___noise___ 1000

Thai Wah ลุยเกษตรยั่งยืน ชู ไทยวาโมเดล และนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพ

ไทยวาโมเดล

อุดรธานี, ประเทศไทยไทยวา ผู้นำอุตสาหกรรมแป้งและอาหาร เดินหน้าผลักดันเกษตรกรรมยั่งยืนด้วย “ไทยวาโมเดล” และ “โมเดล BCG” เพื่อรับมือกับภัยโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรไทย โดยเฉพาะมันสำปะหลัง พืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ พร้อมโชว์ประสิทธิภาพนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพต่อยอดสู่ฟิล์มคลุมดินช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น

คุณหทัยกานต์ กมลศิริสกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายกลยุทธ์ ความยั่งยืน นวัตกรรม บริษัท ไทยวา
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไทยวา มุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มอาหาร B2B ที่แข็งแกร่ง จากความเชี่ยวชาญของเราที่มีมายาวนานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมันสำปะหลัง ข้าว ถั่วเขียว มันเทศ และสาคู เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและนวัตกรรม ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก”

ปัญหาฝนทิ้งช่วงและโรคระบาด ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลง กระทบต่อศักยภาพการส่งออกของไทย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 93,000 ล้านบาทต่อปี

ผุดไอเดีย “ไทยวาโมเดล”

ไทยวา ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่เกษตรกรรมยั่งยืน จึงพัฒนา “ไทยวาโมเดล” ที่ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตได้ราว 30-40% จากการทำให้ดินดีและมีความพร้อมมากขึ้น

ไทยวาโมเดล มุ่งเน้นที่การจัดการดินซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเพาะปลูก ผนวกกับการส่งเสริมการทำเกษตรอย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้โมเดลนี้มีเสาหลักใน 3 ด้าน ได้แก่

  • การดูแลดินด้วยปุ๋ยชีวภาพ เพราะหัวใจของไทยวาโมเดลคือการดูแลดินซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเพาะปลูก ไทยวาจึงคิดค้นปุ๋ยชีวภาพ TW8 ขึ้น เพื่อบำรุงและฟื้นฟูดิน ประกอบด้วยจุลินทรีย์ถึง 8 ชนิดที่มีบทบาทสำคัญในการย่อยอินทรีย์วัตถุให้กลายเป็นสารอาหาร ช่วยตรึงไนโตรเจนในอากาศลงสู่ดิน และช่วยสร้างสารอาหารที่จำเป็น เช่น ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม โดยเกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพ TW8 ได้เองโดยใช้ของเหลือทิ้งจากการเกษตรได้อย่างหลากหลาย เช่น ใบมันสำปะหลัง จึงทำได้ง่าย ช่วยลดต้นทุน แต่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับพืช
  • นวัตกรรมพลาสติกคลุมดินที่ย่อยสลายได้ ไทยวาได้แนะนำพลาสติกคลุมดิน ROSECO ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงช่วยลดการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดวัชพืช แต่ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในดิน ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาฝนทิ้งช่วงที่เกษตรกรไทยกำลังประสบอยู่ จึงช่วยเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสิ้นฤดูกาลเพาะปลูกยังสามารถไถกลบฟิล์มชีวภาพ ROSECO หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งจะย่อยสลายและกลายเป็นปุ๋ยในดินที่มีประโยชน์ต่อจุลินทรีย์ แนวทางนี้ไม่เพียงสะดวกสำหรับเกษตรกร แต่ยังช่วยบำรุงดิน และลดผลกระทบจากการใช้สารเคมีอีกด้วย
  • ธนาคารท่อนพันธุุ์มันสำปะหลังปลอดโรค ไทยวาประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง โดยใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้จากโครงการโรงเรือนกระจกเพื่อการขยายท่อนพันธุุ์มันสำปะหลังแบบเร่งด่วน ซึ่งเป็นโครงการที่ไทยวาร่วมมือกับสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย หรือ TTDI ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เพาะได้ครั้งละ 4-5 ท่อน เป็น 20 ท่อน ปัจจุบันไทยวามีโรงเรือนในประเทศไทยทั้งหมด 12 แห่ง ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง กาฬสินธุ์ และ ตาก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญของบริษัท จึงสามารถจัดหาท่อนพันธุ์มันสำปะหลังคุณภาพสูงให้กับเกษตรกรในเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง

หัวใจหลักของไทยวาโมเดล คือการดูแลดินด้วยปุ๋ยชีวภาพ TW8 ที่เกษตรกรสามารถผลิตเองได้ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ไทยวายังมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมพลาสติกคลุมดินที่ย่อยสลายได้ เพื่อลดการใช้สารเคมีและรักษาความชุ่มชื้นในดิน เมื่อย่อยสลายแล้วจะกลายเป็นปุ๋ย ช่วยเพิ่มสารอาหารและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน

