กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ด้วยรายได้รวม 8,776.3 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 1,655.1 ล้านบาท และ EBITDA สูงถึง 1,030.7 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือและกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง แม้เผชิญผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่บริษัทฯ ยังคงรักษาฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง
- – SAMART กวาดรายได้ไตรมาส 3 พุ่ง 2,349 ล้านบาท!
- – ETIX Everywhere ทุ่ม 1,000 ล้าน ซื้อหุ้นคืนจาก อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม 33%
โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ แบ่งธุรกิจออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจขนส่งทางเรือ, ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง, ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น โดยในไตรมาส 3/2567 ธุรกิจขนส่งทางเรือและธุรกิจบริการนอกชายฝั่งมีสัดส่วนรายได้สูงสุด คิดเป็นร้อยละ 19 และ 60 ตามลำดับ
-
กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ ยังคงทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำนวน 306.0 ล้านบาท ด้วยอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าเฉลี่ย 13,668 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของเรือ (OPEX) ให้อยู่ในระดับต่ำที่ 4,540 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
-
กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ภายใต้บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด มีรายได้ 5,227.7 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากงานรื้อถอน งานขนส่งและติดตั้ง และงานวิศวกรรมใต้ทะเล เมอร์เมดรายงานกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำนวน 22.0 ล้านบาท และมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบสูงถึง 814.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567
ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร-อาหารและเครื่องดื่ม เติบโตต่อเนื่อง
-
กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร ภายใต้บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA รายงานรายได้ 959.1 ล้านบาท โดยมียอดขายปุ๋ยรวม 43.8 พันตัน PMTA รายงานกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 30.5 ล้านบาทในไตรมาสนี้
-
กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบด้วยธุรกิจร้านอาหาร พิซซ่า ฮัท และ ทาโก้ เบลล์ ซึ่งดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 พิซซ่า ฮัท มีสาขาจำนวน 189 สาขาทั่วประเทศ และ ทาโก้ เบลล์ มี 30 สาขาทั่วประเทศ
อัตราแลกเปลี่ยนกระทบผลกำไรสุทธิ
TTA รายงานผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจริงและยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 1,433.9 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 1,088.9 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน TTA มีผลกำไรสุทธิ 344.9 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ มีสินทรัพย์รวม 46,082.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากสิ้นปี 2566 โดยมีเงินสดภายใต้การบริหาร 9.1 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.44 เท่า สะท้อนถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง
“ตลาดเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก”
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า “ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 ดัชนีซุปราแมกซ์ (BSI) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,320 จุด เพิ่มขึ้นจาก 912 จุดเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเนื่องมาจากความต้องการเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือออกจากทะเลแดงและคลองปานามา”
“เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ภาพรวมตลาดเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก จากบทวิเคราะห์ของ Clarksons คาดการณ์การเติบโตของการค้าสินค้าแห้งเทกองที่ร้อยละ 2.7 ในหน่วยตัน หรือร้อยละ 5.2 ในหน่วยตัน-ไมล์ ในปี 2567 โดยการค้าเมล็ดธัญพืช แร่เหล็ก และสินค้าเทกองย่อยมีแนวโน้มเติบโต” นายเฉลิมชัย กล่าวเสริม
#TTA #ผลประกอบการ #ไตรมาส3 #ธุรกิจขนส่งทางเรือ #บริการนอกชายฝั่ง #เคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร #อาหารและเครื่องดื่ม #การลงทุน #อัตราแลกเปลี่ยน #ฐานะการเงิน
