ไชน่า ยูนิคอม ทุ่ม 5G-Advanced ปูพรม 300 เมืองทั่วจีน หนุน “เอเชียนเกมส์ฤดูหนาว”

ไชน่า ยูนิคอม ทุ่ม 5G-Advanced ปูพรม 300 เมืองทั่วจีน หนุน “เอเชียนเกมส์ฤดูหนาว”

ไชน่า ยูนิคอม ประกาศแผนขยายเครือข่าย 5G-Advanced ครอบคลุม 300 เมืองภายในปี 2568 พร้อมจับมือหัวเว่ยและ AIS พัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล – ไทยโดดเด่นผู้นำ 5G ในภูมิภาค เร่งเครื่องสู่ยุค 5.5G

กรุงเทพฯ, 24 กุมภาพันธ์ 2568 – วงการโทรคมนาคมจีนและทั่วโลกกำลังจับตาการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) หลังประกาศเปิดตัวแผนปฏิบัติการ 5G-Advanced อย่างเป็นทางการ ในงานแถลงข่าว “Powering the Asian Winter Games with 10 Gbps Connectivity” ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งงานนี้เป็นการรวมตัวของตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชนชั้นนำ โดยไชน่า ยูนิคอม ได้รับความไว้วางใจให้เป็นพันธมิตรทางการสื่อสารและบริการคลาวด์อย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9 ที่กำลังจะมาถึง

แผนปฏิบัติการ 5G-Advanced ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับเครือข่าย 5G ของ ไชน่า ยูนิคอม สู่เทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่าเดิม เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ

ไชน่า ยูนิคอม ปักธง 5G-Advanced ทั่วแผ่นดินมังกร

ตามแผนปฏิบัติการที่ประกาศออกมา ไชน่า ยูนิคอม ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการเครือข่าย 5G-Advanced ในพื้นที่ศูนย์กลางของ 39 เมืองหลัก และสถานที่สำคัญในกว่า 300 เมืองทั่วประเทศจีน ภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งเป็นการขยายเครือข่ายที่รวดเร็วและครอบคลุมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

นอกจากการขยายเครือข่ายแล้ว ไชน่า ยูนิคอม ยังได้เปิดตัวโปรแกรมส่งเสริมการใช้งาน 5G-Advanced ถึง 2 โปรแกรม ได้แก่ โปรแกรม “5G-Advanced Xinghuo” ที่มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G-Advanced ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และโปรแกรม “5G-Advanced Baichuan” ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี 5G-Advanced มาผสานรวมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชันใหม่ๆ

เพื่อขับเคลื่อนแผนการเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรม ไชน่า ยูนิคอม จะเป็นผู้นำในการจัดตั้งพันธมิตรด้านระบบนิเวศของอุปกรณ์ (Device Ecosystem) เพื่อสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของอุตสาหกรรม 5G-Advanced โดยรวม

ปัจจุบัน ไชน่า ยูนิคอมมีสถานีฐาน 5G ที่ใช้งานร่วมกันมากกว่า 2 ล้านแห่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของสถานีฐาน 5G ทั่วโลก และให้บริการแก่ผู้ใช้งานมากกว่า 290 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของบริษัทในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G

ผู้บริหารระดับสูงร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์

หวัง ลี่หมิน (Wang Limin) รองผู้จัดการทั่วไปของไชน่า ยูนิคอมกล่าวถึงความมุ่งมั่นของบริษัทว่า “ไชน่า ยูนิคอมได้นำเทคโนโลยี 5G-Advanced และ F5G-Advanced มาพัฒนาโซลูชันการสื่อสารความเร็วสูงระดับ 10 Gbps อัจฉริยะ และปลอดภัย เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว โดยอิงตามแผนปฏิบัติการที่เพิ่งเปิดตัว บริษัทมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรม 5G-Advanced พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศจีน”

ด้าน เฉา หมิง (Cao Ming) รองประธานบริษัทหัวเว่ย และประธานฝ่ายโซลูชันไร้สายของหัวเว่ย กล่าวเสริมว่า “นับตั้งแต่ยุค AI บนมือถือเริ่มต้นขึ้น การบูรณาการระหว่าง 5G-Advanced และ AI อย่างต่อเนื่องจะเปลี่ยนโฉมธุรกิจโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม พร้อมสร้างโอกาสมหาศาลให้แก่อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตลอดจนยกระดับประสบการณ์การใช้งาน และบริการสู่มิติใหม่”

