Dcash แพลตฟอร์มฟินเทคสัญชาติไทย เปิดตัว “แพลตฟอร์ม ขายฝากอัจฉริยะ” ชูโรงด้วยระบบประมูลดอกเบี้ยย้อนกลับ (Reverse Auction) ครั้งแรกในไทย พร้อมเทคโนโลยี AI ประเมินราคาที่ดิน หวังแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อของผู้มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และปลดล็อกโอกาสการลงทุนที่มั่นคง ผลตอบแทนน่าพอใจ ท่ามกลางวิกฤตหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงและทางเลือกการลงทุนที่จำกัด
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านเครดิตที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ข้อมูลชี้ว่าประชาชนกว่า 80% ที่ต้องการเงินทุน ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงินในระบบได้ตามปกติ สถานการณ์นี้ได้ผลักดันให้ปัญหา “หนี้นอกระบบ” ทวีความรุนแรงขึ้น กลายเป็นวาระเร่งด่วนที่กัดกินเศรษฐกิจฐานราก ผู้ปล่อยกู้นอกระบบหลายรายเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่สูงลิ่วถึง 1% ต่อวัน หรือคิดเป็นมากกว่า 300% ต่อปี
ซึ่งไม่เพียงสร้างภาระทางการเงินมหาศาลให้กับลูกหนี้ แต่ยังเสี่ยงต่อการลุกลามเป็นปัญหาเศรษฐกิจในวงกว้าง ซ้ำเติมสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยที่สะสมอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว โดยข้อมูลล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย ณ เดือนกันยายน 2567 ระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทยทะยานแตะ 16.34 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 89% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ในขณะที่ฝั่งผู้กู้เผชิญความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ฝั่งนักลงทุนเองก็ประสบกับข้อจำกัดในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมเช่นกัน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำมาก เพียงประมาณ 0.5% ต่อปี ซึ่งสวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้มูลค่าที่แท้จริงของเงินลงทุนลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุนส่วนใหญ่ยังขาดช่องทางหรือแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้เข้าถึงโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนน่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และมีหลักประกันที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ยังไม่มีกลไกตลาดใดที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเสนออัตราผลตอบแทนเพื่อแข่งขันกันได้อย่างเสรีและโปร่งใส
จากช่องว่างและความท้าทายดังกล่าว Dcash แพลตฟอร์มเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) สัญชาติไทย ได้ก้าวเข้ามาเพื่อนำเสนอทางออก ด้วยการพัฒนา “แพลตฟอร์ม ขายฝากอัจฉริยะ” ที่มุ่งพลิกโฉมวิธีการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการลงทุนในประเทศไทย Dcash ทำหน้าที่เป็นตัวกลางดิจิทัล เชื่อมโยงผู้ที่ต้องการเงินทุนโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน (ผู้ขายฝาก) เข้ากับกลุ่มนักลงทุนรายย่อย (ผู้รับซื้อฝาก) ผ่านรูปแบบธุรกรรม “การขายฝาก” ซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย
คุณศรัณย์ วิชยาภัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Dcash จำกัด กล่าวถึงเจตนารมณ์ในการพัฒนาแพลตฟอร์มว่า “Dcash ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อแข่งขันกับใคร แต่เราออกแบบมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มีที่ดินแต่ขาดเงินทุนหมุนเวียน และนักลงทุนที่ต้องการทางเลือกการลงทุนที่มีความมั่นคงสูง” หัวใจสำคัญคือการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่เอื้อประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย ผู้ที่มีที่ดินแต่ติดขัดเรื่องสภาพคล่องสามารถนำทรัพย์สินมาเปลี่ยนเป็นเงินทุนได้อย่างเป็นธรรม ขณะที่นักลงทุนก็สามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีหลักประกันมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดกว่าทางเลือกเดิมๆ
จุดเด่นที่สร้างความแตกต่างและถือเป็นนวัตกรรมสำคัญของ Dcash คือระบบ “การประมูลย้อนกลับ” หรือ “Reverse Auction” ระบบนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนหลายรายสามารถเข้ามายื่นข้อเสนออัตราดอกเบี้ยเพื่อแข่งขันกันในแต่ละคำขอขายฝาก (ดีล) ได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์ม ผู้ที่ต้องการเงินทุน (ผู้ขายฝาก) จะสามารถมองเห็นข้อเสนอทั้งหมดได้แบบเรียลไทม์ และมีอิสระในการพิจารณาเลือกข้อเสนอที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดและเงื่อนไขที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดได้ด้วยตนเอง นับเป็นครั้งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีการนำกลไกการแข่งขันด้านราคาดอกเบี้ยมาใช้ในธุรกรรมขายฝาก สร้างความโปร่งใส ยุติธรรม และเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับผู้กู้ได้อย่างแท้จริง โดยระบบ Reverse Auction นี้มีกำหนดเปิดใช้งานจริงในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ซึ่งคาดว่าจะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เปิดกว้างและมีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์
