สันกำแพงจับมือ CPF เดินหน้า “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” สู้ฝุ่น PM2.5

สันกำแพงจับมือ CPF เดินหน้า “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” สู้ฝุ่น PM2.5

อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผนึกกำลัง CPF จัดโครงการ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 ชวนประชาชนเปลี่ยนเศษใบไม้เป็นไข่ไก่สด ลดการเผาในที่โล่ง แก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน พร้อมสร้างประโยชน์ด้านเศรษฐกิจครัวเรือนและสิ่งแวดล้อม คาดสิ้นสุดโครงการ พ.ค. 68 รวบรวมใบไม้ได้กว่า 20 ตัน หนุนผลิตปุ๋ยหมักคุณภาพ ลดต้นทุนเกษตรกร

เชียงใหม่, ประเทศไทย – ท่ามกลางความพยายามในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่มักทวีความรุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยในช่วงฤดูแล้ง โครงการริเริ่มเชิงสร้างสรรค์ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กำลังได้รับความสนใจและสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง กับโครงการ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” ซึ่งดำเนินมาถึงสัปดาห์ที่ 9 แล้ว โดยเป็นการผนึกกำลังระหว่างที่ว่าการอำเภอสันกำแพง และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารของไทย

โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อนโยบายสำคัญของ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่มุ่งมั่นป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการรณรงค์ให้ประชาชน “หยุดเผาทุกชนิดในที่โล่ง” เพื่อคืนอากาศสะอาดให้กับชาวเชียงใหม่ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” จึงเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนโดยตรง ด้วยการเชิญชวนให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสันกำแพงรวบรวมเศษใบไม้แห้งจากครัวเรือน ชุมชน หรือพื้นที่เกษตรของตนเอง มาแลกเปลี่ยนเป็นไข่ไก่สดคุณภาพจาก CP เพื่อนำไปบริโภคในครัวเรือน

กลไกจูงใจที่เรียบง่ายแต่ได้ผล:

หัวใจของโครงการอยู่ที่ความเรียบง่ายและเข้าถึงได้ ทุกวันพฤหัสบดี ณ ที่ว่าการอำเภอสันกำแพง จะเปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านนำเศษใบไม้แห้งมาแลกไข่ไก่ โดยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่จูงใจคือ เศษใบไม้แห้ง 1 กิโลกรัม สามารถแลกไข่ไก่ได้ 1 ฟอง และเพื่อเป็นการกระจายประโยชน์อย่างทั่วถึง แต่ละคนสามารถนำใบไม้มาแลกได้สูงสุดถึง 30 กิโลกรัมต่อครั้ง หรือเทียบเท่ากับไข่ไก่ 1 แผง (30 ฟอง) นับเป็นการสร้างแรงจูงใจที่จับต้องได้ ช่วยให้ชาวบ้านเห็นคุณค่าของเศษใบไม้ที่เคยมองว่าเป็นขยะ หรืออาจถูกนำไปกำจัดด้วยวิธีการเผา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมลพิษ

ภายใต้สโลแกนที่สื่อสารอย่างชัดเจนว่า “สันกําแพงเราไม่เผา เอาเศษใบไม้มาแลกไข่ หมอกควัน ไฟป่าห่างไกล หายใจ โล่งกันทุกคน” โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ ลดความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าและการสะสมของฝุ่นควัน แต่ยังสร้างประโยชน์หลายมิติ ทั้งการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนจากการได้รับไข่ไก่เป็นอาหาร การส่งเสริมให้บ้านเรือนและชุมชนมีความสะอาดเรียบร้อยมากขึ้น และที่สำคัญคือการปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาส่วนรวม

ผลตอบรับเชิงบวกและการต่อยอดสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน:

ตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา โครงการ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากชาวสันกำแพง มีการนำเศษใบไม้แห้งมาแลกเปลี่ยนแล้วรวมกว่า 13,000 กิโลกรัม ซึ่งหมายถึงไข่ไก่จำนวน 13,000 ฟอง ได้ถูกกระจายไปยังครัวเรือนต่างๆ ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพได้เป็นอย่างดี เสียงสะท้อนจากชาวบ้านผู้เข้าร่วมโครงการเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จในระดับชุมชนได้เป็นอย่างดี

