แพทย์เอเชียชี้ “Synbiotic” ในนมแม่ กุญแจสำคัญเสริมภูมิคุ้มกันเด็กผ่าคลอด

แพทย์เอเชียชี้ “Synbiotic” ในนมแม่ กุญแจสำคัญเสริมภูมิคุ้มกันเด็กผ่าคลอด

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางสถานการณ์อัตราการผ่าคลอดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวลในประเทศไทยและทั่วเอเชีย คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วเอเชียได้มีมติร่วมกันล่าสุด ชี้ชัดถึงผลกระทบของการผ่าคลอดต่อระบบภูมิต้านทานของทารก พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของ “Synbiotic” ที่พบในนมแม่ ในฐานะองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างรากฐานภูมิต้านทานที่แข็งแรงให้กับเด็กที่เกิดจากการผ่าคลอด ข้อสรุปดังกล่าวถูกนำเสนอในงานเสวนา “เสริมภูมิต้านทาน เพื่อพัฒนาการเด็กผ่าคลอด” ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก ร่วมกับ ดานอน สเปเชียลไลซ์ นิวทริชั่น (ประเทศไทย) เนื่องในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนรณรงค์การตระหนักรู้เกี่ยวกับการผ่าคลอด (C-Section Awareness Month) เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและแนวทางการดูแลสุขภาพเด็กผ่าคลอดอย่างเหมาะสม

สถานการณ์การผ่าคลอดในประเทศไทยนับเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด รองศาสตราจารย์ เรือเอก นายแพทย์ มานพชัย ธรรมคันโธ รองประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า “ข้อมูลในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยมีอัตราการผ่าคลอดสูงถึง 40.9% (จาก Multiple Indicator Cluster Survey 2022) ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง” นอกจากนี้ ท่านยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่คุณแม่ผ่าคลอดมักเผชิญ คือ การเริ่มต้นให้นมแม่ได้ล่าช้ากว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ ซึ่งประเด็นนี้สัมพันธ์โดยตรงกับข้อมูลเชิงวิชาการที่บ่งชี้ว่า การผ่าคลอดอาจส่งผลกระทบต่อภูมิต้านทานและพัฒนาการทางสมองของทารกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยมีงานศึกษาขนาดใหญ่ที่วิเคราะห์จากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 20 ล้านคนทั่วโลกเป็นเครื่องยืนยัน

ประเด็นสำคัญที่คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วเอเชียได้ร่วมลงมติและเน้นย้ำในการประชุมครั้งนี้ คือ การเสียสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiota Dysbiosis) อันเป็นผลมาจากการผ่าคลอด ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบภูมิต้านทานของทารก ทั้งนี้ ทารกที่คลอดธรรมชาติจะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพชนิดดีจากช่องคลอดของมารดาในระหว่างกระบวนการคลอด ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นสร้างอาณานิคมจุลินทรีย์ในลำไส้ที่เป็นประโยชน์ แต่ทารกที่ผ่าคลอดจะไม่ได้รับจุลินทรีย์กลุ่มนี้ ทำให้การพัฒนาระบบจุลินทรีย์ในลำไส้แตกต่างออกไป และอาจนำไปสู่ความไม่สมดุล ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะภูมิแพ้ โรคหอบหืด และการติดเชื้อต่างๆ ในระยะยาว

Synbiotic

รองศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ แพทย์หญิง ชนนิกานต์ วิสูตรานุกูล สาขาวิชาโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมลงมติ ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงกลไกดังกล่าวว่า “การผ่าคลอดส่งผลต่อภูมิต้านทานของเด็กผ่าคลอดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดจากการเสียสมดุลของจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ของทารกตั้งแต่แรกเกิด” อย่างไรก็ตาม ท่านได้นำเสนอทางออกและวิธีช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กกลุ่มนี้ โดยเน้นย้ำว่า “นมแม่ยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดและเป็นแหล่งโภชนาการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดสำหรับทารกทุกคน รวมถึงเด็กผ่าคลอด โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต”

สิ่งที่ทำให้ “นมแม่” มีความพิเศษและเป็นคำตอบสำคัญสำหรับเด็กผ่าคลอด คือ องค์ประกอบที่เรียกว่า “Synbiotic” (ซินไบโอติก) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของ Prebiotic (พรีไบโอติก) หรือใยอาหารที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี และ Probiotic (โพรไบโอติก) หรือจุลินทรีย์สุขภาพชนิดดี โดยเฉพาะสายพันธุ์ Bifidobacterium breve (บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว หรือ B. breve) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่พบได้ตามธรรมชาติในนมแม่

