บราเดอร์ โชว์ฟอร์มแกร่ง! ปิดปี 67 โตสวนกระแสเกือบ 2 เท่า

บราเดอร์ โชว์ฟอร์มแกร่ง! ปิดปี 67 โตสวนกระแสเกือบ 2 เท่า

Brother ประเทศไทย เผยผลประกอบการปีงบประมาณ 2567 เติบโตแข็งแกร่ง 9% สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดไอทีไทยเกือบ 2 เท่า สร้างสถิติยอดขายรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Transforming for a Sustainable Future” ตั้งเป้าโตต่อเนื่อง 7% มุ่งพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการครบวงจรทั้ง B2C และ B2B ครอบคลุม 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมยกระดับบริการด้วยกลยุทธ์ “CoSE” และสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำปรัชญา “At your side” และความเป็นผู้นำที่เติบโตอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวนและความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Brother ผู้นำด้านโซลูชันและเทคโนโลยีการพิมพ์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น กลับสามารถประกาศความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับผลประกอบการปีงบประมาณ 2567 (เมษายน 2567 – มีนาคม 2568) โดยสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่นทะลุเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมทำลายสถิติยอดขายภาพรวมสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตอกย้ำศักยภาพและความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “Brother ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับดิจิทัลและมีแนวโน้มลดการใช้กระดาษลง รวมถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งข้อมูลจาก Gartner ระบุว่าภาพรวมตลาดไอทีในประเทศไทยปี 2567 มีการเติบโตอยู่ที่ 5.8% สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ท่ามกลางบริบทดังกล่าว Brother กลับสามารถสร้างการเติบโตของภาพรวมธุรกิจได้สูงถึง 9% ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเกือบ 2 เท่า และยังสามารถทำสถิติยอดขายรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้สำเร็จ”

ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ Brother ในการปรับตัวและขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้ง 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ กลุ่มเครื่องพิมพ์ (Printing Business), เครื่องสแกน (Scanner), เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch), จักรปักและจักรเย็บผ้า (Embroidery & Sewing Machine), เครื่องเสียงและอุปกรณ์ต่อพ่วงภายใต้แบรนด์ BMB, เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล (Digital Garment Printer), และเครื่องพิมพ์ฉลากดิจิทัลระบบ UV อิงค์เจ็ทความละเอียดสูงภายใต้แบรนด์ Domino สำหรับอุตสาหกรรม

สานต่อความสำเร็จ สู่ปี 2568 ด้วยแนวคิด “Transforming for a Sustainable Future”

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีงบประมาณ 2568 (เมษายน 2568 – มีนาคม 2569) Brother ได้กำหนดแนวคิดหลักคือ “Transforming for a Sustainable Future” โดยมุ่งเน้นการปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับทิศทางของตลาดและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายธีรวุธ กล่าวเสริมว่า “ในปี 2568 เราจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์ทันสมัย ผสานเข้ากับเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว พร้อมกันนี้ เรายังคงเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) ด้วยการนำเสนอโซลูชันและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจที่เราดำเนินการ เพื่อสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ตลอดจนส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ตามปรัชญา ‘At your side’ ที่เป็นหัวใจสำคัญของ Brother เสมอมา”

บราเดอร์

กลยุทธ์ “Brother All” รุกตลาดครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

ด้านนายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์สำหรับปี 2568 ว่า “ปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างและทำให้ Brother มีความมั่นใจในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือความหลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เรามี ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการได้ครอบคลุมหลายภาคธุรกิจ ตั้งแต่ผู้ใช้งานตามบ้าน (B2C) ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดต่างๆ (B2B) แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่เรายังคงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากกำลังซื้อของภาคประชาชนและภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME), ภาคค้าปลีกค้าส่ง, ธุรกิจเพื่อสุขภาพและโรงพยาบาล, สถาบันการศึกษา และภาคการผลิต รวมถึงโอกาสจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ”

ภายใต้กลยุทธ์หลัก “Brother All” ในปีนี้ บริษัทจึงวางแผนเดินเกมรุกด้วยการนำเสนอไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรยิ่งขึ้นในทั้ง 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มอย่างแท้จริง โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 7% ภายในปีงบประมาณ 2568

พร้อมกันนี้ Brother ยังคงมุ่งมั่นตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในหลากหลายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ได้แก่:

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ (Printing Business):
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ (ส่วนแบ่งตลาด 45%)
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันขาวดำ (ส่วนแบ่งตลาด 55%)
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี (ส่วนแบ่งตลาด 51%)
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันสี (ส่วนแบ่งตลาด 45%)
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท A3 ทั่วโลกต่อเนื่องยาวนานถึง 17 ปีซ้อน
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจภาคขยาย (Business Expansion):
    • อันดับ 1 จักรปักสำหรับกลุ่มธุรกิจ SME
    • อันดับ 1 จักรเย็บผ้าสำหรับใช้งานภายในบ้าน
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์ฉลาก P-touch
    • อันดับ 1 เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล Direct-to-Garment (DTG) รุ่น GTX

ยกระดับกลยุทธ์การขายและการสื่อสาร สู่ Omni Channel เต็มรูปแบบ

ในด้านกลยุทธ์การขายและการสื่อสารการตลาด Brother ให้ความสำคัญกับการสร้าง Channel Synergy โดยเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ทุกตัวเข้ากับทุกช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอยู่ และกำลังเดินหน้าพัฒนาไปสู่การสร้างประสบการณ์แบบ Omni Channel อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางออฟไลน์หรือออนไลน์

