เดลล์ เทคโนโลยีส์ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ชั้นนำของโลก ประกาศยกระดับ Dell AI Factory ครั้งสำคัญ ผสานรวมโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ทรงพลังและประหยัดพลังงาน เข้ากับโซลูชันจากระบบนิเวศพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และบริการระดับมืออาชีพ เพื่อผลักดันให้องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครอบคลุมตั้งแต่การใช้งานบนอุปกรณ์ปลายทาง (Edge) ดาต้าเซ็นเตอร์ ไปจนถึงระบบคลาวด์ ตอบโจทย์ความท้าทายทางธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในยุคดิจิทัล
ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีชี้ขาดความสำเร็จของธุรกิจ โดยมีองค์กรมากถึง 75% ที่ระบุว่า AI คือกุญแจสำคัญในกลยุทธ์องค์กร และ 65% ประสบความสำเร็จในการนำโครงการ AI ไปใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านคุณภาพของข้อมูล ความกังวลเรื่องความปลอดภัย และต้นทุนที่สูงยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การนำ AI มาปรับใช้ในวงกว้างเกิดความล่าช้า
เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายดังกล่าว เดลล์ เทคโนโลยีส์ (Dell Technologies) ได้ประกาศยกระดับ “Dell AI Factory” อย่างเต็มรูปแบบ โดยนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมและล้ำสมัยที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนในการอนุมานผลลัพธ์จากโมเดลจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Inferencing LLMs) ภายในองค์กร (on-premises) ได้มากกว่าการใช้งานบนพับลิคคลาวด์ถึง 62% พร้อมทั้งช่วยให้การปรับใช้ AI ในระดับเอ็นเตอร์ไพรส์เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย ไม่ว่าระบบจะมีขนาดใดก็ตาม ปัจจุบัน มีลูกค้าระดับโลกกว่า 3,000 รายในหลากหลายอุตสาหกรรมที่กำลังเร่งขับเคลื่อนโครงการ AI ด้วย Dell AI Factory
นวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐาน AI สุดล้ำ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ
เดลล์ได้ปฏิวัติวงการด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อนสำหรับระบบ AI ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในการระบายความร้อนได้สูงสุดถึง 60% ด้วย Dell PowerCool Enclosed Rear Door Heat Exchanger (eRDHx) ซึ่งเป็นนวัตกรรมแรกของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อดักจับความร้อนจากอุปกรณ์ไอทีได้ถึง 100% ระบบนี้ช่วยลดความจำเป็นในการพึ่งพาระบบทำความเย็นราคาแพง สามารถทำงานร่วมกับน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าโซลูชันเดิม (32-36 องศาเซลเซียส) เพิ่มพื้นที่ในดาต้าเซ็นเตอร์ได้สูงสุด 16% และรองรับการระบายความร้อนด้วยอากาศได้สูงสุดถึง 80 กิโลวัตต์ต่อแร็ค นอกจากนี้ ตู้แร็ค IR70000 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี eRDHx ยังมีระบบตรวจจับการรั่วไหลขั้นสูง และการจัดการแบบรวมศูนย์ผ่านซอฟต์แวร์ Dell Integrated Rack Controller
ในส่วนของพลังการประมวลผล เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE9785 และ XE9785L ได้รับการออกแบบให้รองรับตัวเร่งประมวลผล AMD MI350x ที่มีหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 288 GB ต่อ GPU มอบประสิทธิภาพในการอนุมานผลลัพธ์ (Inferencing) ที่เหนือกว่าเดิมถึง 35 เท่า โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นระบายความร้อนด้วยของเหลวและอากาศ ช่วยลดต้นทุนพลังงานในการระบายความร้อนให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างมาก
ขับเคลื่อน AI ด้วยข้อมูลคุณภาพสูงและกระบวนการทำงานที่ปลอดภัย
หัวใจสำคัญของ AI คือข้อมูลที่มีคุณภาพ เดลล์ได้อัปเดต Dell AI Data Platform เพื่อช่วยให้องค์กรเข้าถึงข้อมูลคุณภาพสูงได้ดียิ่งขึ้น ทั้งข้อมูลแบบมีโครงสร้าง กึ่งโครงสร้าง และไม่มีโครงสร้าง ตลอดวงจรการทำงานของ AI
นอกจากนี้ Dell Project Lightning ซึ่งเป็นระบบไฟล์แบบขนานที่เร็วที่สุดในโลก จากผลการทดสอบล่าสุด ให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงกว่าระบบไฟล์ขนานของคู่แข่งถึงสองเท่า ช่วยเร่งระยะเวลาในการฝึกฝนโมเดล AI ขนาดใหญ่และซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดร. พอล คัลเลยา ผู้อำนวยการ Cambridge Open Zettascale Lab และ Research Computing Services มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับเดลล์เพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มด้าน AI ที่ล้ำหน้านี้ พร้อมทั้งหวังว่า Project Lightning จะเป็นเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรม AI ของเรา”
การพัฒนาที่ล้ำหน้าของ Dell Data Lakehouse ยังช่วยให้ขั้นตอนการทำงานด้วย AI ง่ายขึ้น และเร่งการใช้งานในกรณีต่างๆ เช่น ระบบแนะนำ (recommendation engines) การค้นหาที่เข้าใจความหมายโดยรวม (semantic search) และการตรวจจับความต้องการของลูกค้า
เพื่อลดการใช้พลังงานและความหน่วงในระบบประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC) และโครงสร้างพื้นฐาน AI เดลล์ได้นำเสนอ Dell Linear Pluggable Optics พร้อมกันนี้ ยังเสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยด้วยบริการ Dell AI Security and Resilience Services ที่มอบการปกป้องครบวงจรตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูล แอปพลิเคชัน ไปจนถึงโมเดล AI
