TheReporterAsia – สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน TheReporterAsia ขอพาทุกท่านไปสำรวจโลกแห่งวัสดุสุดล้ำ “กราฟีน (Graphene)” ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่ากันว่าวัสดุนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเพชร นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม และมีคุณสมบัติพิเศษอีกมากมาย จนถูกยกให้เป็น “วัสดุแห่งอนาคต” ที่สำคัญ คนไทยก็สามารถผลิตกราฟีนได้เองแล้วนะครับ!
- – ภาษีกงสี: กับดัก มรดก หรือบันไดสู่ความมั่งคั่งข้ามรุ่น?
- – ส่องแนวคิด การจัดทำ สถิติประเทศไทย : มุ่งสู่ระบบสถิติคุณภาพสูง
เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกเปิดเผยผ่านรายการ THE SECRET SAUCE ที่พาเราไปบุกห้องแล็บ พูดคุยกับนักวิจัย และเจาะลึกถึงศักยภาพของกราฟีนที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
กราฟีน คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ?
“กราฟีน” (Graphene) ถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 โดยสองนักฟิสิกส์ชาวรัสเซีย “ศาสตราจารย์ ดร.อังเดร ไกม์” (Andre Geim) และ “ศาสตราจารย์ ดร.คอนสแตนติน โนโวเซลอฟ” (Konstantin Novoselov) จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร ซึ่งการค้นพบครั้งสำคัญนี้ทำให้ทั้งคู่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2553
ถ้าจะให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ กราฟีนก็คือแผ่นคาร์บอนบางๆ ที่มีความหนาเพียงแค่ 1 อะตอมเท่านั้น แต่กลับแข็งแกร่งกว่าเพชรถึง 200 เท่า! แถมยังนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดง ยืดหยุ่นได้สูง และมีพื้นที่ผิวมาก ด้วยคุณสมบัติสุดพิเศษเหล่านี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรทั่วโลก ต่างพากันนำกราฟีนไปทดลองประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน การแพทย์ หรือแม้แต่วัสดุศาสตร์
คนไทยผลิตกราฟีนเองได้จริงหรือ?
คำตอบคือ “จริงครับ!” และไม่ใช่แค่ผลิตได้ แต่ประเทศไทยยังเป็น “ชาติแรกในโลก” ที่สามารถสังเคราะห์กราฟีนด้วยเทคนิคเคมีไฟฟ้า และผสานเข้าไปในเนื้อพอลิเมอร์นำไฟฟ้าได้ด้วยต้นทุนต่ำ โดยผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งต่อมาได้มีการต่อยอดนำไปผลิตหมึกนำไฟฟ้าจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และพัฒนาเป็นนวัตกรรมต่างๆ มากมาย เช่น แผ่นป้ายอาร์เอฟไอดี บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ จอแสดงผลชนิด OLED ฟิล์มสุริยะ และเซนเซอร์ทางการแพทย์
และจากการให้สัมภาษณ์ของนักวิจัยที่รายการ THE SECRET SAUCE ทำให้เราทราบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนากราฟีนเป็นอย่างมาก โดยนักวิจัยไทยสามารถผลิตกราฟีนได้เอง และมีเครื่องจักรผลิตกราฟีนต้นแบบในระดับอุตสาหกรรมแล้วด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมา การผลิตกราฟีนมีต้นทุนที่สูงมาก และต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน แต่ตอนนี้คนไทยก็สามารถทำได้เองแล้ว
กราฟีนกับอนาคตแบตเตอรี่ EV
หนึ่งในการประยุกต์ใช้กราฟีนที่น่าจับตามองที่สุด ก็คือการนำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดต่างๆ ของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในปัจจุบันได้ เช่น
- ชาร์จเร็วขึ้น จากที่เคยใช้เวลาชาร์จ 7 ชั่วโมง อาจเหลือเพียง 5 นาที!
- ความจุไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้รถ EV วิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางทาง
- น้ำหนักเบาลง ช่วยลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่
- อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดความถี่ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ความท้าทายและโอกาสของอุตสาหกรรม กราฟีน ในประเทศไทย
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะสามารถผลิตกราฟีนได้เองแล้ว แต่ก็ยังมี “ความท้าทาย” อีกหลายอย่างที่ต้องเผชิญ เช่น การขยายกำลังการผลิต การสร้างตลาด การพัฒนาบุคลากร และการสนับสนุนจากภาครัฐ
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มี “โอกาส” มากมายรออยู่เช่นกัน หากประเทศไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ และผลักดันให้เกิดการนำกราฟีนไปใช้งานจริงในระดับอุตสาหกรรมได้ กราฟีนก็จะกลายเป็น “วัสดุพลิกโลก” ที่สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับเศรษฐกิจไทย ทั้งในด้านการลงทุน การจ้างงาน และการส่งออก
TheReporterAsia มองว่า การที่ประเทศไทยสามารถผลิตกราฟีนได้เอง ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ EV ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลก หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันผลักดัน ประเทศไทยมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำด้านกราฟีนในระดับโลก” และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
#กราฟีน #วัสดุพลิกโลก #แบตเตอรี่EV #นวัตกรรม #เศรษฐกิจไทย #THESECRETSAUCE #TheReporterAsia