นายกิตติพงศ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “เราจะใช้การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, Instagram, YouTube, TikTok, Line Official Account (Line OA) และ X (Twitter เดิม) ควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ทั้ง SEO (Search Engine Optimization) และ SEM (Search Engine Marketing) รวมถึง Lead Generation เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม

นอกจากนี้ ยังมีการใช้สื่อ Out Of Home (OOH) และ Digital Signage เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และที่สำคัญ ในปี 2568 นี้ เราเตรียมที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์ม E-Commerce ของ Brother เอง รวมถึง Loyalty Program เพื่อสร้างความสัมพันธ์และนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แนวทางการดำเนินงาน ‘At your side’ ของ Brother อย่างแท้จริง”

“เราไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่อยู่เคียงข้างลูกค้า แต่เรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าไปพร้อมกับทุกธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายกิตติพงศ์ กล่าวเสริมอย่างหนักแน่น

บราเดอร์

“CoSE” กลยุทธ์ใหม่ยกระดับบริการสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน

หัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งที่ Brother ให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือการบริการลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า นางสาวรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในการพัฒนางานบริการในช่วงที่ผ่านมาว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2565 – 2567) Brother ประสบความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากกลยุทธ์ 4C (Customer, Channel, Convenience and Community) ที่เน้นความสะดวกสบายของลูกค้า การขยายช่องทางบริการ และการสร้างชุมชนผู้ใช้งานที่แข็งแกร่ง พัฒนามาสู่กลยุทธ์ S5 (Standard, Satisfaction, Superior Services, System and Sustainability) ที่ยกระดับมาตรฐานบริการให้ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเพื่อความพึงพอใจสูงสุด”

“และต่อยอดด้วยกลยุทธ์ 5 Keywords (Standardization, Specialization, Digitization, Modernization and Sustainability) ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานบริการ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ เพื่อให้การบริการสะดวกรวดเร็วและทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ล้วนส่งผลให้ Brother สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า เพิ่มความภักดี และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง”

เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งด้านการบริการ Brother ได้วางกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (ปี 2568 – 2570) ภายใต้ชื่อ “CoSE” หรือ Center of Service Excellence ซึ่งมุ่งเน้นความเป็นเลิศใน 4 ด้านหลัก ได้แก่:

  1. การรับประกันคุณภาพการบริการ (Service Quality Assurance): ยกระดับมาตรฐานการบริการสู่ระดับสากลด้วย ISO 18295-1 พร้อมการตรวจสอบคุณภาพบริการครบทุกมิติ (BSQA) ครอบคลุมทั้งระยะเวลาการซ่อม วิธีการตอบคำถาม คุณสมบัติของผู้ให้บริการ การบริการทั้งในและนอกสถานที่ ตลอดจนทักษะความเชี่ยวชาญในการให้บริการอย่างมืออาชีพ
  2. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม (Digitalization & Innovation): เสริมสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลสำหรับพนักงานและลูกค้า รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI และ Chatbot มาบูรณาการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการที่ครอบคลุมและทันสมัยยิ่งขึ้น
  3. การสร้างความผูกพันกับลูกค้า (Customer Engagement): มุ่งเน้นการดำเนินโปรแกรมเชิงรุกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า เพิ่มระดับความภักดี และรักษาฐานลูกค้าเดิมให้แข็งแกร่ง
  4. การสร้างความยั่งยืน (Sustainability): ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจและการขยายขอบเขตการบริการ ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

บราเดอร์

มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ สู่การเติบโตร่วมกับสังคมอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการมุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจและบริการแล้ว Brother ยังคงยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility – CSR) อย่างต่อเนื่อง นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและการบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Brother มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้ขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลายรูปแบบภายใต้แนวคิด ‘At Your Side’ และวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม ‘Brother Group Environmental Vision 2050’ “

“ในปีนี้ เรายังคงเดินหน้าสานต่อกิจกรรม CSR อย่างต่อเนื่อง โดยครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ของสหประชาชาติ ภายใต้ 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมปลูกป่าชายเลน (Mangrove Reforestation) ซึ่งเราตั้งเป้าหมายอัตราการรอดของต้นกล้าที่ปลูกไว้มากกว่า 80% และกิจกรรมวิ่งการกุศล ‘Brother Beat Cancer Run’ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 แล้ว

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการรักษา และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ซึ่งกิจกรรมนี้ยังสอดคล้องกับพันธกิจระดับโลกของ Brother ประเทศญี่ปุ่นในโครงการ Golden Ring Project ที่มุ่งส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ”

นายพรภัค เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ในปีที่ผ่านมา กิจกรรม Brother Beat Cancer Run สามารถระดมทุนได้สูงถึง 16.3 ล้านบาท และสามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งได้มากกว่า 975 ราย นอกจากนี้ เรายังมีโครงการอื่นๆ เช่น โครงการ ‘No Ocean Waste’ เพื่อลดขยะในทะเล และการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบ และพร้อมที่จะเติบโตร่วมกับสังคมไทยอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ที่ใส่ใจทั้งลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง”

#BrotherThailand #BrotherAtYourSide #TransformingForASustainableFuture #BrotherPrinters #BrotherCSR #เทคโนโลยีการพิมพ์ #เครื่องพิมพ์ #สแกนเนอร์ #จักรปัก #เครื่องพิมพ์ฉลาก #ธุรกิจยั่งยืน #ข่าวเศรษฐกิจ

Related Posts