สิงคโปร์ – รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศข่าวดีสำหรับประชาชน โดยเตรียมเพิ่มเงินอุดหนุนค่ารักษาพยาบาลผ่านโครงการ Community Health Assist Scheme (CHAS) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยประชาชนกว่า 1.1 ล้านคนจะได้รับวงเงินอุดหนุนที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น
- – ฮิซามิทสึ ญี่ปุ่น เปิดตัวแผ่นแปะแก้ปวด “เฟตัส ไดโคลฟีแนค” สูตรใหม่
- – ฟิลิปส์ ร่วมรณรงค์ วันหัวใจโลก ร่วมพัฒนาบุคลากรแพทย์รับมือโรคหัวใจ
นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ได้กล่าวถึงแผนการนี้ไว้ก่อนหน้านี้ในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพได้
ใครบ้างใน สิงคโปร์ มีสิทธิ์?
- ครัวเรือนที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 11,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือรายได้เฉลี่ยต่อคนไม่เกิน 3,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
- ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่มีมูลค่าประเมินรายปีไม่เกิน 21,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
วงเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่?
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง: จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้น 20 – 60 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
- ผู้สูงอายุ: จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้น 10 – 50 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี สำหรับการไปพบแพทย์ทั่วไป และการซื้อยา
เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลยังขยายเครือข่ายคลินิก ร้านขายยา และศูนย์บริการสุขภาพ ที่เข้าร่วมโครงการ CHAS ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น
คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้มีรายได้น้อย ต่างแสดงความยินดีกับมาตรการนี้ ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ อย่างไรก็ตาม บางส่วนยังคงกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ยังคงสูงอยู่ในปัจจุบัน
ขณะที่นักวิชาการด้านเศรษฐกิจมองว่า มาตรการนี้อาจช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้นได้ แต่ในระยะยาว รัฐบาลจำเป็นต้องมีนโยบายในการควบคุมค่าครองชีพ และส่งเสริมการสร้างรายได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
บทบาทของเทคโนโลยีใน สิงคโปร์
รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ และลดค่าใช้จ่าย เช่น การนำระบบ Telemedicine มาใช้ในการให้คำปรึกษาทางไกล และการใช้ Big Data ในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรค
แม้ว่าสิงคโปร์จะมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ความท้าทายในอนาคต คือการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ และการเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก รัฐบาลจึงจำเป็นต้องวางแผน และบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ระบบประกันสุขภาพมีความยั่งยืน
#สิงคโปร์ #เศรษฐกิจ #สุขภาพ #CHAS #ค่าครองชีพ #ผู้สูงอายุ #Telemedicine #BigData