ผู้ใช้ Windows หลายรายทั่วโลกกำลังประสบปัญหา Blue Screen of Death (BSOD) ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ค้างอยู่ที่หน้าจอ “Recovery” จากการอัพเดตที่ผิดพลาดของ CrowdStrike ซึ่งระบุบนหน้าจอว่า “It looks like Windows didn’t load correctly.” เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทสื่อ บริษัทเทคโนโลยี สถานศึกษา และองค์กรอื่นๆ ในทั่วโลก อีกมากมาย
- – SK hynix พัฒนา PCB01 SSD เร็วสุดในโลก ปฏิวัติ AI บนพีซี
- – เลอโนโว เปิดประสิทธิภาพไร้ข้อจำกัดจาก Lenovo Yoga Book 9i เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด
ล่าสุด ทาง Microsoft ได้ออกมายืนยันแล้วว่า จากกรณีปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows ในขณะนี้ ไมโครซอฟท์ ขอชี้แจงอย่างเป็นทางการดังนี้ ไมโครซอฟท์ได้รับทราบถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีเหตุมาจากการอัปเดตแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการรายหนึ่ง และคาดว่าจะมีแนวทางการแก้ไขออกมาเร็วๆ นี้
ด้าน CrowdStrikeบริษัทผู้ให้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ชื่อดัง ได้ออกมายอมรับว่า การอัปเดตเซ็นเซอร์ล่าสุดของพวกเขาเป็นสาเหตุของปัญหา BSOD ครั้งใหญ่ใน Windows 10
เซ็นเซอร์ของCrowdStrike เป็นซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องลูกค้าเพื่อป้องกันภัยคุกคาม แต่การอัปเดตล่าสุดนี้กลับทำให้ไฟล์ csagent.sys (หรือ C-00000291*.sys) ทำงานผิดพลาด ส่งผลให้ Windows 10 เกิด BSOD และค้างอยู่ที่หน้าจอ Recovery
ขณะที่ในโลกออนไลน์ ได้เกิดการแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งระบุว่าผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบสามารถแก้ไขปัญหาได้ชั่วคราวด้วยวิธีดังต่อไปนี้:
วิธีที่ 1: ใช้ Safe Mode และลบไฟล์ที่ผิดพลาด
- เข้าสู่ Safe Mode โดยกด F8 ซ้ำๆ ขณะบูตเครื่อง
- เปิด Command Prompt (admin) หรือ Windows PowerShell (Admin)
- พิมพ์คำสั่ง cd C:\Windows\System32\drivers\CrowdStrike
- พิมพ์ dir C-00000291*.sys เพื่อค้นหาไฟล์ที่ผิดพลาด
- พิมพ์ del [ชื่อไฟล์] เพื่อลบไฟล์
วิธีที่ 2: ใช้ Safe Mode และเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ CrowdStrike
- เข้าสู่ Safe Mode
- เปิด Command Prompt
- พิมพ์ cd \windows\system32\drivers
- พิมพ์ ren CrowdStrike CrowdStrike_old
วิธีที่ 3: ใช้ Registry Editor เพื่อปิดการทำงานของ CSAgent service
- เข้าสู่ Safe Mode
- เปิด Registry Editor (กด Win+R แล้วพิมพ์ regedit)
- ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\CSAgent
- เปลี่ยนค่าของ Start จาก 1 เป็น 4
ทั้งนี้แม้ว่าจะมีวิธีแก้ไขปัญหาชั่วคราวแล้ว แต่ TheReporterAsia ขอแนะนำให้ผู้ใช้รอการอัปเดตแก้ไขจาก CrowdStrike โดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการแก้ไขด้วยตนเอง
#Windows10 #BSOD #CrowdStrike #Cybersecurity #TechNews #TheReporterAsiaไซเบอร์