จากข้อมูลวิชาการและการศึกษาวิจัยทั่วโลก คณะแพทย์จากทั่วเอเชียลงมติว่า Synbiotic มีแนวโน้มที่จะช่วยคืนสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ของเด็กผ่าคลอดให้กลับมาใกล้เคียงกับเด็กที่คลอดธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วกว่าทารกที่ไม่ได้รับ Synbiotic ซึ่งการมีสมดุลจุลินทรีย์ที่ดีนี้เองที่เป็นรากฐานสำคัญของระบบภูมิต้านทานที่แข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่น่าสนใจพบว่า Synbiotic อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อ 5 โรคที่พบบ่อยในเด็กได้อีกด้วย เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน, การติดเชื้อรุนแรง, การใช้ยาปฏิชีวนะ, ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ และอาการแพ้โดยรวม ซึ่งล้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัว

นอกเหนือจากประเด็นด้านภูมิต้านทานแล้ว รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ นายกสมาคมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก ได้ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงระหว่างภูมิต้านทานและพัฒนาการรอบด้านของเด็ก โดยกล่าวว่า “การเสริมสร้างภูมิต้านทานที่แข็งแรงเปรียบเสมือนการสร้างรากฐานที่มั่นคง ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่เอื้อต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการทางสมอง การเรียนรู้ หรือพัฒนาการทางร่างกาย” อาจารย์ยังได้นำเสนอแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ที่เหมาะสมสำหรับเด็กผ่าคลอด เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมการประชุม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เด็กผ่าคลอดเติบโตขึ้นอย่างมีศักยภาพสูงสุด

Synbiotic

ในส่วนของผู้สนับสนุนการจัดงาน เภสัชกรหญิง วิรัชดา สุทธยาคม ผู้อำนวยการฝ่ายโภชนาการเพื่อสุขภาพ ดานอน ประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นขององค์กรว่า “ดานอน ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ มีพันธกิจในการส่งมอบสุขภาพที่ดีด้วยอาหารให้กับผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่ผ่านมา เราได้ให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัยและเผยแพร่ความรู้ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพเด็กอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์และชุมชนต่างๆ งานเสวนาในวันนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กที่เกิดจากการผ่าคลอดจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ทั้งในด้านภูมิต้านทานที่แข็งแรงและพัฒนาการที่เหมาะสมในทุกช่วงวัย”

“ในเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นเดือนแห่งการรณรงค์การตระหนักรู้เกี่ยวกับการผ่าคลอด (C-Section Awareness Month) ดานอน ประเทศไทย จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการสร้างความตระหนักรู้และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการผ่าคลอด ผ่านกิจกรรมและช่องทางต่างๆ ของ Hi-Family Club” เภสัชกรหญิง วิรัชดา กล่าวเสริม

การจัดงาน “เสริมภูมิต้านทาน เพื่อพัฒนาการเด็กผ่าคลอด” ครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการผ่าคลอดที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังเป็นการนำเสนอองค์ความรู้ล่าสุดจากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของนมแม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Synbiotic” ในนมแม่ ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการสร้างระบบภูมิต้านทานที่แข็งแรงให้กับเด็กผ่าคลอด อันจะนำไปสู่สุขภาพที่ดีและพัฒนาการที่สมวัยในระยะยาว

สำหรับผู้ปกครอง บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าคลอด ผลกระทบต่อสุขภาพ และแนวทางการดูแลเสริมสร้างภูมิต้านทานด้วยSynbiotic ได้ผ่านช่องทางของ Hi-Family Club ที่เว็บไซต์ https://www.hifamilyclub.com/c-section/synbioticplus.html หรือติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ ได้ทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/HiFamilyClub เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้าใจและการดูแลที่ดีที่สุดสำหรับเด็กผ่าคลอดต่อไป

#CSectionawarenessmonth #แม่ผ่าคลอดเท่านั้นที่เข้าใจ #นมแม่ดีที่สุด #Synbiotic #เสริมภูมิต้านทานเด็กผ่าคลอด #เด็กผ่าคลอด #จุลินทรีย์สุขภาพ #พัฒนาการเด็ก #ดานอนประเทศไทย #HiFamilyClub #สุขภาพเด็ก

Related Posts