เช็กไทม์ไลน์ สงครามราคา EV จีนเดือด! มอเตอร์โชว์ 2025 หั่นราคาแหลก

เช็กไทม์ไลน์ สงครามราคา EV จีนเดือด! มอเตอร์โชว์ 2025 หั่นราคาแหลก

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (Motor Show 2025) เปิดฉากขึ้นท่ามกลางความคาดหวังและจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในสมรภูมิรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กลายเป็นสมรภูมิเดือดของการแข่งขันด้านราคาอย่างแท้จริง ปีนี้ดูเหมือนว่าแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนได้ยกระดับการต่อสู้ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดฉากสงครามราคาที่ดุเดือดและรวดเร็วราวกับโดมิโน่ถล่ม เริ่มต้นจากการจุดชนวนของ AION ตามด้วยการเปิดราคาของ Deepal ก่อนที่ BYD จะทิ้งระเบิดลูกใหญ่ในช่วงค่ำ ส่งผลให้ MG ซึ่งเปิดตัวรถใหม่ไปก่อนหน้า ต้องตัดสินใจประกาศลดราคาครั้งใหญ่ในวันถัดมา เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและบรรลุเป้าหมายยอดขายในมหกรรมยานยนต์ครั้งสำคัญนี้

นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนักในประวัติศาสตร์ของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่การแข่งขันด้านราคาระหว่างค่ายรถยนต์จะทวีความรุนแรงและตอบโต้กันอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดประเทศไทย จากข้อมูลตารางเวลาการแถลงข่าวสำหรับสื่อมวลชนในวันที่ 24 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นวันก่อนหน้าวันเปิดงานสำหรับบุคคลทั่วไป ได้เผยให้เห็นลำดับการนำเสนอของแต่ละแบรนด์ แต่เหตุการณ์สำคัญที่จุดชนวนสงครามราคาดูเหมือนจะเกิดขึ้นตามลำดับการประกาศราคาที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งงาน

แม้ว่าตามกำหนดการแถลงข่าว MG จะมีช่วงเวลานำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงสาย (10:20-10:35 น.) แต่ดูเหมือนว่าการประกาศราคาที่แท้จริงจะยังไม่เกิดขึ้นทั้งหมดในทันที ท่ามกลางการจับตาของคู่แข่งและสื่อมวลชน จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงเมื่อค่าย AION ซึ่งมีกำหนดการแถลงข่าวในเวลา 11:00-11:15 น. ได้สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศราคาเริ่มต้นของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ AION UT ที่ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ โดยระบุราคาเริ่มต้นเพียง 49x,xxx บาท (จากราคาคาดการณ์ปกติ 51x,xxx บาท) การเปิดราคาในระดับที่ท้าทายเพดานราคาเดิมของตลาดเช่นนี้ เปรียบเสมือนการจุดชนวนสงครามราคาอย่างเป็นทางการ และส่งสัญญาณเตือนไปยังคู่แข่งทุกรายว่า AION พร้อมที่จะลงมาเล่นในตลาด EV ระดับเริ่มต้นอย่างเต็มกำลัง

มอเตอร์โชว์

ถัดมาในช่วงเย็น เวลาประมาณ 17:10 น. ตามภาพหน้าจอการแถลงข่าว เป็นคิวของแบรนด์ DEEPAL ในเครือ CHANGAN ซึ่งได้ทำการเปิดตัวและประกาศราคา Deepal S05 รถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอย การประกาศราคาครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงให้กับการแข่งขัน โดย Deepal S05 รุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) เปิดราคามา 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Lite ราคา 799,000 บาท, รุ่น Plus ราคา 849,000 บาท และรุ่น Max ราคา 899,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศราคาคาดการณ์ (Estimated Price) สำหรับรุ่น S05 REEV ซึ่งเป็นเวอร์ชัน Range Extender EV ที่มีเครื่องยนต์ปั่นไฟ เพิ่มความสะดวกในการเดินทางไกล โดยรุ่น Plus REEV คาดการณ์ราคาที่ 949,000 บาท และรุ่น Max REEV คาดการณ์ราคาที่ 999,000 บาท การเปิดตัว Deepal S05 พร้อมตัวเลือกทั้ง BEV และ REEV ในระดับราคาที่แข่งขันได้นี้ ถือเป็นการเสริมทัพผู้เล่นในตลาด SUV ไฟฟ้า และเพิ่มแรงกดดันให้กับคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนที่การแถลงข่าวรอบค่ำจะเริ่มต้นขึ้น

