สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เตรียมจัดรอบชิงชนะเลิศ “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” ภายใต้โจทย์สุดท้าทาย “Digital ID for Foreigners” ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 นี้ เฟ้นหาสุดยอดนวัตกรโซลูชันพิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิทัลสำหรับชาวต่างชาติ หวังยกระดับ Digital Ecosystem ของไทยให้ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน สร้างความเชื่อมั่น และขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมถ่ายทอดสดให้ร่วมลุ้นแชมป์ผ่านทางเพจ ETDA Thailand
การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งและครอบคลุม หนึ่งในนั้นคือระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ซึ่งไม่เพียงแต่มีความสำคัญสำหรับพลเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย ทำงาน หรือท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน สานต่อภารกิจสำคัญในการสร้างสรรค์อนาคต Digital ID ของประเทศไทย ผ่านการจัดโครงการ ‘ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID’ ซึ่งขณะนี้ได้เดินทางมาถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศสำหรับโจทย์ที่สองแล้ว
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนี้จะจัดขึ้นภายใต้โจทย์ “Digital ID for Foreigners” นับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญสำหรับนักคิด นักพัฒนา และผู้มีทักษะด้านดิจิทัลรุ่นใหม่ ในการออกแบบโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของชาวต่างชาติให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชนได้อย่างเท่าเทียม โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขข้อจำกัดเดิมๆ และปลดล็อกศักยภาพของ Digital ID ให้สามารถตอบสนองความต้องการของชาวต่างชาติในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มแรงงานทักษะ หรือกลุ่มผู้ที่พำนักอาศัยในระยะยาว
ดร. ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า “Digital ID ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญยิ่งยวดในการขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การออกแบบระบบ Digital ID ที่ครอบคลุมถึงชาวต่างชาติจึงเป็นองค์ประกอบหลักที่จะทำให้ Digital Ecosystem ของไทยสมบูรณ์และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง ที่ผ่านมา ETDA ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจและตกผลึกแนวทางการพัฒนาระบบ Digital ID สำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องในหลายมิติ การจัด ETDA Hackathon ครั้งนี้ จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มาร่วมกัน ‘จุดประกายความคิด ปลดล็อกอนาคต Digital ID’ สร้างสรรค์ต้นแบบนวัตกรรมที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดและใช้งานได้จริง ซึ่งจะช่วยยกระดับการให้บริการที่สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก”
หลังจากผ่านกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ในที่สุดก็ได้ 10 ทีมสุดท้ายที่พร้อมจะมาประชันไอเดียและนวัตกรรมในรอบชิงชนะเลิศ ประกอบด้วยทีม AINU, BCI : Human Right คนนี้แหละใช่จริงจริง, Davoy, Global Helpcare Solutions, InDistinct, keroro, Lorem Dimsum, Onochayama, Zimplexity, และ ทีมแพวบุ้คต๊ะฟ้า แต่ละทีมได้นำเสนอแนวทางการพัฒนา Digital ID ที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ โดยมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Biometrics (การยืนยันตัวตนด้วยลักษณะทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ ใบหน้า หรือม่านตา), eKYC (กระบวนการทำความรู้จักลูกค้าทางอิเล็กทรอนิกส์), เทคโนโลยี Blockchain เพื่อความโปร่งใสและปลอดภัย, และ Verifiable Credentials (เอกสารรับรองที่สามารถตรวจสอบได้) เพื่อสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ Use Case ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ การทำธุรกรรมทางการเงิน การเดินทาง การติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ หรือการใช้บริการของภาคเอกชน ซึ่งล้วนเป็นบริการที่จำเป็นสำหรับชาวต่างชาติในปัจจุบัน
เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันมีความพร้อมและเข้าใจบริบทของโจทย์อย่างลึกซึ้ง ก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ETDA ได้จัดกิจกรรม Pre-Hack Workshop อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Workshop ครั้งที่ 3 ซึ่งเน้นเนื้อหาสำคัญและกรณีศึกษา (Use Cases) ที่เกี่ยวข้องกับ Digital ID for Foreigners โดยตรง ผู้เข้าแข่งขันได้รับฟังการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับทิศทางการใช้งาน Digital ID ข้ามพรมแดนจากผู้เชี่ยวชาญของ ETDA, เรียนรู้ Use Case Sharing เกี่ยวกับวิธีการยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนเปิดใช้งานซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือของชาวต่างชาติในประเทศไทยจากวิทยากรของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึง Use Case Sharing ด้าน Health ID ของคนต่างชาติในประเทศไทย จากแนวทางการลงทะเบียนเข้าระบบ MOPH-IC โดยวิทยากรจากสำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังมีการจัดช่วง One-on-One Session เปิดโอกาสให้แต่ละทีมได้ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเชิงลึกกับวิทยากรจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมของตนเองให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
สำหรับบรรยากาศการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ภายใต้โจทย์ “Digital ID for Foreigners” จะจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 True Digital Park โดยทั้ง 10 ทีมจะต้องนำเสนอ (Pitching) แนวคิดและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับโจทย์การแข่งขัน ทีมละ 5 นาที และตอบคำถามจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 10 นาที คณะกรรมการประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน นำโดย ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA, คุณจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA พร้อมด้วยผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำ เช่น กรมการปกครอง, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA), สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เป็นต้น
ความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากพลังของพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ประกอบด้วย กรมการปกครอง, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD), กรมสรรพากร, กรมศุลกากร, สำนักงาน กสทช., สำนักงาน สกพอ., สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.), NIA, สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, depa, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการผลักดันระบบ Digital ID ของประเทศ
ทีมที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร (e-Certificate) จาก ETDA ยิ่งไปกว่านั้น ทุกทีมที่ได้รับรางวัลยังมีโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริงร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน และได้รับโอกาสนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 ซึ่งเป็นงานประชุมด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติที่สำคัญอีกด้วย
การพัฒนาระบบ Digital ID สำหรับชาวต่างชาติไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่เปิดกว้างและพร้อมรับเทคโนโลยีดิจิทัล อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โซลูชันที่เกิดขึ้นจากเวที ETDA Hackathon นี้จึงถูกคาดหวังว่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างยั่งยืน
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสด (Live) บรรยากาศการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ และร่วมลุ้นว่าทีมใดจะเป็นผู้คว้าชัยใน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID โจทย์ “Digital ID for Foreigners” ได้พร้อมกันในวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ผ่านทางเพจ Facebook ของ ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand) และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.etda.or.th/th/digital-id-hackathon
#DigitalID #ETDAHackathon #DigitalIDforForeigners #ETDA #ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล #นวัตกรรมดิจิทัล #TechSauceGlobalSummit #DigitalThailand #ยืนยันตัวตนดิจิทัล #คนต่างด้าวในไทย #ดิจิทัลไอดี #เทคโนโลยี #สตาร์ทอัพ