อิคาโน่ รีเทล เจ้าของแฟรนไชส์อิเกียในไทย ทำยอดขาย 4 หมื่นล้านบาท

อิคาโน่ รีเทล เจ้าของแฟรนไชส์อิเกียในไทย ทำยอดขาย 4 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – อิคาโน่ รีเทล ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านอิเกียในประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เม็กซิโก และฟิลิปปินส์ ประกาศรายได้รวมประจำปีงบประมาณ 2567 ทะลุ 4 หมื่นล้านบาท (1.09 พันล้านยูโร) เติบโตขึ้น 1.3% จากปีก่อนหน้า สร้างปรากฏการณ์สวนกระแสเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ “ราคาที่เข้าถึงได้” โดยอิคาโน่ รีเทล มุ่งมั่นลดราคาสินค้าและบริการ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ โดยเฉพาะในประเทศไทย อิเกียได้ประกาศลดราคาสินค้ากว่า 2,400 รายการ โดยกว่า 85% เป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงลดราคาค่าบริการจัดส่งสินค้า เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน

นายคริสเตียน รอยเคียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อิคาโน่ รีเทล กล่าวว่า “ธุรกิจทั่วโลกต่างเผชิญปีที่ยากลำบาก อิเกียก็เช่นกัน ภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าและบริการในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าประหยัดเงินในทุกวิถีทางที่เราทำได้”

ในประเทศไทย อิคาโน่ รีเทล ซึ่งบริหารสโตร์อิเกีย 4 แห่ง ได้แก่ อิเกีย บางนา อิเกีย บางใหญ่ อิเกีย ภูเก็ต และอิเกีย สุขุมวิท ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายเติบโต 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และปิดปีงบประมาณ 2567 ด้วยรายได้รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท (ราว 286 ล้านยูโร)

สินค้าขายดี 3 อันดับแรกของ อิคาโน่ รีเทล ได้แก่

  1. MALM/ มัล์ม (เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยดีไซน์เรียบง่าย ฟังก์ชั่นครบครัน และราคาที่เข้าถึงได้
  2. PAX/ พักซ์ (ตู้เสื้อผ้า) ตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อินที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บที่เป็นระเบียบและสวยงาม
  3. BILLY/ บิลลี่ (ชั้นหนังสือ) ชั้นวางหนังสือยอดนิยมตลอดกาล ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย แข็งแรง ทนทาน และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางได้หลากหลาย

โดยเฉพาะในประเทศไทย มียอดขายชั้นหนังสือ BILLY/ บิลลี่ สูงถึง 34,460 ชิ้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการจัดระเบียบพื้นที่ภายในบ้านและที่ทำงานที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์การทำงานแบบ Work From Home ที่ยังคงได้รับความนิยม

ธุรกิจอาหารของอิเกียยังคงได้รับความนิยม โดยในปีที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าใช้บริการร้านอาหารอิเกีย คาเฟ่ และบิสโทร รวมกว่า 14.5 ล้านครั้ง โดยเมนูยอดนิยมยังคงเป็นมีทบอล ซึ่งมียอดขายรวมทั่วโลกสูงถึง 49.3 ล้านชิ้น โดย 27.3 ล้านชิ้น เป็นยอดขายในประเทศไทย ตอกย้ำความนิยมของอาหารสไตล์สวีเดนในประเทศไทย

แม้ยอดขายอาหารจะลดลง 3% เนื่องจากผลกระทบจากอุปทานอาหารทั่วโลก แต่อิเกียยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนออาหารที่อร่อยและราคาเข้าถึงได้ เช่น การออกเมนูอาหารราคาประหยัด และการจัดโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

นอกจากธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์แล้วอิคาโน่ รีเทล ยังมีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่ออิคาโน่ เซ็นเตอร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจศูนย์การค้า 5 แห่งในมาเลเซียและไทย โดยมีสมาชิก CRM ในศูนย์การค้าอิคาโน่ 5 แห่ง รวม 550,000 คน เพิ่มขึ้น 22% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ

นายรอยเคียร์ กล่าวขอบคุณทีมงานอิคาโน่ รีเทล ที่ร่วมกันฝ่าฟันความท้าทายในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยกระดับโมเดลธุรกิจออมนิชาแนล โดยมีสโตร์เป็นศูนย์กลางในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยยอดขายอีคอมเมิร์ซของอิคาโน่ รีเทล เติบโตขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ตารางสรุปยอดขายของอิคาโน่ รีเทล แยกตามประเทศ

ประเทศ สโตร์อิเกีย และ อิคาโน่ เซ็นเตอร์ รายได้ปีงบประมาณ 2567 (กันยายน 2566 – สิงหาคม 2567) เปอร์เซ็นต์การเติบโตจากปีที่แล้ว
สิงคโปร์ IKEA Alexandra, IKEA Jurong, IKEA Tampines 9.1 พันล้านบาท +0.6%
มาเลเซีย IKEA Damansara + IPC Shopping Centre, IKEA Cheras + MyTOWN Shopping Centre, IKEA Tebrau + Toppen Shopping Centre, IKEA Batu Kawan + Klippa Shopping Centre 1.1 หมื่นล้านบาท -4.2%
ไทย IKEA Bangna + Megabangna Shopping Centre, IKEA Bang Yai, IKEA Phuket, IKEA Sukhumvit กว่า 1 หมื่นล้านบาท +3.9%
เม็กซิโก IKEA Oceania, IKEA Puebla 3.9 พันล้านบาท +20.8%
ฟิลิปปินส์ IKEA Pasay City 5.2 พันล้านบาท -2.0%
รวม 4 หมื่นล้านบาท +1.3%

#อิคาโน่รีเทล #อิเกีย #ธุรกิจค้าปลีก #ผลประกอบการ #เศรษฐกิจ #เฟอร์นิเจอร์ #ของตกแต่งบ้าน #MALM #PAX #BILLY #มีทบอล #ออมนิชาแนล

Related Posts