ภาระครอบครัวท่วมท้น! ผลสำรวจชี้ หญิงไทยอันดับ 2 เอเชียแปซิฟิก เลี่ยงตรวจสุขภาพ

ภาระครอบครัวท่วมท้น! ผลสำรวจชี้ หญิงไทยอันดับ 2 เอเชียแปซิฟิก เลี่ยงตรวจสุขภาพ

เนื่องในวันสตรีสากล โรช ไดแอกโนสติกส์ เผยผลสำรวจน่ากังวล พบหญิงไทยกว่า 1 ใน 4 เลื่อนหรือเลี่ยงการรักษาพยาบาลเหตุภาระหน้าที่ดูแลครอบครัว สูงเป็นอันดับ 2 ใน 8 ประเทศเอเชียแปซิฟิก ส่งผลอัตราการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมต่ำ สวนทางความเสี่ยงโรคที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ การตรวจคัดกรองคือหัวใจสำคัญลดอัตราเสียชีวิต แนะทางเลือกตรวจ HPV ด้วยตนเอง ขณะที่โรชประกาศเดินหน้าโครงการสนับสนุนสุขภาพสตรีไทยเต็มกำลัง

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางการเฉลิมฉลองวันสตรีสากลภายใต้แนวคิด “Accelerate Action” ที่มุ่งเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมสิทธิและความเท่าเทียมของผู้หญิงทั่วโลก บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท โรช ไทยแลนด์ จำกัด ได้จัดงานเสวนาครั้งสำคัญในหัวข้อ “ร่วมส่งเสียงสตรีให้มีพลัง เพื่อผลักดันสุขภาพสตรีไทย” โดยมีเป้าหมายเพื่อจุดประกายความตระหนักรู้และผลักดันให้เกิดการลงมือปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองสุขภาพในกลุ่มสตรีไทย ซึ่งกำลังเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง

งานเสวนาดังกล่าวได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ศิริวรรณ ตั้งจิตกมล นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย และ แพทย์หญิง ศิริโสภา เตชะวัฒนวรรณา อาจารย์ประจำสาขาวิชาเคมีบำบัด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์โรคมะเร็งในสตรีไทยปัจจุบัน พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบทบาทอันหลากหลายและภาระหน้าที่ของผู้หญิงในสังคมที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจด้านสุขภาพของพวกเธอเอง

ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาและสร้างความตระหนักรู้ได้อย่างมาก มาจากข้อมูลล่าสุดของ Roche Diagnostics APAC Women Health Survey 2025 ซึ่งสำรวจผู้หญิงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อายุระหว่าง 25-50 ปี จำนวนมากกว่า 300 ราย ผลสำรวจเผยให้เห็นภาพที่น่ากังวลว่า ผู้หญิงไทยมากถึงร้อยละ 28 เคยเลื่อนหรือหลีกเลี่ยงการเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ อันเนื่องมาจากภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในครอบครัว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากประเทศอินเดีย ในกลุ่ม 8 ประเทศที่ทำการสำรวจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพของครอบครัว โดยผลสำรวจระบุว่า มากกว่าร้อยละ 80 ของผู้หญิงในประเทศตะวันตกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจหลักในเรื่องการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ ผู้หญิงยังเป็นกำลังสำคัญในระบบสาธารณสุข โดยคิดเป็นร้อยละ 66 ของผู้ดูแลผู้ป่วยในครอบครัวทั่วโลก และร้อยละ 71 ของบุคลากรทางการแพทย์ก็เป็นผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงยังเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของครอบครัวสูงถึงร้อยละ 70

อย่างไรก็ตาม ภาระหน้าที่อันหนักอึ้งเหล่านี้กลับกลายเป็นดาบสองคม ที่ทำให้ผู้หญิงไทยจำนวนไม่น้อยละเลยการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจคัดกรองโรคที่จำเป็น ข้อมูลจาก Economist Impact ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยพบว่า ร้อยละ 27.8 ของผู้หญิงไทยไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเลย และอีกร้อยละ 24.9 ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ มาจากการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน และความกังวลหรือความกลัวเกี่ยวกับผลการตรวจที่อาจจะได้รับ

