รมว.พม. “วราวุธ ศิลปอาชา” สั่งการด่วน! ส่งทีม พม. จังหวัด ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ และดูแลสิทธิสวัสดิการสังคมแก่ทุกครอบครัวผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ตึก สตง. แห่งใหม่พังถล่มจากแผ่นดินไหว ย้ำบูรณาการความช่วยเหลือทุกมิติ บรรเทาความเดือดร้อนอย่างทั่วถึง
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและครอบครัว จากเหตุการณ์ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ พังถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างเต็มกำลัง “วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.พม. เผยความคืบหน้าล่าสุด สั่งทีม พม. ทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ให้กำลังใจ ประเมินความเดือดร้อน พร้อมมอบความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งเงินสงเคราะห์ เครื่องอุปโภคบริโภค และประสานสิทธิสวัสดิการสังคมเต็มรูปแบบ ยืนยันดูแลต่อเนื่องระยะยาว
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ พังถล่มลงมา อันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งสร้างความสูญเสียและความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเน้นย้ำถึงภารกิจสำคัญของกระทรวง พม. ในการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทุกคนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นายวราวุธ กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าจากศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ของกระทรวง พม. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและให้ความช่วยเหลือในภาวะวิกฤตครั้งนี้ โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21 เมษายน 2568 (รวบรวมตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568) พบว่ามีการส่งต่อผู้ประสบปัญหาจากผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้เข้าระบบการช่วยเหลือแล้วรวมทั้งสิ้น 79 ราย ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงและขอบเขตของภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนจำนวนมาก
จากการจำแนกข้อมูล พบว่ามีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วจำนวน 20 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตเหล่านี้มีภูมิลำเนาอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, หนองบัวลำภู, ร้อยเอ็ด, อุบลราชธานี, พิษณุโลก, อุทัยธานี, อุดรธานี, ศรีสะเกษ, นครพนม, น่าน, หนองคาย, ขอนแก่น, ชัยนาท, ชัยภูมิ และมีอีก 2 รายที่ยังไม่สามารถระบุจังหวัดภูมิลำเนาได้ การกระจายตัวของผู้เสียชีวิตในหลากหลายพื้นที่เช่นนี้ ตอกย้ำถึงความเป็นโศกนาฏกรรมระดับชาติ ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 ราย ซึ่งมีภูมิลำเนาในกรุงเทพมหานคร, ศรีสะเกษ และนครพนม ผู้บาดเจ็บเหล่านี้กำลังอยู่ในระหว่างการรักษาพยาบาล ซึ่งกระทรวง พม. ได้ประสานงานเพื่อให้การดูแลช่วยเหลือในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป และที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือ ยังมีผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการค้นหาอีกถึง 45 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สร้างความทุกข์ใจให้กับครอบครัวและญาติมิตรเป็นอย่างยิ่ง ผู้สูญหายเหล่านี้มีภูมิลำเนามาจากหลากหลายจังหวัดเช่นกัน อาทิ กรุงเทพมหานคร, ยโสธร, หนองบัวลำภู, ร้อยเอ็ด, อุบลราชธานี, เพชรบูรณ์, สมุทรปราการ, อุตรดิตถ์, สุพรรณบุรี, อุดรธานี, กำแพงเพชร, ศรีสะเกษ, นครพนม, พิจิตร, น่าน, หนองคาย, ขอนแก่น, ชัยนาท, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, นนทบุรี และมีอีก 1 รายที่ยังไม่ทราบจังหวัดภูมิลำเนา การเร่งค้นหาผู้สูญหายยังคงดำเนินต่อไป ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่เฝ้ารออย่างมีความหวัง
รมว.พม. ได้กล่าวเน้นย้ำถึงการดำเนินงานที่เป็นระบบของ ศรส. กระทรวง พม. ซึ่งได้มีการแบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 4 ทีม เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติ ประกอบด้วย:
- ทีม 1: ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดเกิดเหตุโดยตรง มีภารกิจหลักในการดูแลญาติของผู้ประสบภัยที่เดินทางมาเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่สืบค้นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบุคคลที่สูญหายหรือได้รับผลกระทบ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้ทีม 2 ดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกให้กับญาติในการเดินทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และทำหน้าที่ประสานงานติดตามข้อมูลความคืบหน้าต่างๆ พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลเข้าระบบเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงาน พม. จังหวัด และกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ทีม 2: (อนุมานจากบทบาททีม 1) ทำหน้าที่รับข้อมูลต่อจากทีม 1 เพื่อประสานงานเชิงลึกกับโรงพยาบาลและหน่วยงานพิสูจน์อัตลักษณ์ รวมถึงการจัดการข้อมูลผู้ประสบภัยแต่ละรายอย่างเป็นระบบ
- ทีม 3: มีหน้าที่สำคัญในการติดตามและรวบรวมรายงานการให้ความช่วยเหลือจากทีม พม. จังหวัด และกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวง พม. ทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าการช่วยเหลือเป็นไปตามแนวทางและเข้าถึงผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง
- ทีม 4: รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลการช่วยเหลือทั้งหมด และจัดทำเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Infographic ที่เข้าใจง่าย เพื่อนำเสนอข้อมูลความคืบหน้าและผลการดำเนินงานให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและโปร่งใส