นอกเหนือจากระบบประมูลดอกเบี้ยแล้ว Dcash ยังนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยยกระดับกระบวนการประเมินมูลค่าที่ดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกรรมขายฝาก ปัจจุบัน ระบบประเมินด้วย AI กำลังอยู่ในช่วงทดสอบการใช้งาน และมีแผนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ การใช้ AI จะช่วยให้การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์และประเมินมูลค่าทรัพย์สินหลักประกันมีความรวดเร็ว แม่นยำ และเป็นกลางมากยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและระยะเวลาที่ใช้ในการรอคอยผลการประเมินแบบเดิมๆ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Dcash มีความโดดเด่นคือ การเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่พัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งรวบรวมบริการที่จำเป็นทั้งหมดไว้ในที่เดียวอย่างครบวงจร ผู้ใช้งานทั้งฝั่งผู้ขายฝากและนักลงทุนสามารถดำเนินธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่การลงทะเบียนยืนยันตัวตน การยื่นเอกสารประกอบคำขอ การตรวจสอบรายละเอียดทรัพย์สินและเอกสารสิทธิ์ ไปจนถึงการติดตามสถานะการชำระเงินค่างวดและดอกเบี้ย ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันเดียว สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่น ปลอดภัย และเข้าถึงได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา
เพื่อรองรับความต้องการสภาพคล่องในตลาดอสังหาริมทรัพย์ Dcash ได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยมีบริษัทประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ได้มาตรฐานเข้าร่วมเป็นพันธมิตรมากกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมีความสามารถในการระดมทุนจากนักลงทุนได้สูงสุดกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเม็ดเงินเพียงพอสำหรับตอบสนองความต้องการของผู้ขายฝากได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
Dcash ยึดมั่นในหลักการดำเนินงานที่โปร่งใสและปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ใช้งานทุกฝ่าย แพลตฟอร์มไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแอบแฝงใดๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้อย่างชัดเจน สัญญาขายฝากทุกฉบับถูกร่างขึ้นอย่างรัดกุมและดำเนินการภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702 ว่าด้วยเรื่องขายฝาก ที่สำคัญ ผู้ขายฝากยังคงสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่นำมาเป็นหลักประกันได้ตามปกติในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อยู่อาศัย หรือใช้ประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น การทำเกษตรกรรม ตราบเท่าที่ยังปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญา
ในด้านความปลอดภัยของการลงทุน Dcash ได้ออกแบบกลไก ‘Zero Risk’ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน โดยทุกการลงทุนหรือการรับซื้อฝากจะได้รับการค้ำประกันด้วยที่ดินซึ่งมีมูลค่าประเมินสูงกว่าวงเงินที่อนุมัติ (เช่น 120% ของวงเงินกู้ตามที่ระบุในเอกสาร) พร้อมทั้งมีระบบตรวจสอบกรรมสิทธิ์อย่างละเอียดก่อนการปล่อยเงินกู้ มีระบบการจ่ายเงินอัตโนมัติเพื่อลดความผิดพลาด และนำเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) มาใช้ และอาจพิจารณาใช้เทคโนโลยี Blockchain ในอนาคต เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลและสร้างความเชื่อมั่นสูงสุด
สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า Dcash ตั้งเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้ใช้งานทั้งในส่วนของผู้ขายฝากและนักลงทุนให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันชั้นนำของประเทศ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพของเทคโนโลยีที่จะเข้ามาปลดล็อกข้อจำกัดเดิมๆ และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนที่เป็นธรรมสำหรับนักลงทุน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้ที่ต้องการ
Dcash ประเมินว่า ตลาดสินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันในประเทศไทยนั้นมีขนาดใหญ่และมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยมีมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านล้านบาท สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่าความมั่งคั่งกว่า 80% ของคนไทยอยู่ในรูปของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมสร้างการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างยั่งยืน ลดการพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ
“เรามุ่งมั่นพัฒนา Dcash ให้เป็นระบบนิเวศทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่เชื่อมโยงศักยภาพของอสังหาริมทรัพย์เข้ากับความต้องการเงินทุนของคนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และปลอดภัย” คุณศรัณย์ วิชยาภัย กล่าวสรุป
การเปิดตัวของ Dcash และแพลตฟอร์มขายฝากอัจฉริยะ ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดสินเชื่อของไทย พร้อมทั้งเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้กับทั้งผู้ที่ต้องการเงินทุนและนักลงทุน นับเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและส่งเสริมความมั่นคงทางการเงินให้กับคนไทยในระยะยาว
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Dcash และบริการต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.dcash.co
#Dcash #แพลตฟอร์มขายฝาก #ฟินเทค #Fintech #สินเชื่อ #ขายฝาก #อสังหาริมทรัพย์ #การลงทุน #ReverseAuction #ประมูลย้อนกลับ #AI #ปัญญาประดิษฐ์ #หนี้ครัวเรือน #การเงิน #เศรษฐกิจไทย #นวัตกรรม #สตาร์ทอัพ #StartupTH