มอเตอร์โชว์

แต่ไคลแม็กซ์สำคัญของวันดูเหมือนจะเกิดขึ้นในช่วงค่ำ เมื่อถึงกำหนดการแถลงข่าวของ BYD ในเวลา 20:20-20:35 น. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาท้ายๆ ของวันแถลงข่าว BYD ภายใต้การบริหารของ RÊVER Automotive ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ด้วยการประกาศลดราคาพิเศษแบบ “ล้างบาง” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น BYD DOLPHIN ที่รุ่น Standard Range ลดเหลือ 499,900 บาท และรุ่น Extended Range เหลือ 599,900 บาท, BYD ATTO 3 รุ่น Premium (Standard Range ปัจจุบัน) ลดเหลือ 699,900 บาท,

BYD SEALION 7 ลดราคาเริ่มต้นเหลือ 1,149,900 บาท (รุ่น Premium) และ 1,249,900 บาท (รุ่น AWD Performance) รวมถึงการเปิดตัวพร้อมราคาพิเศษของ BYD SEALION 6 DM-i ซึ่งเป็นรถ PHEV เริ่มต้นที่ 899,900 บาท การประกาศลดราคาพร้อมกันหลายรุ่นและครอบคลุมหลายเซกเมนต์ของ BYD ในช่วงค่ำ เปรียบเสมือนการ “ตอกฝาโลง” การแข่งขันด้านราคาในงานนี้ และสร้างมาตรฐานราคาใหม่ที่กดดันให้คู่แข่งต้องปรับตัวตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

มอเตอร์โชว์

ผลกระทบจากการประกาศราคาของ BYD เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในวันถัดมา (วันที่ 25 มีนาคม) ค่าย MG ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง NEW MG S5 EV และ MG IM6 แต่ยังไม่ได้ประกาศราคาโปรโมชันที่ชัดเจน ได้ตัดสินใจประกาศลดราคาครั้งใหญ่เพื่อตอบโต้และรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดย NEW MG4 ถูกปรับลดราคาลงมาเหลือเริ่มต้นเพียง 559,900 บาท (รุ่น Standard Range D) และ 664,900 บาท (รุ่น Long Range D) ขณะที่ NEW MG S5 EV ก็มาพร้อมราคาพิเศษช่วงเปิดตัวเริ่มต้น 719,900 บาท (รุ่น D) แ

ละ MG IM6 มีราคาพิเศษเริ่มต้น 1,299,900 บาท (รุ่น Premium) และ 1,699,900 บาท (รุ่น Performance) การตัดสินใจลดราคาตามของ MG แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่บีบคั้น หากค่ายใดไม่เข้าร่วมวงหั่นราคาในครั้งนี้ ก็อาจเสี่ยงต่อการพลาดเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้สำหรับงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งถือเป็นอีเวนต์สำคัญในการกระตุ้นยอดขายประจำปี

นอกเหนือจากแบรนด์หลักที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดแล้ว ผู้เล่นรายอื่นๆ ก็ต่างนำเสนอโปรโมชันที่น่าสนใจไม่แพ้กัน GWM หรือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมีช่วงเวลาแถลงข่าวเวลา 10:40-10:55 น. ได้เข้าร่วมสร้างสีสันและทางเลือกให้กับผู้บริโภค แม้จะไม่ได้ลงมาเล่นในสงครามราคา EV ดุเดือดเท่าแบรนด์อื่น แต่ก็มีการปรับราคา ORA GOOD CAT Pro ลงมาอยู่ที่ 599,000 บาท ทำให้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม EV ราคาเข้าถึงง่าย นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันสำหรับ Haval Jolion HEV ด้วยส่วนลดเงินสด 90,000 บาท เหลือเริ่มต้น 709,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1

