สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ประเดิมชัยปักหมุดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดตัวกิจกรรม “Accelerate Digital Agriculture” ภายใต้โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (OTOD#2) อย่างยิ่งใหญ่ มุ่งยกระดับทักษะเกษตรกรไทยสู่ยุคเกษตรอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร, IoT ภาคการเกษตร และแทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ พร้อมสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงผู้ประกอบการเทคโนโลยี หนุนเศรษฐกิจฐานรากเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมขยายผลทั่วประเทศ 5 ภูมิภาค 9 จังหวัด
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเครือข่ายพันธมิตร ได้จัดกิจกรรม “Accelerate Digital Agriculture” ขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญภายใต้โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (One Tambon One Digital: OTOD#2) โดยมีเป้าหมายหลักในการปฏิวัติภาคเกษตรกรรมไทยด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรอย่างครบวงจร
กิจกรรมดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นายวัชระ กระแสร์ฉัตร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายบุญทวี ดวงนิราช ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาชุมชน ดีป้า และ นายวิศิษฏ์ ไหมเพ็ชร ผู้จัดการสาขาภาคกลางตอนกลาง ดีป้า ตลอดจนผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มชุมชนเกษตรกร และช่างชุมชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวและการให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของประเทศ
พระนครศรีอยุธยา: ฐานการผลิตเกษตรคุณภาพสูง สู่การเกษตรอัจฉริยะ
นายวัชระ กระแสร์ฉัตร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงความสำคัญของจังหวัดในฐานะอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศว่า “พระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย โดยมีพื้นที่การเกษตรกว้างขวางถึงประมาณ 874,762 ไร่ และมีครัวเรือนเกษตรกรจำนวนมากถึงราว 72,000 ครัวเรือน ข้าวถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับจังหวัด อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการผลิตข้าวที่สำคัญของประเทศ” ท่านรองผู้ว่าฯ ได้เน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายของจังหวัดในการยกระดับภาคเกษตรกรรมไปอีกขั้น “จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเพิ่มศักยภาพการเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูงและเกษตรแปรรูป โดยหัวใจสำคัญคือการส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่างจริงจังในทุกกระบวนการเพาะปลูก ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ”
ท่านรองผู้ว่าฯ ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่ากิจกรรม Accelerate Digital Agriculture ที่ ดีป้า ริเริ่มขึ้นนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และประเภทของพืชผล ตลอดจนเป็นการพัฒนาทักษะและความรู้ความเข้าใจให้แก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกร ให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนผ่านจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรกรรมไทยให้มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
ดีป้า กับภารกิจยกระดับเกษตรกรไทยด้วยโครงการ OTOD#2
ทางด้าน นายบุญทวี ดวงนิราช ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาชุมชน ดีป้า ได้กล่าวถึงทิศทางและเป้าหมายของ ดีป้า ในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมดิจิทัลว่า “ในปี 2568 นี้ ดีป้า มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะยกระดับกลุ่มชุมชน เกษตรกร และช่างชุมชนทั่วประเทศ ผ่านโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล หรือ OTOD#2” โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพใน 3 กลุ่มเทคโนโลยีหลักที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่าเหมาะสมและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่
- โดรนเพื่อการเกษตร (Agricultural Drone): เทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติการทำงานในไร่นา ตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ การหว่านเมล็ดพันธุ์ การให้ปุ๋ย การฉีดพ่นสารชีวภัณฑ์หรือยาป้องกันศัตรูพืชได้อย่างแม่นยำ ลดการใช้สารเคมี ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเกษตรกร และประหยัดเวลาและแรงงานได้อย่างมหาศาล
- อินเทอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) ภาคการเกษตรอัจฉริยะ: การนำเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อัจฉริยะมาใช้ในการตรวจวัดและควบคุมปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ความชื้นในดิน อุณหภูมิ แสงแดด คุณภาพน้ำ ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างแม่นยำจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ช่วยให้การตัดสินใจในการให้น้ำ ให้ปุ๋ย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Tractor): รถแทรกเตอร์ที่ติดตั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบ GPS ระบบควบคุมอัตโนมัติ ทำให้การเตรียมดิน การเพาะปลูก และการเก็บเกี่ยวเป็นไปอย่างแม่นยำ ลดการสูญเสีย และเพิ่มผลิตภาพโดยรวม
นายบุญทวี ยังเน้นย้ำว่า “นอกจากการส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีแล้ว ดีป้ายังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาทักษะ (Upskilling และ Reskilling) ให้แก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระดับชุมชน และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากการเกษตรแบบดั้งเดิมที่พึ่งพาประสบการณ์และธรรมชาติเป็นหลัก ไปสู่การเกษตรอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของภาคเกษตรกรรมไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
Accelerate Digital Agriculture: เวิร์คช็อปเข้มข้น จับคู่ธุรกิจ ต่อยอดสู่แหล่งทุน
สำหรับกิจกรรม Accelerate Digital Agriculture ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมหลักที่ออกแบบมาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้าร่วม ได้แก่:
