กรุงเทพฯ – 8 เมษายน 2568 – บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานใหม่ BYD และ DENZA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการยานยนต์อีกครั้ง ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เปิดตัว “BYD Experience Store” แห่งแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ อาคารอินเตอร์เชนจ์ 21 ชั้น G ใจกลางกรุงเทพมหานคร ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาด พร้อมนำเสนอประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การขายรถยนต์ ภายใต้แนวคิด “ศูนย์การเรียนรู้แห่งอนาคต” ที่จะพาผู้บริโภคชาวไทยไปสัมผัสเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัยจาก BYD และ DENZA อย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดตัว BYD Experience Store แห่งแรกนี้ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูง นำโดย นายหลิว เสวียเลี่ยง (Mr. Liu Xuexiang) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย BYD Auto ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, นายเบนสัน เค่อ (Mr. Benson Ke) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด, นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ และ นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ร่วมด้วยสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วมงาน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและความน่าสนใจของหมุดหมายใหม่แห่งนี้
BYD TIME SHIFT และ BYD Lab: ต่อยอดความสำเร็จ สู่ศูนย์กลางนวัตกรรมถาวร
การเปิดตัว BYD Experience Store ในครั้งนี้ ไม่เพียงจัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “BYD TIME SHIFT” หรือ “อนาคต เริ่ม ตอนนี้” ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ของ BYD ในฐานะผู้นำด้านยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle – NEV) แต่ยังเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากกิจกรรม “BYD Lab” ซึ่งจัดขึ้นคู่ขนานกับงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “หลังได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกิจกรรม BYD Lab ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกคู่ขนานกับงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา เรเว่ไม่รอช้าเดินหน้าเปิดศูนย์ BYD Experience Store ต่อทันที ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงการเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักกับ BYD ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ไปจนถึงนวัตกรรมต่างๆ เท่านั้น แต่ยังมีการส่งเสริมแนวคิดพลังงานสะอาด เพื่อกระตุ้นให้ทุกท่านร่วมกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน จนนำไปสู่อนาคตปลอดมลพิษสำหรับทุกคน”
นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย BYD Auto ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนและผู้บริโภคชาวไทยที่ให้การตอบรับ BYD อย่างอบอุ่นเสมอมา พร้อมเน้นย้ำว่า BYD Experience Store แห่งนี้ จะเป็นพื้นที่สำคัญในการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดและวิสัยทัศน์แห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดแสดงที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้สังคมไทยได้สัมผัสถึงเทคโนโลยีที่แท้จริงของ BYD และเทคโนโลยีที่จะนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
เจาะลึก 3 โซนไฮไลท์: สัมผัสจริง เรียนรู้จริง ผ่านนวัตกรรมจับต้องได้
BYD Experience Store ที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ไม่ได้เป็นเพียงโชว์รูมเท่านั้น แต่คือศูนย์การเรียนรู้ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก มอบประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าสนใจ
นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวเสริมถึงความพิเศษของศูนย์แห่งนี้ว่า “ศูนย์ BYD Experience Storeไม่ได้มีเพียงแค่บอร์ดข้อมูลหรือวีดีโอบรรยายเท่านั้น แต่ยังมีทั้งรถยนต์คันจริงจากเครือ BYD หลากหลายรุ่น ที่ยังไม่ออกจำหน่ายในประเทศไทย รวมถึงชิ้นส่วนจริงให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ทั้งยังมี Interactive Zone ที่มีกล้อง interactive AR ไว้ให้ผู้เยี่ยมชมได้ศึกษาเทคโนโลยีในรถยนต์ ผ่านภาพเสมือนจริงอีกด้วย พร้อมสร้างประสบการณ์ของการเรียนรู้รูปแบบใหม่ ให้กับผู้ที่สนใจในยนตรกรรม และนวัตกรรมล่าสุด”
- Zone A: The History & Inspiration: โซนแรกต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาและเส้นทางความสำเร็จของ BYD ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านบอร์ดข้อมูลและจอโค้ง LED ขนาดใหญ่ พร้อมคลิปสัมภาษณ์แนวคิดของผู้บริหาร จุดเด่นสำคัญคือ การจัดแสดง รถยนต์รุ่นพิเศษจากแบรนด์ในเครือ BYD ที่ยังไม่มีจำหน่ายในไทย อาทิ Denza, Formula E (รถแข่ง), และ Yangwang เปิดโอกาสให้คนไทยได้ยลโฉมยนตรกรรมแห่งอนาคตอย่างใกล้ชิด