นอกจากนี้ ผลสำรวจของโรชยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงไทยมองว่าการตรวจคัดกรองสุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่เร่งด่วน ทำให้พวกเธอพลาดโอกาสทองในการป้องกันและตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้อย่างมีนัยสำคัญ

สถานการณ์ดังกล่าวน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่า มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม จัดอยู่ในห้าอันดับแรกของโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมากที่สุดในปัจจุบัน แม้ว่าการตรวจคัดกรองจะมีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แต่ผู้หญิงจำนวนมากยังคงลังเล หรือประสบปัญหาในการเข้าถึงบริการตรวจสุขภาพเหล่านี้

ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ศิริวรรณ ตั้งจิตกมล นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ได้ให้ข้อมูลที่ตอกย้ำถึงความรุนแรงของปัญหา โดยระบุว่า “มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย และน่าเศร้าที่มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งชนิดนี้ถึงวันละ 13 คน ข้อมูลที่น่าตกใจคือ ประมาณร้อยละ 85 ของผู้หญิงที่ยังมีเพศสัมพันธ์เคยติดเชื้อ HPV (Human Papillomavirus) และที่สำคัญคือ มากกว่าร้อยละ 99 ของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะจะช่วยให้เราสามารถตรวจพบความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก หรือระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในระยะลุกลามและการเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

เลี่ยงตรวจสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังคงสะท้อนความท้าทายในการเข้าถึงการตรวจคัดกรอง โดยพบว่ามีผู้หญิงเพียงร้อยละ 55 ที่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ขณะที่อีกร้อยละ 12 มีแผนจะไปตรวจ แต่ที่น่ากังวลที่สุดคือ กลุ่มผู้หญิงอีกถึงร้อยละ 33 ที่ระบุว่าไม่ต้องการเข้ารับการตรวจคัดกรองเลย โดยให้เหตุผลหลักคือ กลัวเจ็บและรู้สึกอาย

เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคและความกังวลเหล่านี้ ปัจจุบันจึงมีนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกและลดความเขินอาย นั่นคือ การเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ HPV ด้วยตนเอง (Self-Sampling HPV Test) ซึ่งผลสำรวจพบว่า ผู้หญิงไทยถึงร้อยละ 65 เห็นด้วยว่าการตรวจคัดกรองด้วยตนเองนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ สอดคล้องกับผลการศึกษาวิจัยทั้งในระดับนานาชาติและการศึกษาโดยสมาคมมะเร็งนรีเวชไทยเอง ที่ยืนยันว่า การเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ HPV ด้วยตนเองนั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการเก็บโดยบุคลากรทางการแพทย์ ข้อมูลนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นใจและส่งเสริมให้ผู้หญิงหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ด้วยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองได้สะดวกยิ่งขึ้น

ในส่วนของมะเร็งเต้านม แพทย์หญิง ศิริโสภา เตชะวัฒนวรรณา ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองว่า “การตรวจคัดกรองสุขภาพสตรีมีความสำคัญอย่างยิ่ง สถาบันมะเร็งแห่งชาติได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรทำการตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน ส่วนในกลุ่มอายุ 40-69 ปี นอกจากการตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอแล้ว ควรเข้ารับการตรวจโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมทุก 1 ปี”

แพทย์หญิง ศิริโสภายังได้กล่าวถึงแนวโน้มที่น่ากังวลว่า “ผู้หญิงไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพอย่างแท้จริง มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.9 และน่าเศร้าใจที่อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งชนิดนี้จะเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 25.9 เมื่อเทียบกับปี 2020 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มทั่วโลก ที่คาดว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 เป็นจำนวนมากกว่า 2.7 ล้านคน และมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.2 เป็นจำนวนถึง 857,319 คนในช่วงเวลาเดียวกัน”

