Hatari Electric ประกาศแผนธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ มุ่งสู่การเป็นมากกว่าผู้ผลิตพัดลม จับมือ Habits Design Studio ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ เน้นดีไซน์มินิมอล ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบโจทย์ Gen Z หวังการเติบโต 2หลัก พร้อมเปิดตัว Immersive Exhibition “500 Cubic Meters of Wind” ในงาน Bangkok Design Week 2025 ชวนสัมผัสประสบการณ์ “ลม” ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า
กรุงเทพฯ – Hatari Electric (ฮาตาริ อิเลคทริค) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายพัดลมอันดับ 1 ของประเทศไทย สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกครั้ง ด้วยการประกาศแผนธุรกิจครั้งสำคัญ ที่ไม่ใช่เพียงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการปฏิวัติแนวคิดและกระบวนการทำงานทั้งหมด เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ผสานดีไซน์ เทคโนโลยี และความยั่งยืน เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ในการสัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าว คุณทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา และคุณชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด และ Macro De Carolis, Bangkok Studio Design Director, South East Asia Partner, Habits Design Studio ได้เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการขับเคลื่อน Hatari สู่ยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) พร้อมทั้งขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างแข็งแกร่ง
“ดีไซน์” พลังขับเคลื่อนหลักในการเปลี่ยนแปลง
คุณชัญญา พานิชตระกูล เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ดีไซน์” ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสวยงามภายนอก แต่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับทั้งรูปลักษณ์ (aesthetic) และฟังก์ชันการใช้งาน (functionality)
“เด็กสมัยใหม่ เวลาที่เข้าไปซื้อ ด้วยความที่ทุกวันนี้ข่าวสารทุกอย่างมันง่ายมาก เปิดโทรศัพท์มาหาได้เลย เขาอาจจะรู้จัก Hatari มาแบบนี้ แต่เขาอาจจะไม่ได้ยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ เพราะฉะนั้นการที่เรามาปรับเปลี่ยนรีแบรนด์ลุคของเราเองเนี่ย ก็ทำให้เราสามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคยุคใหม่ได้มากขึ้น”
เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ Hatari ได้ร่วมมือกับ Habits Design Studio สตูดิโอออกแบบผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกจากอิตาลี นำโดย Macro De Carolis, Bangkok Studio Design Director, South East Asia Partner เพื่อร่วมกันพัฒนาภาษาการออกแบบ (Design Language) ใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Hatari โดยมีแนวคิดหลักคือ ความเรียบง่าย (minimal) สะอาดตา (clean) แต่ยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และสามารถปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายประเภท เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ให้แข็งแกร่ง โดดเด่น และเป็นที่จดจำ
Macro De Carolis อธิบายถึงแนวคิดในการออกแบบว่า “วิสัยทัศน์ของ Hatari คือการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ไม่ใช่ผ่านทางการออกแบบกราฟิก แต่ผ่านทางผลิตภัณฑ์ ซึ่งหมายความว่าบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์สามารถปรับภาพลักษณ์ของตัวเองได้ผ่านทางการออกแบบผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเสียใหม่… เราพยายามจินตนาการว่าภาษาการออกแบบของพัดลมใหม่ควรเป็นอย่างไรสำหรับผู้คน โดยเฉพาะผู้ซื้อรายใหม่ ดังนั้นคุณจะเห็นว่ามันค่อนข้างเรียบง่าย ค่อนข้างสะอาดตา”
การร่วมมือกับ Habits Design Studio ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังรวมถึงการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา (R&D) การออกแบบทางวิศวกรรม (engineering design) ไปจนถึงการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของ Hatari ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งาน และสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค
จาก Top of Mind สู่ Top 3 ของทุก Generation
ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของ Hatari ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคพบว่า ในปี 2023 Hatari เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจอันดับต้นๆ (Top of Mind) ของ Gen Z และในปี 2024 Hatari ก็สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ใน Top 3 ของทุก Generation ได้สำเร็จ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการสื่อสารและการสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณชัญญา กล่าวถึงความสำเร็จนี้ว่า “ผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าเราอยู่แล้ว ก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แบรนด์ของเราเองเนี่ยก็มีความพัฒนาเรื่องรูปร่างหน้าตาให้มันทันสมัย เปลี่ยนไปตามกาลเวลา”
นวัตกรรมมอเตอร์: แรงลมที่เหนือกว่า ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการออกแบบที่โดดเด่นแล้ว Hatari ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของมอเตอร์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของพัดลม
คุณทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล เปิดเผยว่า Hatari ได้ร่วมมือกับทีมวิศวกรจากประเทศเยอรมนี ในการออกแบบและพัฒนามอเตอร์รุ่นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ได้มอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ให้แรงลมที่แรงและสม่ำเสมอ แต่ใช้พลังงานน้อยลง ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ทุกปีก็คือใช้ของดีขึ้น มอเตอร์ต้องดีขึ้น ต้องแรงขึ้น ต้องประหยัดประสิทธิภาพมากขึ้น คือเราไม่ได้ทิ้งพื้นฐาน (basic) เรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เราก็อยากเอานำสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภค” คุณทัศน์ลักษณ์กล่าว
ความยั่งยืนและ Customization: สร้างความผูกพันกับผู้บริโภค
Hatariตระหนักดีว่า “ความยั่งยืน” (Sustainability) ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังลงใน DNA ขององค์กร และเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
บริษัทฯ จึงได้ริเริ่มโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น การร่วมมือกับศิลปินและนักออกแบบในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้บริโภค (customization) เพื่อลดการสร้างขยะที่ไม่จำเป็น และส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ในระยะยาว สร้างความผูกพันกับแบรนด์
“เราก็มีหลาย collaboration ในการทำพวก accessory ที่ไว้ตกแต่งพัดลม” คุณชัญญากล่าว
นอกจากนี้ ฮาตาริยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ การลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต และการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
Hatari x Habits Design Studio: Immersive Exhibition ที่ BKKDW 2025
เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ฮาตาริได้ร่วมกับ Habits Design Studio สร้างสรรค์นิทรรศการ Immersive สุดล้ำ “500 Cubic Meters of Wind: The Art and Power of Design” (500 ลูกบาศก์เมตรแห่งสายลม: ศิลปะและพลังแห่งการออกแบบ) ในงาน Bangkok Design Week 2025
นิทรรศการครั้งนี้จะพาผู้เข้าชมดำดิ่งสู่โลกแห่ง “ลม” ในรูปแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ผ่านพื้นที่ขนาด 500 ตารางเมตร ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ที่ซึ่งใบหญ้าจะพลิ้วไหวไปตามแรงลมจากพัดลม Hatari ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งในด้านวิศวกรรมและสุนทรียภาพ
มากกว่าแค่ “ลม”: ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทุกประสาทสัมผัส
ฮาตาริไม่ได้มองว่าพัดลมเป็นเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความเย็น แต่เป็น “ประสบการณ์” ที่เชื่อมโยงกับประสาทสัมผัสทั้งห้า นิทรรศการ “500 Cubic Meters of Wind” จึงถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนแนวคิดนี้ โดยจะกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้าของผู้เข้าชม ได้แก่ การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การสัมผัส และรสชาติ
คุณทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล กล่าวว่า “เนื่องจากพัดลมเป็นอุปกรณ์ที่คนไทยใช้เป็นประจำทุกวัน ฮาตาริจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ต้องมีทั้งความสวยงามเหมาะกับการตั้งในบ้าน มีฟังก์ชันที่ช่วยยกระดับชีวิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ในขณะเดียวกันประสิทธิภาพการใช้งานก็ต้องดีและทนทาน”
