กระทรวงดิจิทัลฯ เดินหน้าเต็มสูบแก้ปัญหาภัยออนไลน์ ยกระดับศูนย์ AOC 1441 เป็น “ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.)” ตาม พ.ร.ก. ใหม่ บูรณาการข้อมูลหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพิ่มประสิทธิภาพรับแจ้งเหตุ ระงับธุรกรรม วิเคราะห์ข้อมูล ดำเนินคดี รวดเร็ว ครบวงจร พร้อมเผยผลงานจับกุมคดีออนไลน์พุ่ง ปิดเว็บผิดกฎหมายเพียบ เร่งแก้ปัญหาบัญชีม้า ซิมม้า และเตรียมคืนเงินผู้เสียหาย
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จัดการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี เป็นประธาน การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการต่อสู้กับภัยอาชญากรรมออนไลน์ที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือทางกฎหมายที่เข้มแข็งขึ้น จากการที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2568 ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งกำหนดมาตรการรองรับเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ยกระดับ AOC 1441 สู่ “ศปอท.” ศูนย์กลางบูรณาการข้อมูล
ประเด็นสำคัญที่สุดของการประชุมครั้งนี้ คือการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ตามมาตรา 8/5 แห่ง พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นการยกระดับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) หรือศูนย์ AOC 1441 เดิม ให้มีขีดความสามารถและบทบาทหน้าที่ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ศปอท. จะทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ซึ่งการแจ้งเหตุผ่าน ศปอท. จะถือเป็นการร้องทุกข์โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ศปอท. ยังมีอำนาจในการสั่งระงับธุรกรรมทางการเงินที่ต้องสงสัย ประสานงานเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชื่อมโยงเครือข่ายอาชญากรรม และดำเนินการทางคดีได้อย่างรวดเร็ว ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้การดำเนินงานของ ศปอท. เป็นไปอย่างราบรื่น ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการดำเนินงานหลายด้าน ทั้งการปรับโครงสร้างศูนย์ AOC 1441 เดิม และการเพิ่มบุคลากรให้เพียงพอและเหมาะสม การจัดทำระบบงานที่รองรับการดำเนินการตามมาตราต่างๆ ของ พ.ร.ก. ฉบับใหม่ รวมถึงการกำหนดแนวทางการประสานงานภายในระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่จะส่งผู้แทนเข้ามาร่วมปฏิบัติงาน ณ ศปอท. โดยคณะกรรมการฯ ได้มีมติแต่งตั้ง นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอี และเลขานุการคณะกรรมการฯ ทำหน้าที่หัวหน้า ศปอท. ตามมาตรา 8/7 แห่ง พ.ร.ก.ฯ
โชว์ผลงานปราบปรามเข้มข้น สถิติจับกุมพุ่ง
ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานและมาตรการเร่งด่วนในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 8 เรื่องสำคัญ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยเฉพาะด้านการปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นในการทำงาน ดังนี้
- การจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรวมทุกประเภท: ในเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนการจับกุมสูงถึง 4,907 ราย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 96.67 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรายเดือนในช่วงมกราคม-มีนาคม 2567 ซึ่งอยู่ที่ 2,495 คนต่อเดือน
- การจับกุมคดีพนันออนไลน์: เดือนมีนาคม 2568 จับกุมได้ 1,933 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.67 เทียบกับค่าเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือนในช่วงเดียวกันของปีก่อน
- การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตาม พ.ร.ก.ฯ: มีการจับกุมถึง 710 รายในเดือนมีนาคม 2568 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 195.83 เทียบกับค่าเฉลี่ย 240 คนต่อเดือนในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง
เดินหน้าปิดกั้นเว็บผิดกฎหมายต่อเนื่อง
นอกจากการจับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว การปิดกั้นช่องทางออนไลน์ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงก็เป็นมาตรการสำคัญ โดยในช่วงปีงบประมาณ 2568 (ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568) กระทรวงดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้วจำนวนมาก แบ่งเป็น:
- เว็บไซต์พนันออนไลน์: 43,195 URLs
- เว็บไซต์หลอกลวงออนไลน์: 1,164 URLs
- เว็บไซต์ผิดกฎหมายอื่นๆ: 34,041 URLs
รวมทั้งสิ้นมีการปิดกั้นไปแล้ว 78,400 URLs นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอปิดกั้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงออนไลน์ ทั้งที่มีคำสั่งศาล (8,692 URLs) และไม่มีคำสั่งศาล (25,643 URLs เฉพาะในส่วนของกระทรวงดีอี)
มาตรการเข้มแก้ปัญหาบัญชีม้า-ซิมม้า และการโอนเงิน
ปัญหาบัญชีม้าและซิมม้าเป็นหัวใจสำคัญของวงจรอาชญากรรมออนไลน์ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิด โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 31 มีนาคม 2568 ดังนี้
