนึก ฟอร์ติเน็ต ชวนเรียนฟรีด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ 10,000 คน
- – สกสว. ชวนเมธีวิจัยอาวุโส เร่งระดมสมองออกแบบแผนผลิต นักวิจัยรุ่นใหม่
Phil Baty, Chief Global Affairs Officer ของ Times Higher Education (THE) ผู้จัดทำการจัดอันดับนี้ ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของมหาวิทยาลัยไทยในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบูรณาการ SDGs เข้ากับการเรียนการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการ
Baty เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการบรรลุเป้าหมาย SDGs เขากล่าวว่า “งานประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ทุกภาคส่วนจะได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน”
นอกจากนี้ Baty ยังได้กล่าวถึงความโดดเด่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงานประชุมครั้งนี้ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความเคลื่อนไหวด้านความยั่งยืนในภูมิภาคนี้”
4 ปัจจัยหลักในการประเมินผลงานมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน
Baty ได้อธิบายถึง 4 ปัจจัยหลักที่ THE Impact Rankings ใช้ในการประเมินผลงานของมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน ได้แก่:
- การวิจัย: การสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ SDGs โดยเน้นที่การวิจัยที่มีผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
- การเรียนการสอน: การปลูกฝังความรู้และทักษะด้านความยั่งยืนให้กับนักศึกษา ผ่านการปรับปรุงหลักสูตร การจัดกิจกรรมนอกหลักสูตร และการสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติจริง
- การบริหารจัดการ: การจัดการทรัพยากรและการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการขยะ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียม
- การมีส่วนร่วมกับสังคม: การนำความรู้และทรัพยากรของมหาวิทยาลัยไปใช้ในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการบริการวิชาการ การสร้างความร่วมมือกับชุมชน และการสนับสนุนนโยบายสาธารณะ
มหาวิทยาลัยไทยโดดเด่นด้วยการเรียนการสอนและงานวิจัยเชิงพื้นที่
จากการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษา พบว่านักศึกษาไทยมีความตระหนักและความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนสูงมาก นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยไทยยังมีความโดดเด่นในการทำงานวิจัยเชิงพื้นที่ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนและสังคม
ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยไทยมีต้นทุนที่ดีในการทำงานด้านความยั่งยืนอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับชุมชนและการแก้ไขปัญหาในระดับท้องถิ่น” ท่านยังเสริมอีกว่า “มหาวิทยาลัยไทยมีความพร้อมที่จะก้าวสู่ระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงานวิจัยเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเรา แต่เราจำเป็นต้องยกระดับคุณภาพงานวิจัย และการนำเสนอผลงานในระดับนานาชาติให้มากขึ้น”
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับโลก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยไทยที่ประสบความสำเร็จในการบูรณาการ SDGs เข้ากับทุกมิติของการดำเนินงาน และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยไทยที่มีความคาดหวังว่าจะติดอันดับต้น ๆ ในการจัดอันดับ THE Impact Rankings
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “จุฬาฯ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี แต่ยังให้ความสำคัญกับการปลูกฝังจิตสำนึกด้านความยั่งยืนให้กับนักศึกษาและบุคลากร”
ศ.ดร.วิเลิศ ย้ำว่า จุฬาฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสร้างความยั่งยืนในระดับโลก “เราจะไม่หยุดพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม”
อนาคตของความยั่งยืน สถาบันอุดมศึกษาไทย
การจัดอันดับ THE Impact Rankings ที่กำลังจะประกาศผลในเร็ว ๆ นี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นและศักยภาพของประเทศไทยในการขับเคลื่อน SDGs และจะเป็นแรงผลักดันให้มหาวิทยาลัยไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับโลก
ด้วยความร่วมมือและความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วน เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมาย SDGs และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป
#GlobalSustainableDevelopmentCongress2024 #SDGs #THEImpactRankings #มหาวิทยาลัยไทย #ความยั่งยืน #การศึกษาเพื่อความยั่งยืน #SDGsInThailand #ThaiUniversities