คุณชัญญา พานิชตระกูล กล่าวเสริมว่า “นิทรรศการของฮาตาริในปีนี้ เราต้องการนำเสนอพลังของการออกแบบในรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีและศักยภาพของฮาตาริ เพื่อให้ผู้ชมได้ทำความเข้าใจถึงแนวคิดหลักของแบรนด์ที่นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฮาตาริทุกตัว”
3 โซนหลัก: Design Field, Design Library, Design Lab
นิทรรศการ “500 Cubic Meters of Wind” แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่:
-
Design Field: โซนนี้จะจำลองทัศนียภาพของทุ่งหญ้าที่ใบหญ้าพลิ้วไหวไปตามแรงลมจากพัดลมฮาตาริ ที่ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการออกแบบ การใช้งาน และธรรมชาติ ผู้ชมจะได้สัมผัสกับ “ลม” ที่มองเห็นได้ ผ่านการเคลื่อนไหวของใบหญ้า
-
Design Library: โซนนี้จัดแสดงคอลเลกชันผลิตภัณฑ์ของฮาตาริ ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังกระบวนการออกแบบ (design process) ของพัดลมแต่ละรุ่น ผู้ชมจะได้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างฮาตาริ และ Habits Design Studio ในการผสานดีไซน์เข้ากับเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีประสิทธิภาพสูง
-
Design Lab: โซนนี้จัดแสดงผลงานแนวคิด 4 ชิ้น ที่เกิดจากความร่วมมือครั้งแรกระหว่างฮาตาริ, Habits Design Studio และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอความเป็นไปได้ในอนาคตของการออกแบบและวิศวกรรมที่ล้ำสมัย รวมถึงแนวคิดพัดลมแห่งอนาคตที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนได้อย่างสูงสุด
Bangkok Design Week: เวทีสำหรับนักออกแบบไทย
การเข้าร่วมงาน Bangkok Design Week เป็นปีที่สองติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฮาตาริ ในการสนับสนุนและผลักดันอุตสาหกรรมการออกแบบของไทย
คุณทัศน์ลักษณ์กล่าวเสริมว่า “ธีมของงาน Bangkok Design Week ปีนี้ก็คือ Design Up+Rising: ออกแบบพร้อมบวก+ พูดถึงความสำคัญของการออกแบบที่นอกจากความสวยงามแล้วยังสามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาการใช้ชีวิตของคนให้ดีขึ้น ซึ่งตรงกับแนวความคิดของฮาตาริเป็นอย่างมาก”
CLMV: ตลาดศักยภาพสูง พร้อมรุกขยายฐานลูกค้า
นอกเหนือจากตลาดในประเทศไทยแล้ว ฮาตาริยังมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีความต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ
ปัจจุบันHatari มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 15% ของยอดขายทั้งหมด โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ยังคงเป็นพัดลมแบบมาตรฐาน (standard) แต่บริษัทฯ ก็ได้เริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์และฟังก์ชันที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน
เป้าหมายและอนาคตของ Hatari: ผู้นำนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ฮาตาริตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 10% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ท้าทายสำหรับแบรนด์ที่มีขนาดใหญ่ และมีการแข่งขันสูงในตลาด
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมงาน คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความแข็งแกร่งของแบรนด์ฮาตาริ พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่รวมถึงในระดับภูมิภาคและระดับโลก
“มีความฝันไว้ไกลมากเลยค่ะ ฝากติดตามค่ะ” คุณชัญญากล่าวทิ้งท้าย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานของฮาตาริ ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้การผนึกกำลังระหว่างฮาตาริ และ Habits Design Studio ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการผสานดีไซน์ นวัตกรรม และความยั่งยืน เข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ Immersive ที่จะเปิดมุมมองใหม่ของ “ลม” ให้กับทุกคน
#Hatari #HabitsDesignStudio #500CubicMetersOfWind #BKKDW2025 #BangkokDesignWeek #ImmersiveExhibition #Design #Innovation #Wind #Experience #Art #Technology #Sense #ฮาตาริ #พัดลม #ดีไซน์ #นวัตกรรม #ลม #ประสบการณ์ #ศิลปะ #เทคโนโลยี #ประสาทสัมผัส #ไปรษณีย์กลางบางรัก #GenZ #Rebrand #DesignLanguage #Minimal #Clean #Collaboration #Customization #TopofMind #เครื่องใช้ไฟฟ้า #CLMV #Sustainability #วิศวกรรม #แรงบันดาลใจ