- การระงับบัญชี: ศูนย์ AOC ได้ดำเนินการระงับบัญชีต้องสงสัย (บัญชีม้า) ชั่วคราวไปแล้วจำนวน 359,763 บัญชี ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทำการอายัดบัญชีไปแล้วถึง 753,373 บัญชี (ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2568)
- การจัดการซิมการ์ดและสัญญาณโทรคมนาคม: สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดหลายด้าน เช่น การระงับ Wi-Fi Calling ระบบเติมเงินชั่วคราว, การตรวจสอบการลงทะเบียนซิมการ์ดอย่างเข้มข้น, การตัดสายสัญญาณที่ลักลอบใช้งานตามแนวชายแดน, การระงับบริการกับคู่สัญญาที่พบการกระทำผิด, การจัดการ SMS โดยลงทะเบียน Sender Name และตรวจสอบลิงก์ก่อนส่ง, การกำหนดให้ลงทะเบียน SIM box, การห้ามลูกตู้รับลงทะเบียนเปิดใช้งานซิมการ์ด และการกำกับดูแลการใช้งาน e-SIM โดยห้ามจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์
- การระงับ IP Address: กสทช. ได้แจ้งผู้ให้บริการระงับการให้บริการแก่ผู้ใช้ IP Address ที่มีการกระทำความผิดตามคำสั่งของ ตร. เป็นการชั่วคราว รวม 465 IP Address จากผู้รับใบอนุญาต 10 ราย
- มาตรการ Mobile Cleansing: เป็นมาตรการตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างบัญชีธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียน เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าของบัญชีและเจ้าของซิมเป็นบุคคลคนเดียวกัน โดยธนาคารได้ส่งข้อมูลผู้ใช้ Mobile Banking ล่าสุด (ถึง 30 เม.ย. 68) ให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (Operator) ตรวจสอบผ่านระบบของ ปปง. และจะเริ่มดำเนินการตรวจสอบผลและระงับการใช้บริการ Mobile Banking ที่ไม่ถูกต้องในเดือนมิถุนายน 2568
ปปง. เตรียมพร้อมคืนเงินผู้เสียหาย-รับมือธุรกรรมออนไลน์ผิดกฎหมาย
เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉบับใหม่เป็นไปอย่างสมบูรณ์ และสามารถเยียวยาผู้เสียหายได้อย่างรวดเร็ว ปปง. กำลังเตรียมการในหลายด้าน ได้แก่:
- การยกร่างกฎกระทรวงเพื่อคืนเงินแก่ผู้เสียหาย: ปปง. เตรียมจัดตั้งคณะทำงานเพื่อยกร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการคืนเงินแก่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 8/1 และ 8/2 ของ พ.ร.ก.ฯ
- การจัดตั้งกองเพิ่มเติม: เพื่อรองรับภารกิจในการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเงินค้างอยู่ในบัญชีที่ถูกระงับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์กว่า 80,000 บัญชี คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 22 เม.ย. 68) การจัดตั้งกองเพิ่มเติมนี้จะช่วยเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบและคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายตามนโยบายรัฐบาล
ดีอี คุมเข้มแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ
พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่มีผลบังคับใช้ ยังส่งผลต่อการกำกับดูแลแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ โดยล่าสุด Binance Global ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ได้ประกาศยุติการให้บริการซื้อขายแบบ P2P (Peer-to-Peer) สำหรับสกุลเงินบาท เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายไทย ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเป็นผู้ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อส่งให้กระทรวงดีอีพิจารณาดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงต่อไป
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวทิ้งท้ายว่า “ภายหลังที่ พ.ร.ก. ทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้ กระทรวง ดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งรัดการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฯ โดยการบูรณาการยกระดับ ศูนย์ AOC 1441 เป็นศูนย์ “ศปอท.” ซึ่งจะครอบคลุมในการดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมออนไลน์ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเตรียมออกกฎกระทรวง เพื่อการบังคับใช้ในการกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ บัญชีม้าและซิมม้า และเร่งการอายัดบัญชีธนาคาร ระงับบัญชีม้า ตัดเส้นทางการเงิน การปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งการเยียวยาผู้เสียหาย”
กระทรวงดีอีเน้นย้ำว่า หากประชาชนตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงออนไลน์ สามารถโทรแจ้งเพื่อดำเนินการระงับหรืออายัดบัญชีได้ทันทีที่ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 หรือหากต้องการแจ้งเบาะแสข่าวปลอมและอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือผ่านช่องทาง Line ID: @antifakenewscenter และเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
#ศปอท #AOC1441 #กระทรวงดีอี #ปราบโจรออนไลน์ #อาชญากรรมออนไลน์ #บัญชีม้า #ซิมม้า #แก้ปัญหาภัยออนไลน์ #พรกปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี #ดีอี #ประเสริฐจันทรรวงทอง #รัฐบาลดิจิทัล #ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ #หลอกลวงออนไลน์ #พนันออนไลน์