อีกหนึ่งความก้าวหน้าคือการพัฒนาท่อนพันธุ์มันสำปะหลังปลอดโรค ด้วยเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากโครงการโรงเรือนกระจกเพื่อการขยายพันธุ์ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังแบบเร่งด่วน ร่วมกับ สถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนท่อนพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันไทยวามีโรงเรือน 12 แห่งใน 3 จังหวัด ใกล้แหล่งเพาะปลูกสำคัญ เพื่อจัดหาท่อนพันธุ์คุณภาพสูงให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง

ไทยวาโมเดลช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึง 50% ลดต้นทุนจากปุ๋ยและสารเคมี ทำให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ไทยวาโมเดล ยังส่งเสริมการนำกากมันสำปะหลังมาผลิตเป็นอาหารสัตว์ Thai Win (ไทยวิน) ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ได้ถึง 40% นอกจากจะเป็นอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม

ไทยวาโมเดล มุ่งเน้น 3 ด้านหลัก คือ การดูแลดิน การทำเกษตรอย่างรับผิดชอบ และการใช้พลังงานสะอาด เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรไทย นอกจากนี้ยังนำ “โมเดล BCG” มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การนำกากมันสำปะหลังมาผลิตเป็นอาหารสัตว์ Thai Win (ไทยวิน) ซึ่งเป็นการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ไทยวา มีความมุ่งมั่นในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยเข้าร่วมโครงการ Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) และส่งเสริมให้เกษตรกรในเครือข่ายใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมเป็นสมาชิกของแพลตฟอร์ม Sustainable Agriculture Initiative (SAI) เพื่อส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ไทยวาโมเดล

นวัตกรรมเพื่อเกษตรกร: ปุ๋ยชีวภาพและฟิล์มคลุมดินย่อยสลายได้

คุณพรศักดิ์ เอี่ยมนาคะ ผู้ช่วยผู้จัดการพัฒนาฟาร์มและนวัตกรรม บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมที่ไทยวาพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร

ซึ่งนอกจากการพัฒนาต้นพันธ์ที่ดีแล้ว ไทยวายังได้พัฒนาปุ๋ยชีวภาพ “ไทยวา 8” ซึ่งประกอบด้วยจุลินทรีย์ 8 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อดินและพืช ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ปรับปรุงโครงสร้างดิน ลดการใช้สารเคมี และเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ยังช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้นและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสภาพดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์

ฟิล์มคลุมดินย่อยสลายได้

อีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจคือฟิล์มคลุมดินที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกในภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความชื้นในดิน ลดการระเหยของน้ำ และป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืช ทำให้เกษตรกรประหยัดเวลาและแรงงานในการดูแลแปลงปลูก และยังช่วยเพิ่มผลผลิตได้อีกด้วย

นวัตกรรมทั้งสองนี้ได้รับการทดลองและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการทดลองที่น่าพอใจ ทั้งในเรื่องของการเพิ่มผลผลิต การลดต้นทุน และการรักษาสิ่งแวดล้อม ไทยวายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมเพื่อเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมไทย

นอกจากนี้ไทยวายังมีแผนที่จะขยายการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยให้บริการในกว่า 35 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นการขายส่วนผสมจากแป้งเป็นหลักในหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยวและพลาสติกชีวภาพในบางตลาด

โดยปัจจุบันไทยวาให้บริการลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกด้วยผลิตภัณฑ์ TPS, TPS Compound และ Bio Compound ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการผลิตฟิล์มเป่า (Blown film) สำหรับทำถุงพลาสติก ถุงเพาะชำ ถุงขยะ และถุงเก็บมูลสัตว์ การขึ้นรูปด้วยความร้อน (Thermoforming) สำหรับทำบรรจุภัณฑ์อาหาร ถ้วย และถาด การฉีดขึ้นรูป (Injection molding) ทำช้อนส้อม ถ้วย กระถางต้นไม้ และของเล่น และการรีดเส้น (Extrusion) ทำหลอดและตาข่าย

นอกจากนี้ ไทยวายังคงมุ่งมั่นพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์หลักอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งในกลุ่มวุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว และอาหารพร้อมทาน ทั้งแบบแห้งและแบบสด รวมถึงผลิตภัณฑ์แป้งและสาคูที่หลากหลาย โดยเน้นคุณภาพสูงและทางเลือกออร์แกนิกและปราศจากกลูเตน ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก

ไทยวา เชื่อมั่นว่า “ไทยวาโมเดล” และ “โมเดล BCG” จะช่วยยกระดับภาคเกษตรไทย สร้างความมั่นคงทางอาหาร และรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงเน้นการเพิ่มผลผลิต แต่ยังสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน ช่วยลดผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน และดูแลคุณภาพชีวิตของเกษตรกรเพื่อเติบโตไปพร้อมกับชุมชน พร้อมทั้งขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศอย่างมั่นคง ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มอาหาร B2B ที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญด้านพืชผลหลากหลายชนิด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ และยังมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมพลาสติกชีวภาพเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

#ไทยวา #เกษตรยั่งยืน #ไทยวาโมเดล #โมเดลBCG #นวัตกรรมอาหาร #พลาสติกชีวภาพ

banner Sample

Related Posts