TheReporterAsia – อุตสาหกรรม รถยนต์เยอรมัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งทางวิศวกรรมและนวัตกรรม กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง คำถามที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ อุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมันกำลังถึงคราวอวสานจริงหรือ?
- – อำนาจ เพ็งเพชร คว้าแชมป์นักขับ วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย
- – DMT เปิดสถานีชาร์จ EV ด่านดินแดง รองรับการชาร์จกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
จากรายงานข่าวของ DW News Desk ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของโลก กำลังเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นในโรงงานผลิตของเยอรมนี ประกอบกับแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน ทำให้เกิดคำถามถึงรากเหง้าของปัญหาและอนาคตของบริษัท ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ Volkswagen ในปี 2023 ลดลง 2.2% เหลือ 4.4 ล้านคันทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้
ไม่เพียงแต่ Volkswagen เท่านั้น ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ในยุโรปก็กำลังเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน ทำให้ต้องปรับลดต้นทุนเพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ถูกกว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปในปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนสูงถึง 6.5 ล้านคัน หลายฝ่ายมองว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญของวิกฤตครั้งนี้คือ ความล้มเหลวของผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ทั้งมีราคาจับต้องได้และดึงดูดใจผู้บริโภค
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม รถยนต์เยอรมัน
-
การแข่งขันจากจีน: ผู้ผลิตรถยนต์จีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยนำเสนอรถยนต์ที่มีราคาถูกกว่าและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนี ตัวอย่างเช่น BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 200% ในปี 2023
-
ต้นทุนที่สูงขึ้น: ต้นทุนการผลิตในเยอรมนีสูงกว่าประเทศอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน รายงานระบุว่า ต้นทุนแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีสูงกว่าประเทศจีนถึง 3 เท่า
-
ความล้มเหลวในการปรับตัว: ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันอาจชะล่าใจและลงทุนในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าช้าเกินไป ทำให้เสียเปรียบในการแข่งขัน ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD และ Tesla ลงทุนอย่างมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า
-
ผลกระทบจากวิกฤตพลังงาน: วิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นจากสงครามในยูเครนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก รวมถึงเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตพุ่งสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต
อนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมัน
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า อุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมันยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัว แต่จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการลงทุนในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า การลดต้นทุนการผลิต และการพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ Volkswagen ประกาศแผนลงทุนกว่า 180,000 ล้านยูโร ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และซอฟต์แวร์
รัฐบาลเยอรมันก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ เช่น การส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ รัฐบาลเยอรมันตั้งเป้าหมายที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้า 15 ล้านคัน บนท้องถนนภายในปี 2030
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องเร่งปรับตัว มิฉะนั้นอาจสูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดโลก และส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ
อุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมันกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ การแข่งขันจากจีน ต้นทุนที่สูงขึ้น และความล้มเหลวในการปรับตัว ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของอุตสาหกรรม ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องเร่งปรับตัวและลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก รัฐบาลเยอรมันก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
#อุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมัน #วิกฤตเศรษฐกิจ #รถยนต์ไฟฟ้า #การแข่งขันจากจีน #Volkswagen #ยอดขายรถยนต์ #สถิติการผลิต