___noise___ 1000

AIS เผยดัชนีใหม่ ชี้คนไทยเกินครึ่ง ยังอ่อนแอ เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์

AIS

กรุงเทพฯ – AIS ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยผลการศึกษา “ดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย” หรือ Thailand Cyber Wellness Index 2024 ซึ่งเผยให้เห็นถึงความน่าเป็นห่วงว่าคนไทยกว่าครึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “แม้คนไทยจะมีการพัฒนาความเข้าใจในการใช้งานบนโลกดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น แต่ยังมีจุดที่น่ากังวล เพราะคนไทยเกินครึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์”

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าคนไทยจำนวนมากยังขาดความรู้ในเรื่องพื้นฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น การตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย การใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือแม้แต่การไม่รู้จัก HTTPS ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเว็บไซต์มีความปลอดภัย

เพื่อรับมือกับปัญหานี้ AIS ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ “Digital Health Check” ซึ่งเป็นเครื่องมือประเมินทักษะด้านดิจิทัลของแต่ละบุคคลและแนะนำช่องทางการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเสริมสร้างทักษะและความรู้ในการป้องกันภัยไซเบอร์ได้ด้วยตนเอง

“เราจึงทำงานควบคู่กันทั้งการส่งเสริมทักษะความรู้ และพัฒนาเครื่องมือปกป้องการใช้งาน ทำให้วันนี้เราพัฒนาเครื่องมือ ‘Digital Health Check’ เพื่อให้คนไทยสามารถวิเคราะห์และประเมินทักษะด้านดิจิทัลของตนเอง พร้อมทั้งแนะนำช่องทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ในการป้องกันภัยไซเบอร์ให้แก่ลูกค้าและคนไทย” นางสายชล กล่าว

AIS
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS

ใช้ AIS Secure Net ฟรี 12 เดือน

นอกจากนี้ เอไอเอส ยังได้เพิ่มบริการ AIS Secure Net ซึ่งเป็นบริการปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยลูกค้า AIS สามารถใช้บริการนี้ได้ฟรีเป็นเวลา 12 เดือน และยังมีบริการ Secure Net+ Protected by MSIG ที่เพิ่มความคุ้มครองด้านประกันภัยไซเบอร์ในราคา 39 บาทต่อเดือน

“AIS ยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลของคนไทย พร้อมเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือเพื่อให้คนไทยสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาภัยไซเบอร์จากกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงมากับการใช้งาน ทั้งมาตรการยืนยันตัวตน การควบคุมสัญญาณบริเวณรอยต่อชายแดน หรือ การสนับสนุนการทำงานของพี่ๆตำรวจโดยทีมวิศวกร ทั้งหมดเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ เอไอเอส เพื่อให้ภัยไซเบอร์หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นางสายชล กล่าวสรุป

AIS

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ โดยชื่นชม เอไอเอส ที่ริเริ่มพัฒนาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงฯ ในการบูรณาการข้อมูลจากภาคเอกชนเพื่อการวิเคราะห์และการตัดสินใจที่ดีขึ้น

ท่านปลัดฯ ยังกล่าวถึงความสำคัญของการวัดผลและการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกดิจิทัลที่เทคโนโลยีและภัยคุกคามต่างๆ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีดัชนีชี้วัดเช่นนี้จะช่วยให้สามารถติดตามและประเมินสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิด นำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนานโยบายและมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ท่านปลัดฯ ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการสร้างแพลตฟอร์มและเครื่องมือต่างๆ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์ม Thai Cyber Wellness Index และแอปพลิเคชันอาสาสมัครดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเตือนและจัดการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้าย ท่านปลัดฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเตือนและจัดการกับภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่สังคมดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

AIS

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดย สกมช.มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัยของระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ และการส่งเสริมให้ประชาชนใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย

ท่านเลขาธิการฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้าง Cyber Wellness หรือสุขภาวะทางไซเบอร์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่คนไทยใช้ชีวิตในโลกออนไลน์เป็นเวลานาน การประเมินและวัดผลด้านต่างๆ รวมถึงการให้ความรู้และสร้างทักษะที่จำเป็นในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

สกมช. ได้ร่วมมือกับ เอไอเอส และหน่วยงานอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม การจัดการกับแอปพลิเคชันหลอกลวง และการให้ความรู้เกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงภัยคุกคามทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนากลไกในการแจ้งเตือนและจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว

สุดท้าย ท่านเลขาธิการฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้าง Cyber Wellness ที่ดี เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย ไม่ถูกหลอกลวง และสามารถบริหารจัดการเวลาและการเงินได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสังคมดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืนในประเทศไทยต่อไป

AIS

สถิติอาชญากรรมออนไลน์พุ่ง! คนไทยถูกหลอกกว่า 6 แสนครั้ง สูญเงินรวมกว่า 6.9 หมื่นล้านบาท

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยข้อมูลจากศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2567 มีผู้แจ้งความคดีออนไลน์มากถึง 612,603 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายสูงถึง 69,186,829,589 บาท

คดีที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ มีผู้เสียหายมากถึง 296,042 ราย คิดเป็น 48.33% ของคดีทั้งหมด และสร้างความเสียหายรวมกว่า 4,511 ล้านบาท รองลงมาคือ หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน มีผู้เสียหาย 82,162 ราย (13.41%) มูลค่าความเสียหายกว่า 10,177 ล้านบาท

ช่องทางการรับแจ้งความส่วนใหญ่ คือ ผ่านเว็บไซต์ ThaiPoliceOnline.go.th จำนวน 324,166 เรื่อง (52.91%) รองลงมาคือ Walk in เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ 134,185 เรื่อง (21.9%) และสายด่วน 1441 จำนวน 154,252 เรื่อง (25.19%)

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจสามารถอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ได้แล้ว 463,399 บัญชี คิดเป็นเงิน 39,754,813,149 บาท และสามารถอายัดเงินของผู้เสียหายได้ทันท่วงที 7,428,020,982 บาท

จากสถิติ จะเห็นว่าอาชญากรรมออนไลน์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนจำนวนมาก จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมออนไลน์ และหากตกเป็นเหยื่อสามารถแจ้งความได้หลายช่องทาง ทั้งทางเว็บไซต์ สายด่วน หรือที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ แนะนำขั้นตอนการตรวจเช็กที่สำคัญเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ “เมื่อไม่มั่นใจว่าใช่การหลอกลวงมั้ย ให้วางสายแล้วลองโทรกลับ เพราะเบอร์หลอกลวงจะไม่สามารถโทรกลับได้” เพียงเท่านี้ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอย่างแน่นอน

นางสายชล กล่าวเพิ่มเติมว่า “วันนี้ เอไอเอส ขอประกาศผล Thailand Cyber Wellness Index 2024 ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย โดยเราได้ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลจากคนไทยกว่า 50,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่าคนไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับพื้นฐาน (Basic) ด้านสุขภาวะดิจิทัล โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งยังมีคะแนนเฉลี่ยเพียง 0.61 จากคะแนนเต็ม 1”

“กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ ซึ่งต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนาทักษะดิจิทัลอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ Cyber Security หรือ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนต้องตระหนักและให้ความสำคัญ”

#AIS #ความปลอดภัยไซเบอร์ #DigitalHealthCheck #ThailandCyberWellnessIndex

banner Sample

Related Posts