สำนักงาน กสทช. ยกระดับมาตรการคุมเข้ม สั่งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รื้อถอนเสาสัญญาณบริเวณชายแดน จ. ตาก 24 เสา ภายใน 24 ก.พ. นี้ หวังกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์-อาชญากรรมออนไลน์ ที่ลักลอบใช้สัญญาณโทรศัพท์ข้ามแดนก่อเหตุ พร้อมออกมาตรการเข้มงวดเพิ่มเติม ทั้งลดกำลังส่ง ปรับลดความสูงเสา และไม่อนุญาตให้ตั้งเสาใหม่ในพื้นที่ชายแดน
ตาก, ประเทศไทย – ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ที่ระบาดหนัก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนชาวไทยอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นวาระสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ได้ออกมาตรการเข้มข้นเพื่อจัดการกับปัญหาการลักลอบใช้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณชายแดน ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ในการก่ออาชญากรรม
เมื่อวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กสทช. และสำนักงาน กสทช. ภาค 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปรับเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการบริเวณแนวชายแดนบ้านวังแก้ว (ตรงข้ามเมืองชเวโก๊กโก่) และบ้านวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่ กสทช. ได้เริ่มลงพื้นที่ตรวจสอบมาตั้งแต่กลางปี 2567
มาตรการขั้นเด็ดขาด: รื้อถอน-ลดกำลังส่ง-จำกัดความสูง
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ กสทช. ได้ยกระดับมาตรการให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยสั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายที่มีเสาสัญญาณตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก ในระยะไม่เกิน 50 เมตรจากเส้นแบ่งเขตแดน รวมทั้งสิ้น 24 เสา ดำเนินการรื้อถอนสายอากาศออกทั้งหมดภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบหันเสาอากาศออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากตรวจพบการฝ่าฝืน กสทช. จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตตั้งเสาทันที
นอกจากนี้ กสทช. ยังได้ออกมาตรการเพิ่มเติมสำหรับเสาสัญญาณที่ตั้งอยู่ในระยะต่าง ๆ จากแนวชายแดน ดังนี้
- ระยะไม่เกิน 200 เมตร: ให้ลดกำลังส่งและปรับลดระดับความสูงของสายอากาศลงเหลือไม่เกิน 15 เมตร
- ระยะไม่เกิน 3,500 เมตร: ให้ตั้งเสาอากาศความสูงไม่เกิน 30 เมตร
“ไม่อนุญาต” ตั้งเสาใหม่ในพื้นที่ชายแดน จ.ตาก
เพื่อเป็นการปิดช่องโหว่ไม่ให้มีการลักลอบใช้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในทางที่ผิด กสทช. ได้ประกาศ “ไม่อนุญาต” ให้มีการติดตั้งเสาสัญญาณใหม่ในเขตพื้นที่ติดชายแดน ยกเว้นกรณีที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอยู่ในเขตชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก และในกรณีดังกล่าว จะอนุญาตให้ตั้งเสาได้ในระดับความสูงไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ได้กล่าวถึงมาตรการดังกล่าวว่า “เรามั่นใจว่ามาตรการที่เราทำจะเข้มข้นขึ้นแน่ แต่เราจะไม่ทำให้ประชาชนไทยเดือดร้อน สาเหตุที่ สำนักงาน กสทช. ต้องแก้ปัญหาเรื่องคลื่นสัญญาณต่าง ๆ เพราะเราเห็นความเดือดร้อนของคนไทย จากคนไม่หวังดีนำเอาวัตถุประสงค์ที่เราอยากให้ประชาชนได้ใช้บริการทั่วถึงไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ”
นายไตรรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 3 เดือนจากนี้ สำนักงาน กสทช. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จะลงพื้นที่ตรวจสอบเสาสัญญาณบริเวณตามแนวชายแดนทั่วประเทศอย่างเข้มข้น เพื่อร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการกวาดล้างปัญหาคอลเซนเตอร์ให้ลดน้อยลง
การดำเนินการต่อเนื่องของ กสทช.
การลงพื้นที่ตรวจสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณชายแดนของสำนักงาน กสทช. ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ กสทช. ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ใช้ช่องทางสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการก่อเหตุ
มาตรการเข้มงวดของ กสทช. คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของแก๊งคอลเซนเตอร์และกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ที่อาศัยสัญญาณโทรศัพท์จากฝั่งไทยในการหลอกลวงประชาชน การรื้อถอนเสาสัญญาณ การจำกัดกำลังส่ง และการควบคุมความสูงของเสา จะทำให้การลักลอบใช้สัญญาณข้ามแดนทำได้ยากขึ้น หรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ชายแดนบ้าง แต่ กสทช. ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ประชาชนไทยต้องเดือดร้อน และจะพยายามหาสมดุลระหว่างการป้องกันอาชญากรรมและการให้บริการโทรคมนาคมที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้การดำเนินการของ กสทช. ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งคอลเซนเตอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน มาตรการที่เข้มงวดและครอบคลุม จะช่วยลดช่องโหว่ในการก่ออาชญากรรม และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้บริการโทรคมนาคม
#กสทช #คอลเซนเตอร์ #อาชญากรรมออนไลน์ #ชายแดนตาก #รื้อถอนเสาสัญญาณ #สัญญาณโทรศัพท์ #ชเวโก๊กโก่