- Zone B: Technology & Innovation: โซนหัวใจสำคัญที่เน้นนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุดของ BYD ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้หลักการทำงานและจุดแข็งของเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD อย่าง E-platform 3.0 และ BYD Blade Battery ผ่านการ จัดแสดงชิ้นส่วนจริง ให้สัมผัสและทำความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ ยังมี กล้อง Interactive AR ที่จะเปลี่ยนการเรียนรู้เทคโนโลยีในรถยนต์ให้สนุกและเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นผ่านภาพเสมือนจริง
- Zone C: Sustainability & Lifestyle: โซนสุดท้ายมุ่งให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจในการร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อน และความสำคัญของยานยนต์พลังงานใหม่ในการลดมลพิษ โดยเฉพาะเทคโนโลยี PHEV อย่าง DM-i และ DM-P ที่ช่วยให้การใช้เชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยให้การใช้รถยนต์พลังงานใหม่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โซนนี้ยังมี บาร์เครื่องดื่ม ไว้คอยบริการ เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลายในการเรียนรู้
ก้าวข้ามขีดจำกัด สู่ระบบนิเวศเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน
การเปิด BYD Experience Storeณ อาคารอินเตอร์เชนจ์ 21 ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่า BYD ไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์ แต่เป็น “บริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรม” ที่มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันครบวงจรเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ตั้งแต่การผลิตพลังงานสะอาด การกักเก็บพลังงาน ไปจนถึงการใช้งานยานยนต์พลังงานใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ศูนย์แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนประตูสู่ระบบนิเวศ (Ecosystem) ของ BYD ที่จะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจภาพรวมและพันธกิจในการ “ลดอุณหภูมิโลกให้ได้ 1 องศาเซลเซียส” ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

เรเว่ ออโตโมทีฟ: ตอกย้ำความเป็นผู้นำ NEV ในไทย
การเปิดตัว BYD Experience Storeถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ เรเว่ ออโตโมทีฟ ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ BYD และ DENZA ในประเทศไทย หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในการทำตลาด โดยเริ่มจากการเปิดตัว BYD ATTO 3 ในเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งมียอดจำหน่ายและส่งมอบกว่า 30,000 คันในปีแรก ตามมาด้วย BYD DOLPHIN (กรกฎาคม 2566) และ BYD SEAL (กันยายน 2566) จนส่งผลให้ BYD ก้าวขึ้นเป็น ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดในปี 2566
ในปี 2567 เรเว่ยังคงเดินหน้าแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้ง BYD M6 (เดิมใช้ชื่อ ATTO 5 หรือ Song Max ในบางตลาด) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด BYD SEALION 6 DM-I ก่อนจะสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวแบรนด์ยนตรกรรมพลังงานใหม่ระดับลักชัวรี่ DENZA พร้อมโมเดลแรก DENZA D9 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 การมี Experience Store แห่งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยี สร้างความผูกพันกับลูกค้า และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ได้อย่างยั่งยืน
สัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตได้แล้ววันนี้
ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจในนวัตกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน เข้าเยี่ยมชมศูนย์ BYD Experience Storeแห่งแรกของประเทศไทย ได้ฟรี ณ อาคารอินเตอร์เชนจ์ 21 ชั้น G (แยกอโศก) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น.
หรือพบกับยนตรกรรม BYD และ DENZA รุ่นต่างๆ ที่วางจำหน่าย ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ BYD ทั้ง 150 สาขาทั่วประเทศ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ reverautomotive.com (สำหรับ BYD) และ denzathailand.com (สำหรับ DENZA) และติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทาง Facebook Page: BYD REVER Thailand
#BYD #BYDThailand #ReverAutomotive #DENZAThailand #BYDExperienceStore #BYDInterchange21 #EVThailand #รถยนต์ไฟฟ้า #บีวายดี #เรเว่ #เดนซ่า #เทคโนโลยีBYD #นวัตกรรมยานยนต์ #อนาคตแห่งการขับขี่ #ศูนย์การเรียนรู้BYD #BYDTimeShift #NEV #พลังงานสะอาด #ยานยนต์ไฟฟ้าไทย #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวรถยนต์ #BYDATTO3 #BYDDolphin #BYDSeal #BYDSealion6 #DENZAD9 #BladeBattery #Eplatform #Sustainability #ARtechnology