มอเตอร์โชว์

ยิ่งไปกว่านั้น GWM ยังได้เปิดตัวรถยนต์ SUV สไตล์ออฟโรดที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) รุ่นใหม่อย่าง GWM TANK 300 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบ โดยเปิดราคามา 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.4T PRO 2WD ราคา 999,000 บาท, รุ่น 2.4T ULTRA 2WD ราคา 1,149,000 บาท และรุ่น 2.4T ULTRA 4WD ราคา 1,249,000 บาท การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้ง BEV, HEV และ ICE พร้อมราคาที่แข่งขันได้ แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ของ GWM ในการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ค่าย NETA ก็มี C5 EV (NETA V-II) ในราคาพิเศษ 679,000 บาท พร้อมข้อเสนออื่นๆ ส่วน Geely นำเสนอ EX5 พร้อมทางเลือกโปรโมชันที่เน้นความคุ้มค่าระยะยาวหรือการเทรดอิน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมการแข่งขันที่ร้อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

วิเคราะห์เบื้องหลังสงครามราคา และผลกระทบต่อผู้บริโภค

สงครามราคา EV ที่ปะทุขึ้นในงานมอเตอร์โชว์ 2025 สะท้อนปัจจัยหลายประการ ทั้งการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการมีผู้เล่นจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่ต้องการส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็ว, ความเป็นไปได้ในการเร่งระบายสต็อกสินค้าก่อนการมาถึงของรุ่นใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี, การปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่อาจเกิดขึ้น, และความสำคัญของงานมอเตอร์โชว์ในฐานะเวทีหลักในการสร้างยอดขายและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ

สำหรับผู้บริโภค นี่คือ “นาทีทอง” อย่างแท้จริง โอกาสในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมเปิดกว้างขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ ผู้ซื้อยังคงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ควรศึกษาข้อมูลจำเพาะของรถแต่ละรุ่นเปรียบเทียบกัน ทั้งเรื่องแบตเตอรี่, ระยะทางวิ่งจริง (ซึ่งอาจต่างจากมาตรฐาน NEDC ที่ระบุ), สมรรถนะ, ออปชัน, ระบบความปลอดภัย, บริการหลังการขาย, เครือข่ายศูนย์บริการและสถานีชาร์จ รวมถึงตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขของโปรโมชันให้ชัดเจน เช่น ระยะเวลาการส่งมอบรถ, อัตราดอกเบี้ย (หากจัดไฟแนนซ์), และเงื่อนไขการรับประกันต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มค่าสูงสุดและรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว

บทสรุปของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ในส่วนของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า คงหนีไม่พ้นภาพของการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งถูกจุดชนวนโดย AION และเสริมแรงกดดันโดย Deepal ก่อนจะถูกยกระดับโดย BYD จนทำให้ MG และค่ายอื่นๆ ต้องปรับกลยุทธ์ตาม สถานการณ์เช่นนี้แม้จะสร้างแรงกดดันให้กับผู้ประกอบการ แต่ก็ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้บริโภค และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตลาด EV ของไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ซึ่งน่าจับตามองต่อไปว่าทิศทางของราคาและโปรโมชันจะเป็นอย่างไรหลังจบงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้

#MotorShow2025 #BIMS46 #สงครามราคาEV #รถยนต์ไฟฟ้า #EVPriceWar #AION #BYD #MG #Deepal #รถยนต์ไฟฟ้าจีน #โปรโมชันรถยนต์ #ข่าวเศรษฐกิจ #ตลาดรถยนต์ไทย #DominoEffect

Related Posts