นอกเหนือจากการทำงานของ ศรส. ส่วนกลางแล้ว นายวราวุธยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ “ทีม พม. จังหวัด” ซึ่งถือเป็นหน่วยปฏิบัติการในระดับพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด โดยทีม พม. จังหวัดที่เกี่ยวข้องกับภูมิลำเนาของผู้ประสบภัย ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและประเมินสภาพปัญหาทางสังคมของแต่ละครอบครัวอย่างละเอียด ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน
การลงพื้นที่ของทีม พม. จังหวัด มีเป้าหมายหลักคือการเข้าไปพูดคุยเพื่อเยียวยาสภาพจิตใจและให้กำลังใจแก่สมาชิกในครอบครัวที่กำลังเผชิญกับความสูญเสียและความวิตกกังวลอย่างหนัก ควบคู่ไปกับการให้ความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ การพิจารณามอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์และกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า การมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ นอกจากนี้ ในกรณีที่ครอบครัวประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย หรือมีผู้สูงอายุหรือคนพิการอยู่ด้วย ทีม พม. จังหวัดยังได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมหรือปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การดูแลช่วยเหลือไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการดูแลอย่างต่อเนื่องตามภารกิจที่เกี่ยวข้องในระยะยาว เช่น การประสานงานด้านการฝึกอาชีพ เพื่อสร้างโอกาสในการมีงานทำและรายได้ที่มั่นคงให้กับสมาชิกในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และที่สำคัญคือการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนั้นๆ เพื่อบูรณาการความช่วยเหลือให้เป็นไปอย่างรอบด้านและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ศรส. กระทรวง พม. ยังได้รับรายงานผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมจากทีม พม. จังหวัดต่างๆ ที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ให้กำลังใจ ประเมินทางสังคม พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับสิทธิสวัสดิการสังคมต่างๆ ที่ครอบครัวผู้ประสบภัยพึงได้รับ ตัวอย่างเช่น:
- ศรส.จังหวัดชัยภูมิ: ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในท้องถิ่น ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้ประสบภัยที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปจากเหตุการณ์นี้ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และกำลังพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวในกรณีฉุกเฉินตามระเบียบต่อไป
- ศรส.จังหวัดสุพรรณบุรี: ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของผู้ประสบภัยรายหนึ่งที่ยังอยู่ระหว่างการค้นหา ซึ่งมีญาติบางส่วนได้เดินทางไปเฝ้าติดตามสถานการณ์ที่กรุงเทพฯ โดยทางกระทรวง พม. ได้อำนวยความสะดวกจัดหาที่พักชั่วคราวให้ ณ ที่พักคนเดินทาง ดินแดง พร้อมบริการรถรับ-ส่ง เพื่อลดภาระและความกังวลของญาติ ในเบื้องต้น ทีม พม. จังหวัดสุพรรณบุรีได้มอบถุงยังชีพ และพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังช่วยประสานข้อมูลในเรื่องสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมและประกันชีวิตที่ผู้ประสบภัยอาจมีอยู่ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชนและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ ให้ช่วยดูแลและประสานงานกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในการบำบัดฟื้นฟูจิตใจของสมาชิกในครอบครัวต่อไป
- ศรส.จังหวัดชัยนาท: ทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และพิจารณาให้เงินอุดหนุนช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินเช่นกัน ที่สำคัญคือการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อช่วยดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าจะคอยติดตามให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้รับความอนุเคราะห์เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก ศูนย์ขับเคลื่อนการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจจังหวัดชัยนาท (CSR) ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
- ศรส.จังหวัดน่าน: ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวผู้ประสบภัยที่ยังอยู่ระหว่างการค้นหา ซึ่งพบว่าสภาพจิตใจของครอบครัวในขณะนี้ค่อนข้างมีความวิตกกังวลสูง มีอาการนอนไม่หลับ โดยมีญาติเดินทางไปติดตามสถานการณ์ที่กรุงเทพฯ ซึ่ง พม. ได้จัดที่พักชั่วคราวและบริการรับ-ส่งให้เช่นกัน ในเบื้องต้น ทีม พม. จังหวัดน่านได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า และพิจารณาให้เงินอุดหนุนช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน พร้อมกันนี้ ได้ประสานงานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อประเมินสุขภาพจิตและให้การบำบัดฟื้นฟูอย่างเหมาะสม และมอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ช่วยดูแลสมาชิกในครอบครัวอย่างใกล้ชิดต่อไป
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวง พม. มีความห่วงใยต่อทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง และยืนยันว่าจะให้การดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่และต่อเนื่อง หากครอบครัวผู้ประสบภัยรายใดต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิสวัสดิการต่างๆ สามารถติดต่อมายังศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. ได้โดยตรง ผ่าน สายด่วน พม. โทร. 1300 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #ช่วยเหลือ #สวัสดิการสังคม #พมช่วยได้ #สายด่วน1300