- กิจกรรมเวิร์คช็อปเพื่อยกระดับทักษะเข้มข้น: เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการที่ลงลึกในรายละเอียดของเทคโนโลยีทั้ง 3 ด้าน คือ โดรนเพื่อการเกษตร, IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ และแทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ตรงมาถ่ายทอดความรู้และเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมกับพื้นที่เกษตรกรรมและลักษณะการเพาะปลูกของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอบรมนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ทางทฤษฎี แต่ยังเน้นการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อสร้างความมั่นใจและทักษะที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที
- การเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching): เปิดโอกาสทองให้กลุ่มชุมชน เกษตรกร และช่างชุมชน ได้พบปะพูดคุย และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับผู้ประกอบการเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน dSURE ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการดิจิทัลของดีป้า และเป็นผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนอยู่บนบัญชีบริการดิจิทัลของสำนักงานฯ กิจกรรมนี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้ต้องการใช้เทคโนโลยีกับผู้ให้บริการเทคโนโลยี ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความต้องการ นำไปสู่การซื้อขายหรือการร่วมมือทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่าย
- การให้คำปรึกษาแนะนำ: ทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากดีป้าและหน่วยงานพันธมิตร พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการจัดทำและนำเสนอโครงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับชุมชน ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับกลุ่มชุมชนและเกษตรกรที่มีความพร้อมและมีแผนงานที่ชัดเจนในการขอรับทุนสนับสนุนจาก ดีป้า เพื่อนำไปพัฒนาโครงการเกษตรอัจฉริยะในพื้นที่ของตนเองต่อไป
นายบุญทวี ได้กล่าวเสริมถึงผลลัพธ์ที่น่าพอใจของกิจกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า “การอบรมยกระดับทักษะเข้มข้นในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชน เกษตรกร และช่างชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้บริการดิจิทัลเพื่อการเกษตรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการวางแผนการเพาะปลูก การดูแลรักษา การจัดการผลผลิต ไปจนถึงการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่แม่นยำและทันท่วงที”
พร้อมกันนี้ ท่านยังได้เปิดเผยว่า “ในกิจกรรม Accelerate Digital Agriculture ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้ที่ผ่านการพิจารณาเบื้องต้น หรือ Pre-screen Round จำนวนทั้งสิ้น 32 ราย แบ่งออกเป็นประเภทกลุ่มชุมชนที่ต้องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี จำนวน 17 ราย และประเภทการพัฒนาธุรกิจชุมชนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล จำนวน 15 ราย ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเหล่านี้ จะได้ก้าวเข้าสู่รอบการนำเสนอผลงาน (Pitching) ในระดับภูมิภาคที่จังหวัดสุพรรณบุรีต่อไป ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง”
เดินหน้าทั่วไทย สู่เกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน
โครงการ Accelerate Digital Agriculture ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเท่านั้น แต่เป็นโครงการระดับชาติที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องครอบคลุม 5 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 9 จังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อให้เกษตรกรและชุมชนในภูมิภาคต่างๆ ได้รับโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและความรู้อย่างเท่าเทียมกัน โดยมีกำหนดการเดินหน้าดังนี้:
- ครั้งที่ 1 ภาคกลาง: จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสุพรรณบุรี
- ครั้งที่ 2 ภาคใต้: จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา
- ครั้งที่ 3 ภาคเหนือ: จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเชียงใหม่
- ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดขอนแก่น
- ครั้งที่ 5 ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง
การขับเคลื่อนโครงการสำคัญนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพันธมิตรภาคเอกชนรายใหญ่ 3 ราย ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับภาคเกษตรกรรมไทย ได้แก่ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และโดรน, ธนาคารออมสิน สถาบันการเงินที่อยู่เคียงข้างคนไทยและพร้อมสนับสนุนแหล่งเงินทุน, และ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจเกษตรครบวงจรของประเทศไทย ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในลักษณะนี้ถือเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้โครงการประสบความสำเร็จและสร้างผลกระทบในวงกว้าง
สำหรับกลุ่มชุมชน เกษตรกร ช่างชุมชน หรือผู้ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรม Accelerate Digital Agriculture และ Pitching Day รอบภูมิภาคในจังหวัดต่างๆ ที่จะจัดขึ้น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 062 414 7778, 061 225 7778, 061 298 7774 และ 061 228 7774 หรือผ่านช่องทาง LINE Official Account: @OTOD2568 นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของโครงการได้ทาง Facebook Page: depa Thailand
การเปิดฉากกิจกรรม Accelerate Digital Agriculture และการขับเคลื่อนโครงการ OTOD#2 อย่างต่อเนื่องของ ดีป้า และพันธมิตร นับเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวที่สำคัญของการปฏิรูปภาคเกษตรกรรมไทยสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายใหญ่ของประเทศในการก้าวไปสู่ “Thailand 4.0”
#ดีป้า #depa #OTOD #OTOD2 #1ตำบล1ดิจิทัล #AccelerateDigitalAgriculture #เกษตรอัจฉริยะ #SmartFarm #เทคโนโลยีดิจิทัล #โดรนเกษตร #IoTเกษตร #แทรกเตอร์อัจฉริยะ #พระนครศรีอยุธยา #เกษตรกรไทย #เศรษฐกิจดิจิทัล