นางสุนีย์ ศรีอร หนึ่งในชาวบ้านที่นำใบไม้ 10 กิโลกรัม มาแลกไข่ไก่ เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ก็เก็บใบไม้กองไว้ที่บ้านและที่สวน บางทีก็ทำเป็นปุ๋ยหมักเล็กๆ น้อยๆ แต่พอมีโครงการนี้ก็เข้าร่วมในทันที เพราะเห็นประโยชน์ชัดเจน ทั้งเรื่องการจัดการกับเศษใบไม้โดยไม่ต้องเผา ทำให้บ้านสะอาดขึ้น และยังได้ไข่ไก่ไปทำกับข้าวกินในครอบครัวด้วย”

ตลาดนัดใบไม้แลกไข่

เช่นเดียวกับ นายอุดม คีรีอร ที่นำใบไม้มาแลก 13 กิโลกรัม เสริมว่า “ไข่ไก่ที่ได้มานำไปทำอาหารทานได้หลายมื้อ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ดีมาก พอเราไม่ต้องซื้อไข่ ก็ทำให้ครอบครัวประหยัดเงินส่วนนี้ไปได้ โครงการแบบนี้ถือว่าช่วยเหลือชาวบ้านได้ดีจริงๆ ครับ”

ความสำเร็จไม่ได้หยุดอยู่แค่การแลกเปลี่ยน แต่โครงการนี้ยังสร้างกลไก เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในระดับชุมชนได้อย่างน่าสนใจ โดยเศษใบไม้แห้งที่รวบรวมได้ทั้งหมด จะถูกส่งต่อให้กับเทศบาลตำบลต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อนำไปเข้ากระบวนการผลิต ปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี จากนั้น ปุ๋ยหมักที่ได้จะถูกนำไปแจกจ่ายให้เกษตรกรในพื้นที่นำไปใช้บำรุงดินในแปลงเกษตร แทนการใช้ปุ๋ยเคมี นับเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ และฟื้นฟูคุณภาพดินในระยะยาว เศษใบไม้ที่เคยมองว่าเป็นปัญหา จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า สร้างประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนและภาคการเกษตรได้อย่างครบวงจร

เดินหน้าต่อเนื่อง ตั้งเป้า 2 หมื่นกิโลกรัม:

ด้วยผลตอบรับที่ดีและการเล็งเห็นประโยชน์ที่ยั่งยืน โครงการ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” จะยังคงดำเนินต่อไปทุกวันพฤหัสบดี จนถึง วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดช่วงเวลาที่จังหวัดเชียงใหม่ประกาศห้ามเผาในที่โล่งแจ้งประจำปี รวมระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสิ้น 15 สัปดาห์ คาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการ จะสามารถรวบรวมเศษใบไม้แห้งได้มากถึง 20,000 กิโลกรัม หรือ 20 ตัน ซึ่งจะถูกนำไปแปรสภาพเป็นปุ๋ยหมักคุณภาพสูงต่อไป

ความสำเร็จของโครงการ “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” ที่อำเภอสันกำแพง สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ (อำเภอสันกำแพง, เทศบาลตำบล) ภาคเอกชน (CPF) และภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนอย่าง PM2.5 โดยใช้วิธีการที่สร้างสรรค์ เข้าใจง่าย และก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย

โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเผาในที่โล่ง ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาหมอกควัน แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็น “ของเสีย” ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน ลดภาระค่าใช้จ่าย และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน

โมเดล “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” จึงเป็นตัวอย่างที่ทรงคุณค่าและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่นๆ ที่กำลังเผชิญปัญหาคล้ายคลึงกัน ในการนำไปปรับใช้หรือพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจในระดับฐานราก การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนนั้น ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้จากบ้านและชุมชนของตนเอง ดังที่ชาวสันกำแพงได้แสดงให้เห็นแล้วผ่านโครงการนี้

#ตลาดนัดใบไม้แลกไข่ #สันกำแพง #CPF #ลดฝุ่นPM25 #เชียงใหม่สู้ฝุ่น #ไม่เผา #เศรษฐกิจหมุนเวียน #สิ่งแวดล้อม #CSR #CircularEconomy #SanKamphaeng #ChiangMai #เกษตรอินทรีย์ #ปุ๋ยหมัก #ความรับผิดชอบต่อสังคม

Related Posts