ข้อมูลจากการสำรวจของโรชยังเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมการแสวงหาข้อมูลด้านสุขภาพของผู้หญิงไทย โดยส่วนใหญ่ หรือประมาณร้อยละ 52 ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และร้อยละ 48 หาข้อมูลจากโรงพยาบาล ซึ่งสะท้อนบทบาทที่สำคัญของแหล่งข้อมูลออนไลน์ในการให้ความรู้ด้านสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังคงเน้นย้ำว่า หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติใดๆ ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อรับการวินิจฉัยและการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด

นายมิไฮ อิริเมสซู กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุปถึงเหตุผลหลักที่ผู้หญิงไทยลังเลที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งจากผลสำรวจว่า “เราพบว่าเหตุผลหลักที่ผู้หญิงไทยไม่ไปตรวจคัดกรองมะเร็ง เพราะพวกเธอคิดว่าตนเองไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร (34%) ตามมาด้วยความกลัวเจ็บ (28%) และความกลัวผลการตรวจ (26%) ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองและประโยชน์ของการตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่มนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด”

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับสุขภาพและความเท่าเทียมด้านสุขภาพของสตรีไทย โรชได้ดำเนินโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการตรวจคัดกรองและสร้างความตระหนักรู้ อาทิ โครงการช่วยเหลือด้านสุขภาพสำหรับสตรีไทย ที่จัดกิจกรรมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเคลื่อนที่ ให้ความรู้แก่พนักงานหญิงในโรงงานอุตสาหกรรม และส่งเสริมการเข้าถึงชุดเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ HPV ด้วยตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล นอกจากนี้ ยังมีโครงการสัปดาห์ตรวจสุขภาพสตรีแห่งชาติ ซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 60 องค์กรทั่วประเทศ จัดกิจกรรมโรดโชว์ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและให้ความรู้แก่ผู้หญิงในวงกว้าง รวมถึงโครงการ Cancer Care Connect ที่ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งทุกชนิด ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย

โรชยังได้ตั้งเป้าหมายสำคัญสำหรับปีนี้ว่า ศูนย์ความเป็นเลิศ (Centers of Excellence) ในโรงพยาบาลต่างๆ ที่ร่วมมือกับโรช จะสามารถนำเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและแนวทางการรักษาแบบใหม่มาใช้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีการตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งในระยะเริ่มต้นเพิ่มขึ้นถึง 10%

นายมิไฮ อิริเมสซู ได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “โรชให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้และการเข้าถึงการตรวจคัดกรองด้านสุขภาพมาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงแค่ในช่วงเดือนแห่งวันสตรีสากลเท่านั้น แต่เรามุ่งหวังที่จะเห็นคนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีในทุกๆ วัน เพราะสุขภาพที่ดีของผู้หญิง ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อตัวพวกเธอเอง แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคนในครอบครัวและสังคมโดยรวม”

สถานการณ์ที่ผู้หญิงไทยจำนวนมากต้องแบกรับภาระหน้าที่ในครอบครัวจนละเลยสุขภาพของตนเองนั้น นับเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันให้ความสนใจและหาทางแก้ไข การสร้างความรู้ความเข้าใจ การปรับทัศนคติเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน การเพิ่มทางเลือกในการตรวจคัดกรองที่สะดวกและเข้าถึงง่าย รวมถึงการสนับสนุนจากคนในครอบครัวและสังคม จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้ผู้หญิงไทยสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

#สุขภาพผู้หญิง #มะเร็งปากมดลูก #มะเร็งเต้านม #ตรวจคัดกรองมะเร็ง #HPV #SelfSampling #วันสตรีสากล #โรช #RocheDiagnostics #RocheThailand #ภาระครอบครัว #สุขภาพสตรีไทย #เศรษฐกิจสุขภาพ #ข่าวเศรษฐกิจ #AccelerateAction

Related Posts