ขยายระบบนิเวศพันธมิตร AI เพื่อโซลูชันที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
เดลล์ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในระบบนิเวศ AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบโซลูชันที่สามารถปรับใช้งานได้ตรงตามความต้องการขององค์กร และผสานการทำงานร่วมกับสภาพแวดล้อมไอทีที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ความร่วมมือที่สำคัญ ได้แก่:
- Cohere: เปิดใช้งานขั้นตอนการทำงานอัจฉริยะแบบอัตโนมัติ ด้วยการติดตั้ง Cohere North เพื่อใช้งานแบบ on-premise เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม ช่วยผสานข้อมูลจากแหล่งต่างๆ พร้อมควบคุมการดำเนินงานได้อย่างเต็มรูปแบบ
- Google: รักษาความปลอดภัยของข้อมูลภายในองค์กร ด้วยโมเดล Google Gemini บนเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE9680 และ XE9780
- Meta: สร้างต้นแบบและพัฒนาแอปพลิเคชัน AI สำหรับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเอเจนต์ ด้วย Dell AI Solutions ที่ทำงานร่วมกับ Llama โดยใช้ Llama Stack และโมเดล Llama 4 เวอร์ชันล่าสุด
- Glean: เรียกใช้งาน AI เอเจนต์ที่รองรับการขยายงานได้ พร้อมระบบค้นหาข้อมูลภายในองค์กรด้วย Glean โดยเดลล์และ Glean จะมอบสถาปัตยกรรมในการปรับใช้ Glean’s Work AI Platform แบบ on-premise เป็นครั้งแรก
- Mistral AI: พัฒนาและปรับใช้แอปพลิเคชัน AI ได้ตามความต้องการด้วยความปลอดภัย รวมถึงกระบวนการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ ด้วยโซลูชันที่เดลล์ และ Mistral AI ร่วมกันออกแบบและพัฒนา
Dell AI Factory ขยายขีดความสามารถเพิ่มเติม
นอกเหนือจากความร่วมมือข้างต้น Dell AI Factory ยังได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง:
- Dell AI Platform ที่ทำงานร่วมกับ AMD: เพิ่มเครือข่ายจัดเก็บข้อมูลขนาด 200G และอัปเกรด AMD ROCm open software stack เพื่อช่วยองค์กรลดความซับซ้อนในกระบวนการทำงาน รองรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และจัดการงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเดลล์และ AMD ร่วมมือกันมอบการสนับสนุนตั้งแต่วันแรก (Day 0) พร้อมคอนเทนเนอร์ที่ปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับโมเดล AI อย่าง Llama 4
- Dell AI Platform ใหม่ที่ทำงานร่วมกับ Intel: ช่วยให้องค์กรสามารถปรับใช้โครงสร้างพื้นฐาน AI ประสิทธิภาพสูงได้อย่างครบวงจร และสามารถปรับขยายระบบได้ โดยใช้ Intel® Gaudi® 3 AI accelerators เร่งประสิทธิภาพได้ตามต้องการ
- Dell AI Factory with NVIDIA: ประกาศความก้าวหน้าเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
- Dell NativeEdge: อัปเดตเพื่อรองรับการใช้งาน AI และการประมวลผลเชิงอนุมานที่เอดจ์ (Edge)
นายเจฟฟ์ คลาร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า “นับเป็นปีแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งสำหรับองค์กรต่างๆ และเดลล์ยังคงเดินหน้าต่อไป นับตั้งแต่ปีที่แล้ว เดลล์ได้แนะนำและมีการอัปเดต Dell AI Factory รวมแล้วกว่า 200 รายการ ซึ่งความก้าวหน้าด้าน AI ล่าสุด ตั้งแต่ AI PC จนถึงโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์ที่ล้ำหน้า ล้วนออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถนำ AI ไปใช้ได้อย่างราบรื่น สร้างข้อมูลเชิงลึกที่รวดเร็วขึ้น พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพ และเร่งสร้างผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว”
ด้านนายคริสโตเฟอร์ เอ็ม ซัลลิแวน ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยและการประมวลผลเชิงวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์โลก มหาสมุทร และบรรยากาศ มหาวิทยาลัยออริกอนสเตต ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ใช้Dell AI Factory กล่าวเสริมว่า “เราใช้Dell AI Factory ในงานวิจัยด้านมหาสมุทรของมหาวิทยาลัยออริกอนสเตต (Oregon State University) เพื่อปฏิรูปการทำงานและตอบโจทย์ความท้าทายสำคัญที่สุดของโลกหลายประการ โดยโซลูชัน AI ขั้นสูง ช่วยให้เราสามารถเร่งการวิเคราะห์เชิงลึกที่จะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปกป้องระบบนิเวศทางทะเล และผลักดันความก้าวหน้าเพื่อมวลมนุษยชาติได้อย่างแท้จริง”
การยกระดับ Dell AI Factory ในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเดลล์ เทคโนโลยีส์ ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI และเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับองค์กรที่ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยพลังของปัญญาประดิษฐ์ สร้างอนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนและแข็งแกร่ง
#DellTechnologies #AIFactory #AI #ปัญญาประดิษฐ์ #นวัตกรรมAI #โครงสร้างพื้นฐานAI #ดาต้าเซ็นเตอร์ #EdgeComputing #AIEnterprise #DigitalTransformation #ข่าวเศรษฐกิจ #เทคโนโลยี #DellPowerCool #DellPowerEdge #AMD #Intel #NVIDIA #Cohere #GoogleGemini #MetaLlama #Glean #MistralAI