กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – นิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์ โฮลดิงส์ บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี ประกาศจัดตั้งกองทุน เอทูจี แคปปิตอล (ASEAN to Global Capital: A2G Capital) เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นในภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งเน้นที่การอำนวยความสะดวกในธุรกรรม M&A ข้ามพรมแดน
- – SCC เทนเดอร์ฯ LANNA สำเร็จ คว้าหุ้นเพิ่ม 86 ล้านหุ้น รวมถือ 61.44%
- – การบินไทย กางแผน Fly for The New Pride หวังกลับเข้าเทรด Q2/2568
กองทุน A2G Capital จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมโอกาสในการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทญี่ปุ่นและเอสเอ็มอีในภูมิภาคอาเซียน โดยให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างธุรกิจ และส่งเสริมความร่วมมือกับบริษัทผู้ลงทุนจากญี่ปุ่น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการควบรวมและซื้อกิจการ
นายยูสุเกะ โอจิมะ หัวหน้าส่วนภูมิภาคอาเซียน นิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์ โฮลดิงส์ กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ญี่ปุ่นและอาเซียนได้สานสัมพันธ์และความร่วมมือในการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่แข็งแกร่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโต การก่อตั้งกองทุน A2G Capitalจะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการลงทุนระหว่างประเทศสู่เอสเอ็มอี เพื่อส่งมอบทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ ตลอดจนถึงการผลักดันให้เอสเอ็มอีประสบความสำเร็จทางธุรกิจและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
“เนื่องจากตลาดภายในประเทศญี่ปุ่นอยู่ในช่วงเวลาที่เติบโตเต็มที่และถึงจุดอิ่มตัว จึงมีศักยภาพในการเติบโตที่จำกัด เมื่อเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่มีพลวัตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างการเติบโตที่หลากหลาย ด้วยการขยายการลงทุนสู่ประเทศในอาเซียน บริษัทในญี่ปุ่นสามารถลดความเสี่ยงต่อความผันผวนของเศรษฐกิจภายในประเทศ และยังสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ในการขยายตลาด และสร้างการเติบโตในระยะยาวอีกด้วย”
A2G Capital จะสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีใน 2 ระยะหลัก:
ระยะที่ 1: การปรับโครงสร้างธุรกิจ
- ให้คำปรึกษาและสนับสนุนในการปรับโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการควบรวมและซื้อกิจการ
- ช่วยเหลือในการขายหุ้นบริษัทให้กับนักลงทุนที่สนใจผ่านบริการให้คำปรึกษาของนิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์
- รับประกันความสอดคล้องกับมาตรฐานธุรกิจของญี่ปุ่น
- นำเสนอแนวทางการบูรณาการหลังการควบรวมกิจการ (Post-Merger Integration: PMI) อย่างเป็นระบบ
ระยะที่ 2: การสนับสนุนหลังการควบรวมกิจการ
- ให้คำแนะนำและทรัพยากรที่จำเป็นในการบูรณาการธุรกิจหลังการควบรวมกิจการ
- ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการควบรวมและซื้อกิจการ
- ลดความจำเป็นในการมีส่วนร่วมของการจัดการโดยตรงในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
ความร่วมมือครั้งแรกของ A2G Capital ในมาเลเซีย
A2G Capitalได้เริ่มต้นความร่วมมือครั้งแรกในมาเลเซียกับ ซีเค แมค โกลบอล (CK MAC Global Sdn. Bhd.) ซึ่งเป็นบริษัทการค้าที่เชี่ยวชาญในด้านเครื่องจักรที่เกี่ยวกับระบบควบคุมเชิงตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์ (CNC) และการให้บริการหลังการขาย โดยมีการดำเนินงานในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์
การลงทุนของญี่ปุ่นในอาเซียน
ข้อมูลการลงทุนระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ระบุว่า ในปี 2566 ญี่ปุ่นมีการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนสูงถึง 2.41 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากญี่ปุ่นไปยังอาเซียนมีมูลค่า 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
- มาเลเซีย: ญี่ปุ่นยังคงลงทุนอย่างแข็งแกร่งในมาเลเซีย โดยมีมูลค่าประมาณ 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภาคอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
- อินโดนีเซีย: ญี่ปุ่นยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของอินโดนีเซีย โดยมีเงินลงทุนประมาณ 4.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ไทย: การลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยมีมูลค่าถึง 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการลงทุนหลักเน้นไปที่การผลิตขั้นสูง
- เวียดนาม: ญี่ปุ่นลงทุนเกือบ 6.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นกว่า 17.9% ของการลงทุนทั้งหมด เพิ่มขึ้น 37.3% จากปี 2565
- สิงคโปร์: การลงทุนของญี่ปุ่นในสิงคโปร์พุ่งสูงถึง 5.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตอกย้ำถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งทางด้านการเงินและเทคโนโลยี
นิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์ มีความเชี่ยวชาญในการปรับโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานธุรกิจของญี่ปุ่น และนำเสนอแนวทางการบูรณาการหลังการควบรวมกิจการอย่างเป็นระบบ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ธุรกิจที่มีวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจะเป็นไปอย่างราบรื่น โมเดลการลงทุนนี้จะช่วยลดเวลาและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมและซื้อกิจการให้ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันก็ลดความจำเป็นในการมีส่วนร่วมของการจัดการโดยตรงในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) สำหรับเอสเอ็มอี ด้วยประสบการณ์ทางธุรกิจมากกว่า 33 ปีและการทำธุรกรรมที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 9,000 รายการ บริษัทได้สร้างชื่อเสียงในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจที่ต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการควบรวมและซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์
โดย นิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์ มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศโดยเฉพาะในแถบภูมิภาคอาเซียน โดยให้บริการแก่หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิต โลจิสติกส์ การก่อสร้าง อาหาร ไอที และค้าปลีก ลูกค้าหลักของบริษัทประกอบด้วยธุรกิจเอสเอ็มอีในภูมิภาคและธุรกิจครอบครัว ซึ่งหลายรายกำลังเผชิญกับความท้าทายในการสืบทอดกิจการ และการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ
#นิฮอนเอ็มแอนด์เอเซ็นเตอร์ #A2GCapital #การควบรวมและซื้อกิจการ #M&A #เอสเอ็มอี #อาเซียน #การลงทุน #ธุรกิจ