เฉา หมิง ยังกล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง หัวเว่ย และ ไชน่า ยูนิคอมว่า “หัวเว่ยและไชน่า ยูนิคอมพร้อมร่วมมือกันพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของ 5G-Advanced และ AI” โดยหัวเว่ยจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม ผสานรวม 5G-Advanced และ AI พร้อมพัฒนาเครือข่ายสำหรับ AI (Networks for AI) และ AI สำหรับเครือข่าย (AI for Networks) ควบคู่กันไป

“เอเชียนเกมส์ฤดูหนาว” เวทีโชว์ศักยภาพ 5G-Advanced

ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9 ไชน่า ยูนิคอมได้นำเทคโนโลยี 5G-Advanced มาใช้เพื่อให้บริการเครือข่ายความเร็วสูงที่มีเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือ เพื่อรองรับการจัดการแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ

ไชน่า ยูนิคอมได้จัดทีมดูแลเครือข่ายที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 1,000 คน เพื่อให้บริการเครือข่าย 5G-Advanced ความเร็ว 10 Gbps ในสถานที่จัดการแข่งขันหลัก ซึ่งจะช่วยให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ชม ได้รับประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายที่รวดเร็วและเสถียร

นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G-Advanced ยังช่วยยกระดับระบบถ่ายทอดสดการแข่งขันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยบริการที่หลากหลาย เช่น การถ่ายทอดสดแบบหลายช่องทางด้วยความคมชัดระดับ HD สำหรับสื่อมวลชนและผู้มีอิทธิพลทางความคิด (KOLs), บริการวิดีโอความคมชัดสูงแบบออนดีมานด์ และการถ่ายทอดสดในรูปแบบ VR

ประเทศไทย: ผู้นำ 5G ในภูมิภาค และการก้าวสู่ยุค 5.5G

ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยอัตราการเติบโตของการใช้งาน 5G ที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล และเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

และด้วยการมาถึงของเทคโนโลยี 5.5G ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคแห่งการปฏิรูปทางดิจิทัลในระดับที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น โดยมีความร่วมมือระหว่าง AIS, ไชน่า ยูนิคอมและหัวเว่ย ในปี 2567 ในการพัฒนาโรงงานอัจฉริยะของ Midea ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เชื่อมต่อด้วยเครือข่าย 5G อย่างเต็มรูปแบบ เป็นตัวอย่างสำคัญของความก้าวหน้า

การนำเครือข่าย 5G เฉพาะทางมาใช้ในโรงงาน Midea ช่วยให้ทุกกระบวนการผลิตเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15%–20%

เทคโนโลยี 5.5G จะเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญในระบบการเชื่อมต่อ ด้วยความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 10 Gbps และความเร็วในการอัปโหลดไม่ต่ำกว่า 500 Mbps มอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ ขณะที่ค่าความหน่วงต่ำเพียง 1 มิลลิวินาที (1ms) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ได้อย่างเหนือชั้น

นอกจากนี้ การบริหารจัดการเครือข่ายอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสถียรภาพของระบบให้ดียิ่งขึ้น ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมดิจิทัล และเปิดโอกาสให้เกิดบริการนวัตกรรมที่ล้ำสมัย อาทิ แอปพลิเคชัน IoT อัจฉริยะ, ประสบการณ์ดิจิทัลแบบสมจริง เช่น ระบบสื่อสารอัจฉริยะระหว่างยานพาหนะ (Advanced Vehicle-to-Everything Communication) และโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ในขณะที่ประเทศไทยเร่งเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน นวัตกรรมด้านการเชื่อมต่อยังคงเป็นรากฐานสำคัญของความก้าวหน้า เทคโนโลยี 5G ที่พัฒนาไปสู่ 5.5G ไม่เพียงแค่เพิ่มความเร็วของเครือข่ายเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิตอัจฉริยะและการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ไปจนถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อรุ่นถัดไป จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมขีดความสามารถทางธุรกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนหลายล้านคน

#5GAdvanced #ChinaUnicom #Huawei #AIS #DigitalTransformation #AsianWinterGames #5G #Connectivity #AI #IoT #SmartFactory #Thailand #DigitalEconomy

Related Posts