กสทช. จับมือ กรมสุขภาพจิต-ราชทัณฑ์ ถกเข้มแนวทางเสนอข่าวฆ่าตัวตาย

กสทช. จับมือ กรมสุขภาพจิต-ราชทัณฑ์ ถกเข้มแนวทางเสนอข่าวฆ่าตัวตาย

กสทช. โดยคณะอนุกรรมการด้านเนื้อหาฯ ผนึกกำลังกรมสุขภาพจิตและกรมราชทัณฑ์ จัดประชุมด่วน หารือแนวทางการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอย่างมีความรับผิดชอบ หลังเกิดกรณีสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งจำลองภาพเหตุการณ์เสียชีวิตของอดีต “ผู้กำกับโจ้” ชี้ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ ย้ำสื่อต้องยึดมั่นจริยธรรมวิชาชีพและประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ประเด็นร้อนในแวดวงสื่อสารมวลชนกลับมาเป็นที่จับตาอีกครั้ง เมื่อการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงและการฆ่าตัวตายถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาถึงความเหมาะสมและผลกระทบต่อสังคมอย่างจริงจัง ล่าสุด วานนี้ (25 มีนาคม 2568) ณ โรงแรม AVANI Ratchada Bangkok คณะอนุกรรมการด้านเนื้อหารายการ การส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง และการพัฒนาองค์กรวิชาชีพในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งมี ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. เป็นประธาน ได้เป็นโต้โผหลักในการจัดประชุมหารือครั้งสำคัญ ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกรมสุขภาพจิต และกรมราชทัณฑ์

การประชุมครั้งนี้มีชนวนเหตุสำคัญมาจากการนำเสนอเนื้อหารายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ซึ่งได้มีการจำลองภาพเหตุการณ์การฆ่าตัวตาย อันสืบเนื่องมาจากข่าวการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต “ผู้กำกับโจ้” ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม การนำเสนอดังกล่าวได้จุดประกายความกังวลถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้าง ทำให้ กสทช. ในฐานะองค์กรกำกับดูแล ต้องเร่งดำเนินการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์รายดังกล่าว เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมร่วมกัน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจบานปลาย

ในที่ประชุม ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กรมสุขภาพจิต และกรมราชทัณฑ์ ได้มีการอภิปรายและแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบที่ซับซ้อนของการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายผ่านสื่อมวลชน ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือความเสี่ยงในการกระตุ้นให้เกิด “พฤติกรรมเลียนแบบ” (Copycat Suicide) โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่มีความเปราะบางทางจิตใจ หรือกำลังเผชิญกับปัญหาส่วนตัวอย่างหนักหน่วง การได้เห็นภาพหรือรายละเอียดของการฆ่าตัวตายซ้ำๆ อาจกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาถึงผลกระทบในด้านการสร้างความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวในสังคม การนำเสนอภาพหรือข้อมูลที่โจ่งแจ้งเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ชมในวงกว้าง ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือมีทัศนคติเชิงลบต่อประเด็นสุขภาพจิตและการรับมือกับปัญหาชีวิต

ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่สื่อมวลชนต้องยึดมั่นในหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพอย่างเคร่งครัด การนำเสนอข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวที่มีความละเอียดอ่อนสูงเช่นกรณีการฆ่าตัวตาย จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุด ผู้ผลิตเนื้อหาและผู้บริหารสถานีต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงสมดุลระหว่างสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน กับผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้นตามมา

กสทช.

ที่ประชุมได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการนำเสนอเนื้อหาดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การเลือกใช้ภาพ การพาดหัวข่าว การให้รายละเอียดของวิธีการ และการสัมภาษณ์แหล่งข่าว โดยมีข้อเสนอแนะว่า สื่อควรหลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพจำลองเหตุการณ์ หรือภาพที่แสดงรายละเอียดวิธีการฆ่าตัวตายอย่างชัดเจน ควรเน้นการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่น แนวทางการป้องกัน การขอความช่วยเหลือ หรือแหล่งข้อมูลที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต มากกว่าการมุ่งเน้นไปที่รายละเอียดของเหตุการณ์ที่น่าสลดใจเพียงอย่างเดียว

การพิจารณาถึง “ประโยชน์ของสาธารณะ” เป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจนำเสนอเนื้อหาประเภทนี้ สื่อมวลชนควรถามตนเองเสมอว่า การนำเสนอข่าวนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร จะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตและการฆ่าตัวตายหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสร้างความตื่นเต้นเร้าใจเพื่อเรียกความสนใจจากผู้ชมเท่านั้น ซึ่งหากเป็นอย่างหลัง ก็อาจจำเป็นต้องทบทวนหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้มีความเหมาะสมและสร้างสรรค์มากขึ้น

ในการหารือครั้งนี้ ตัวแทนจากกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบทางจิตวิทยาของการเสพสื่อที่มีเนื้อหารุนแรงหรือเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการสื่อสารที่ปลอดภัยและไม่กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ขณะที่ตัวแทนจากกรมราชทัณฑ์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนจำ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรอบด้าน

แม้ในเนื้อหาที่เปิดเผยจะไม่ได้ระบุถึงคำกล่าวของผู้บริหารโดยตรง แต่ทิศทางของการประชุมสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และหน่วยงานพันธมิตรในการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลและการนำเสนอเนื้อหาของสื่อไทยให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น โดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้เกิดการผลิตเนื้อหาสื่อที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย และคำนึงถึงสุขภาวะที่ดีของประชาชนเป็นสำคัญที่สุด

การประชุมครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับการนำเสนอข่าวสารที่ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วผ่านหลากหลายช่องทาง การสร้างความสมดุลระหว่างเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารกับความรับผิดชอบต่อสังคมจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนทุกคนต้องตระหนักและยึดถือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อให้สื่อมวลชนยังคงทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนสังคมและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

#กสทช #กรมสุขภาพจิต #กรมราชทัณฑ์ #จริยธรรมสื่อ #ข่าวฆ่าตัวตาย #สื่อรับผิดชอบต่อสังคม #สุขภาวะประชาชน #กำกับดูแลสื่อ #พิรงรองรามสูต #ผู้กำกับโจ้

Related Posts