ไปรษณีย์ไทย ตอกย้ำบทบาท “มากกว่าการส่ง” ร่วมมือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ พร้อมเดินหน้าโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568 ใช้เครือข่ายบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,000 คน ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลภาคสนามทั่วประเทศ หวังเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อการวางแผนพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยถึงความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างไปรษณีย์ไทย, สศช. และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2568 ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะรับไม้ต่อในช่วงดำเนินการระยะที่ 2 (Offline) ระหว่างวันที่ 20 เมษายน ถึง กรฏาคม 2568 หลังจากที่ได้ดำเนินการระยะที่ 1 (Online) เสร็จสิ้นไปแล้ว
ดร.ดนันท์ กล่าวย้ำถึงจุดแข็ง 2 ประการของไปรษณีย์ไทย คือ การเข้าถึงทุกพื้นที่ และ ความน่าเชื่อถือ (Trust Network) ซึ่งทำให้ไปรษณีย์ไทยเป็นหน่วยงานเดียวที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสำรวจข้อมูลภาคสนาม หลังจากที่ประชาชนได้ลงทะเบียนออนไลน์ในเฟสแรก
บทบาท “ฮีโร่” ของไปรษณีย์ไทยในโครงการสำมะโนฯ
ไปรษณีย์ไทยรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการหลัก (Enumerator) ในการสำรวจข้อมูลครัวเรือนภาคสนาม (Offline) โดยมี “ฮีโร่” คือบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,000 คน กระจายกำลังลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลจากครัวเรือนตามแบบสอบถามที่ออกแบบโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ
- การสำรวจภาคสนาม: บุรุษไปรษณีย์จะลงพื้นที่ทำการสัมภาษณ์ครัวเรือนแบบเห็นหน้า (Face-to-face) และบันทึกข้อมูลลงในระบบที่สำนักงานสถิติแห่งชาติออกแบบไว้
- จำนวนพนักงานและพื้นที่ครอบคลุม: ปัจจุบันไปรษณีย์ไทย มีบุรุษไปรษณีย์ประมาณ 25,000 คน กระจายกำลังลงพื้นที่สำรวจทั่วประเทศ โดยจำนวนพนักงานในแต่ละพื้นที่จะใช้ในโครงการนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และความหนาแน่นของประชากรที่ได้รับมอบหมายในการสำรวจ
- ระยะเวลา: การสำรวจภาคสนามเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ไปจนถึงช่วงเดือนกรกฎาคม 2568
- จำนวนครัวเรือนที่ต้องสำรวจ: ยังไม่สามารถระบุจำนวนครัวเรือนที่ต้องสำรวจได้อย่างชัดเจน เนื่องจากต้องรอผลสรุปจากการลงทะเบียนออนไลน์ในเฟสแรกก่อน
- ผลตอบแทน: เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน บุรุษไปรษณีย์จะได้รับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับการทำงานนอกเหนือจากความรับผิดชอบปกติในการสำรวจข้อมูลครั้งนี้
“เราใช้จุดแข็งของไปรษณีย์ที่เข้าได้ทุกพื้นที่และใช้ในเรื่องของจุดแข็งที่เราเป็นทรัสเตอร์เน็ตเวิร์ค ทำให้เราสามารถเข้าถึงประชากรได้ทุกคน” ดร.ดนันท์ กล่าวเสริมถึงความพร้อมของบุรุษไปรษณีย์
กระบวนการสำรวจ: รวดเร็ว แม่นยำ และน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้การสัมภาษณ์แต่ละครัวเรือนจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 10 นาที โดยบุรุษไปรษณีย์จะมุ่งเน้นการเก็บข้อมูลที่สำคัญตามระดับความสำคัญ (Level) ที่กำหนดไว้ ไม่จำเป็นต้องได้ข้อมูลครบ 100% แต่ต้องครอบคลุมประเด็นหลักที่จำเป็นต่อการนำไปวิเคราะห์และวางแผน
ดร.ดนันท์ เน้นย้ำถึงความร่วมมือที่ดีจากประชาชนส่วนใหญ่ในการตอบคำถาม เนื่องจากบุรุษไปรษณีย์เป็นบุคคลที่คุ้นเคยและได้รับความไว้วางใจจากคนในชุมชน
ความคาดหวังและผลประโยชน์: มากกว่าแค่ตัวเลข
ดร.ดนันท์ มองว่า โครงการนี้เป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ของไปรษณีย์ไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้ภาครัฐมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัย สำหรับใช้ในการตัดสินใจและกำหนดนโยบายต่างๆ ที่จะส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ
“เรามองว่ามันเป็นการซัพพอร์ตนโยบายรัฐ แล้วก็ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในการจัดเก็บข้อมูลให้กับภาครัฐ เพื่อจะนำไปทำเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อประเทศ เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจต่างๆ ของภาครัฐให้ดีขึ้น” ดร.ดนันท์ กล่าว
นอกจากนี้ การเข้าร่วมโครงการนี้ยังเป็นการตอกย้ำความน่าเชื่อถือของไปรษณีย์ไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจและบริการอื่นๆ ในอนาคต
ความท้าทายและการบริหารจัดการ: มืออาชีพและมีประสิทธิภาพ
ดร.ดนันท์ ยอมรับว่ามีความท้าทายในการบริหารจัดการบุรุษไปรษณีย์จำนวนมาก และการรักษาคุณภาพของข้อมูล แต่ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมความพร้อมและมีมาตรการในการควบคุมคุณภาพ (QC) อย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ โดยจะมีทีม QC เข้าไปตรวจสอบงานก่อนส่งมอบให้กับ สศช. และสำนักงานสถิติแห่งชาติ
Postman Cloud: ต่อยอดจุดแข็ง สร้างรายได้ และเพิ่มประสิทธิภาพ
นอกเหนือจากโครงการสำมะโนฯ ดร.ดนันท์ ยังกล่าวถึงบริการ “Postman Cloud” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการที่ไปรษณีย์ไทยพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านเครือข่ายและความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากบริการนี้ไว้ที่ 40-50 ล้านบาทในปีนี้
“Postman Cloud เป็นการใช้ทรัพยากร จัดการส่งของให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากจุดแข็งของไปรษณีย์ไทย เนื่องจากเรารู้จักพื้นที่รู้จักคน ซึ่งช่วยสร้างคุณค่าอย่างอื่นได้อีกเยอะ” ดร.ดนันท์ อธิบาย โดย Postman Cloud จะไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการส่งของ แต่จะใช้ประโยชน์จากเวลาว่างของบุรุษไปรษณีย์ในวันที่ปริมาณงานส่งของน้อย มาช่วยจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร.ดนันท์ ย้ำว่า การให้บริการแก่หน่วยงานรัฐในครั้งนี้ เป็นการ “ขอความร่วมมือ” และไม่ได้หวังผลกำไรในเชิงพาณิชย์ แต่เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประเทศโดยรวม เหมือนกับการที่ไปรษณีย์ไทยเคยให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตน้ำท่วม
ความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทย, สศช. และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2567 เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไปรษณีย์ไทยในการเป็น “มากกว่าผู้ให้บริการส่งของ” แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ด้วยการใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม
#ไปรษณีย์ไทย #สศช #สำนักงานสถิติแห่งชาติ #สำมะโนประชากรและเคหะ2567 #PostmanCloud #พัฒนาประเทศ #ThailandPost #DataCollection #NationalDevelopment #บุรุษไปรษณีย์