ท่ามกลางกระแสความนิยมอาหารญี่ปุ่นที่เติบโตไม่หยุดในประเทศไทย ‘KANORI Hand roll bar’ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดแฮนด์โรลเจ้าแรกในไทย ด้วยระยะเวลาเพียงปีครึ่ง สามารถขยายสาขาไปแล้วถึง 4 แห่ง กวาดยอดขายกว่า 300 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายเติบโตอีก 20% ในปีหน้า ชูจุดเด่นวัตถุดิบพรีเมียม ความสดใหม่ และประสบการณ์กึ่งโอมากาเสะในราคาเข้าถึงง่าย เตรียมเปิดสาขาเพิ่มในไตรมาส 3 ปีนี้
จากแนวโน้มดังกล่าว สามพี่น้องตระกูลกอบกุลสุวรรณ นำโดย คุณปณิธาน, คุณปณิธิ และคุณปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ได้เล็งเห็นช่องว่างและโอกาสในการนำเสนอประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย นั่นคือ “แฮนด์โรล” หรือที่รู้จักในชื่อดั้งเดิมว่า “เทมากิซูชิ” พวกเขาตัดสินใจนำเสนออาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชันนี้ เปิดตัวร้าน ‘KANORI Hand roll bar’ ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2566 สร้างความแตกต่างและความตื่นเต้นให้กับวงการอาหารญี่ปุ่นในบ้านเรา
‘KANORI Hand roll bar’ โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์การทำแฮนด์โรลสดใหม่คำต่อคำจากหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์คล้ายคลึงกับการทานโอมากาเสะ แต่มาในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและรวดเร็วกว่า ทางร้านให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมียม ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าโดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรสชาติที่ดีที่สุด ทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการรับประทานอาหาร
คุณปณิธิ กอบกุลสุวรรณ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นและความท้าทายในการบุกเบิกตลาดแฮนด์โรลในประเทศไทยว่า “จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจเปิดร้านในวันที่คนไทยยังไม่รู้จัก และยังใหม่มากสำหรับในประเทศไทย ซึ่งถือว่าท้าทายมากเพราะเราต้อง Educate ลูกค้าเกี่ยวกับแฮนด์โรลด้วย รวมถึงมองเห็นเทรนด์การกินอาหารญี่ปุ่นในไทยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้องการวางจุดยืนเป็น ‘First Mover’ ในตลาด อีกทั้งครอบครัวมีความชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว หลังจากทดลอง R&D และมีการพัฒนาสูตรข้าวปั้น รวมถึงกรรมวิธีการทำเรื่อยมา จึงตัดสินใจประเดิมสาขาแรกบริเวณซอยสุขุมวิท 49”
ความกล้าที่จะแตกต่างและการมองเห็นโอกาสก่อนใคร ทำให้KANORI Hand roll bar ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดตั้งแต่เปิดให้บริการสาขาแรก ด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง KANORIสามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วถึง 4 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขาสุขุมวิท 49, สาขาเอ็มควอเทียร์, สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และสาขาล่าสุดที่ไอคอนสยาม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการสร้างแบรนด์และครองใจผู้บริโภค
“เราอยากทำสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน วิธีคิดและการทำงานจึงไม่ได้ใช้เพียงตำราเดิม แต่ยังล้อไปกับโลกปัจจุบันเพื่อให้ได้วิธีคิดที่สดใหม่มากขึ้น พูดได้ว่า ร้านKANORI Hand roll bar คือ First Mover ในตลาดแฮนด์โรลเมืองไทย” คุณปณิธิ กล่าวเสริมถึงวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ
ด้านคุณปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับภาพรวมตลาดอาหารญี่ปุ่นและกลยุทธ์ที่ทำให้ KANORI ประสบความสำเร็จว่า ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคา ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า หรือ ‘Reasonable Price’ มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ซับซ้อน KANORI จึงตอบโจทย์ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม และจุดแข็งด้านความรวดเร็ว ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตไปพร้อมกับเทรนด์การบริโภคของคนไทยได้อย่างแน่นอน
“กลยุทธ์ที่ทำให้ร้านเราประสบความสำเร็จในฐานะแฮนด์โรลเจ้าแรกในไทย และยังสามารถขยายได้ 4 แห่ง มาจากการศึกษาอินไซต์ผู้บริโภค รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ไม่ได้มองที่ตัวเลขเรื่องกำไรมาเป็นอันดับต้น ๆ แต่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าที่ลูกค้าได้รับกลับไป เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกิดการกลับมากินซ้ำ” คุณปวิตรา อธิบาย
“โดยร้านแฮนด์โรลบาร์ของเรามีกลิ่นอายกึ่ง ๆ โอมากาเสะที่มาในราคาจับต้องได้ สามารถมาทานเป็นครอบครัว ลูกค้าเราจึงมีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีบริการส่งตรงถึงบ้านแบบเดลิเวอรี่ โดยที่ยังคงความสดสะอาดจากวัตถุดิบพรีเมียม รวมถึงสาหร่ายที่ยังคงความกรอบไม่ต่างจากการนั่งรับประทานที่ร้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของร้านเรา”
ความสำเร็จที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้KANORI หยุดนิ่ง คุณปณิธาน กอบกุลสุวรรณ ได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในอนาคตว่า “ส่วนอนาคตของKANORI Hand roll bar หลังจากนี้ในไตรมาส 3 มีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่ม โดยมองหาโลเคชันที่เป็นห้างสรรพสินค้าไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก รวมถึงตามหัวเมืองใหญ่เพิ่มเติม เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นได้สัมผัสความอร่อย-สดใหม่ได้ครบถ้วนมากขึ้น” ซึ่งการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์แฮนด์โรลคุณภาพเยี่ยมให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
ในด้านผลประกอบการKANORI Hand roll bar สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 300 ล้านบาท นับตั้งแต่เปิดดำเนินการ และด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ประกอบกับแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทางร้านจึงตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 เพิ่มขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายแต่ก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์และตลาดแฮนด์โรลในประเทศไทย
ธุรกิจร้านKANORI Hand roll bar ดำเนินงานภายใต้ บริษัท ไทยสากล เอสเตท จำกัด ซึ่งนอกจากธุรกิจร้านแฮนด์โรลแล้ว บริษัทยังมีธุรกิจในเครืออีก 3 ส่วน ได้แก่ ร้าน Kay’s ที่โดดเด่นด้านอาหารเช้าสไตล์บรันช์, Day by Kay’s ที่เน้นเครื่องดื่มและเบเกอรี่ และโรงแรม K Maison ซึ่งมีเอกลักษณ์ในการผสมผสานความเป็นท้องถิ่นเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว การมีธุรกิจที่หลากหลายในเครือช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและมั่นคงให้กับกลุ่มบริษัท
สำหรับผู้ที่สนใจลิ้มลองรสชาติแฮนด์โรลคุณภาพพรีเมียม สดใหม่ ในบรรยากาศที่เป็นกันเองแต่ยังคงกลิ่นอายของโอมากาเสะ สามารถสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยได้ที่ร้านKANORI Hand roll bar ทั้ง 4 สาขา หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางช่องทางออนไลน์
#Kanori #KanoriHandRollBar #KanoriOriginalHandRoll #KanoriNumber1 #KanoriOriginalinThailand #แฮนด์โรล #อาหารญี่ปุ่น #ร้านอาหารญี่ปุ่น #เทมากิซูชิ #เจ้าแรกในไทย #ข่าวเศรษฐกิจ