เข็มเหล็ก ยกระดับวงเงินประกัน 200 ล้านบาท ตอกย้ำผู้นำ Green Construction

เข็มเหล็ก ยกระดับวงเงินประกัน 200 ล้านบาท ตอกย้ำผู้นำ Green Construction

บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการก่อสร้างไทย เพิ่มวงเงินประกันความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) เป็น 200 ล้านบาท สูงสุดในอุตสาหกรรม ตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ พร้อมประกาศจุดยืนผู้นำด้าน Green Construction ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

วงการก่อสร้างไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เมื่อบริษัท เข็มเหล็ก จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมเสาเข็มเหล็ก ได้ประกาศเพิ่มวงเงินประกันความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) จาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท นับเป็นวงเงินประกันที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมฐานราก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการก่อสร้างไทย และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Green Construction ที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นความแข็งแรงและปลอดภัย แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

การประกาศเพิ่มวงเงินประกันครั้งสำคัญนี้ จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ นาทอง เทอเรส บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ โดยมีผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์เข็มเหล็ก ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัย และผู้บริหารจาก Allianz Ayudhya ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมทั้งมีการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ทั้งนักวิชาการด้านต้นไม้ ผู้ใช้งานจริง และตัวแทนจากบริษัทประกันภัย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์เกี่ยวกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของงานก่อสร้างสมัยใหม่

“ฐานราก” หัวใจสำคัญของสิ่งปลูกสร้าง

คุณประเสริฐ ธรรมมนุญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด กล่าวย้ำถึงความสำคัญของฐานรากว่า “ฐานรากเป็นเพียง 5% ของการก่อสร้างทั้งหมด แต่เป็น 5% ที่สำคัญที่สุด เพราะมันต้องรองรับ 95% ของโครงสร้างที่เหลือ คุณกล้าเสี่ยงใช้ฐานรากที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่? เพราะความแข็งแรงของบ้าน อาคาร หรือโครงการของคุณ ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้”

คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้า การเพิ่มวงเงินประกันเป็น 200 ล้านบาท จึงไม่ใช่เป็นเพียงการให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำด้าน Green Construction ที่ให้ความสำคัญทั้งความปลอดภัย ความคุ้มค่า และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความมั่นใจจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้งานจริง

ภายในงานเสวนา รศ.ดร.พรเทพ เหมือนพงษ์ นักวิชาการด้านต้นไม้ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการใช้ระบบค้ำยันที่ถูกต้องสำหรับไม้ล้อม ซึ่งเป็นที่นิยมในการปลูกในประเทศไทย “พฤติกรรมการปลูกต้นไม้ของคนไทยมักนิยมปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่หรือไม้ล้อม ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าต้นไม้ที่ปลูกจากกล้า เนื่องจากไม้ล้อมไม่มีรากแก้วคอยยึดเกาะกับดิน… จากการวิจัยและพัฒนาร่วมกับเข็มเหล็ก เราพบว่า… การใช้ระบบค้ำยันที่ถูกต้องสามารถเพิ่มความแข็งแรงและอายุการใช้งานของต้นไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รศ.ดร.พรเทพ ยังกล่าวเสริมว่า “แม้แต่ในต่างประเทศก็ยังไม่มีบริษัทใดที่ให้การรับประกันสินค้าในลักษณะนี้” ซึ่งการที่เข็มเหล็กเพิ่มวงเงินประกันเป็น 200 ล้านบาท ยิ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในผลิตภัณฑ์

ด้านคุณนนท์วริศ สมฤทธิ์ฐิติกุล ตัวแทนจาก Allianz Ayudhya ได้เปิดเผยถึงกระบวนการพิจารณาการให้ประกันความรับผิดชอบผลิตภัณฑ์ว่า “การให้ประกันความรับผิดชอบผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) ไม่ได้เป็นสิ่งที่ Allianz Ayudhya จะมอบให้กับทุกบริษัทฯ แต่เป็นผลจากการตรวจสอบอย่างเข้มข้นและละเอียดถี่ถ้วน” เข็มเหล็กผ่านการตรวจสอบและมีคุณสมบัติที่ผ่านมาตรฐานทุกประการ ทั้งในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการบริหารจัดการ นอกจากนี้ “ในปีที่ผ่านมา เรายังพบว่า ไม่มีกรณีเคลมประกันจากลูกค้าของเข็มเหล็กเลย” ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานที่สูงของผลิตภัณฑ์ การติดตั้ง และการบริการ

คุณทรงยศ ปีเจริญ เจ้าของบริษัท Tree Keeper Thai ซึ่งเป็นผู้ใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์ Flexi Tree จาก KEMREX กล่าวว่า “ธุรกิจของเรามีความเกี่ยวข้องกับการดูแลต้นไม้ในพื้นที่เมือง ซึ่งความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราเลือกใช้ Flexi Tree จาก KEMREX เพราะมั่นใจในนวัตกรรมและหลักวิศวกรรมของผลิตภัณฑ์ และการที่ KEMREX มี Product Liability Insurance ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เรามากขึ้น”

มากกว่าความแข็งแรง คือความยั่งยืน

นอกเหนือจากการรับประกันความมั่นคงของผลิตภัณฑ์แล้ว เข็มเหล็กยังให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมเสาเข็มเหล็กที่ช่วยลดการขุดดิน ลดของเสียจากการก่อสร้าง และลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้โครงการก่อสร้างมีความแข็งแรงและปลอดภัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการก่อสร้างที่ยั่งยืนในอนาคต

การเพิ่มวงเงินประกันครั้งนี้ของเข็มเหล็ก จึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นความแข็งแรงและปลอดภัย แต่ยังคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เป็นการส่งสัญญาณไปยังผู้เกี่ยวข้องในวงการก่อสร้าง ทั้งนักพัฒนาโครงการ วิศวกร ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา ให้หันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

อนาคตของวงการก่อสร้างไทย

การตัดสินใจของเข็มเหล็กในการเพิ่มวงเงินประกันครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงวงการก่อสร้างไทยไปสู่ยุคใหม่ที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ท้าทายให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ต้องหันกลับมาทบทวนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่ผู้บริโภคมีความต้องการและความคาดหวังที่สูงขึ้น

การเพิ่มวงเงินประกันความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) เป็น 200 ล้านบาท ของบริษัท เข็มเหล็ก จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย และเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Green Construction ที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นความแข็งแรงและปลอดภัย แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

#เข็มเหล็ก #KEMREX #GreenConstruction #ProductLiability #เสาเข็มเหล็ก #ก่อสร้างยั่งยืน #ประกัน200ล้าน #AllianzAyudhya #ฐานรากมั่นคง #นวัตกรรมก่อสร้าง

Related Posts